เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พร้อมด้วยพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท. ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. ตัวแทนเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ท. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทวัดบางคลาน โดยพระครูพิสุทธิวรากร มอบอำนาจให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เข้าไปดูแลวัด เพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า มาตรการที่จะนำมาใช้ จะเริ่มจากเบาไปหาหนัก โดยจะเปิดให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายเจรจาหาข้อสรุปกันก่อน ส่วนตัวอยากให้ทุกอย่างจบบนโต๊ะ แต่หากไม่สำเร็จก็คงต้องนำเอากฎหมายมาบังคับใช้ โดยจะให้หลวงพ่อถอยไป แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเข้าดำเนินการตามกฎหมายกับผู้บุกรุก ส่วนกรณี สว.กิตติศักดิ์ ตนมองว่า เป็นบุคคลคนหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ อยู่ภายใต้กฎหมายต้องรับฟังเรา ถ้าไม่ให้เกียรติกันก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ถึงแม้จะเป็น สว. แต่ถ้าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

วันเดียวกัน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลกล่าวว่า กำลังเก็บข้อมูลอยู่ ตนจะไม่เข้าไปส่งเดช เพราะเข้าไปแล้วหนาว ใครอยู่เบื้องหลัง ใครสร้างปัญหา ถ้าพูดคุยกันไม่รู้เรื่องก็ว่ากันไม่ได้ ซึ่งในส่วนของคณะสงฆ์มีกฎหมายปกครองอยู่แล้ว ขณะที่ประชาชนก็ว่ากัน พอใจ ไม่พอใจอย่างไร แต่ทุกอย่างถ้าไม่มีนายทุนปัญหาไม่เกิด เพราะถ้ามีนายทุนมีผู้อยู่เบื้องหลังปัญหาจะยืดเยื้อ ตนก็คุยกับผู้อยู่เบื้องหลังก่อนถ้ามีการสร้างปัญหา แล้วให้ชาวบ้านเลือกเอาใครจะมาเป็นไวยาวัจกร ต้องมีระบบไปพูดคุยทำความเข้าใจ จะปิดวัดอยู่อย่างนี้ตลอดไม่ได้

เมื่อถามว่าได้คุยกับนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว.แล้วหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ต้องคุยทุกส่วน ขอย้ำว่าเราจะทำตามความต้องการของชาวบ้าน และวัด แต่เราไม่ทำตามความต้องการของนายทุน ผู้อยู่เบื้องหลังหรือมีส่วนได้เสีย เราไม่คุย เราจัดการเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน