เอาฤกษ์สนั่น‘วังปู่ปาริจิต’ นิมนต์พระ9รูปรับบาตร เอฟซีแห่บายศรีรับขวัญ เสริมสิริมงคลให้2จำเลย หลังศาลเลื่อนคดี‘ชมพู่’

แฟนคลับลั่นฆ้องชัยสนั่น ‘วังปู่ปาริจิต’ สกลนคร ทำบุญตักบาตร -บายศรีสู่ขวัญเป็น สิริมงคลให้ ‘ลุงพล- ป้าแต๋น’ ตั้งแต่เช้าตรู่ บรรดาเอฟซีและทีมทนายเข้าร่วมพิธีคึกคัก หลังศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ ‘น้องชมพู่’ หลานสาววัย 6 ขวบ ที่ทั้งคู่ ตกเป็นผู้ต้องหา

จากกรณี ศาลจังหวัดมุกดาหารเลื่อนอ่าน คำพิพากษา คดีการเสียชีวิตปริศนาของ ‘น้องชมพู่’ วัย 3 ขวบ บนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพัก 2 กิโลเมตร ในพื้นที่บ้านกกกอก ม.2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อปี 2563 โดยมีนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 45 ปี และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น อายุ 43 ปี สามีภรรยา ลุงเขยและป้าแท้ๆ ของด.ญ.เป็นจำเลย ไปวันที่ 20 ธ.ค. จากเดิมวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากร่างคำพิพากษาและสำนวนยังไม่กลับมาจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตาม โดยมีแฟนคลับนายไชย์พลนำช่อเงินสดไปมอบให้เป็นกำลังใจ ส่วนพ่อแม่ของน้องชมพู่แถลงเปิดใจทั้งน้ำตา ตามข่าว ที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่วังปู่ปาริจิต อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ลุงและป้าของน้องชมพู่ พร้อมด้วยทีมทนายความส่วนตัวและแฟนคลับร่วมกันทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 9 รูป จากวัดดอนสวรรค์ กับวัดจำปาดง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิต หลังจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา นายไชย์พลและนางสมพรเดินทางไปฟังคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษา และเหตุผลเลื่อนคดีฆ่าน้องชมพู่ ที่ทั้ง 2 ตกเป็นจำเลย

โดยนายไชย์พลร่วมจัดเตรียมอาหารคาวหวานและขนมที่เป็นสิริมงคลมาใส่บาตร ในครั้งนี้ด้วย เช่น กะเพราไก่, ข้าวผัดกุ้ง, หมกหน่อใส่ไก่, ข้าวเหนียวหมูทอด, ข้าวหมูแดง, น้ำพริกปลาทู พร้อมผัก เครื่องเคียง วุ้น ขนมชั้น ข้าวต้มมัด และขนมหม้อแกง หลังจากใส่บาตรเสร็จสิ้น พระสงฆ์ 9 รูป ได้ให้พรเป็นภาษาบาลี ก่อนที่ผู้เข้าร่วมตักบาตรจะกรวดน้ำ จากนั้น แฟนคลับนายไชย์พลและนางสมพรตีฆ้องจำนวน 3 ครั้ง

ต่อมาเวลา 08.39 น. นายไชย์พลและนางสมพรเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อเรียกขวัญกำลังและความเป็นสิริมงคล

สำหรับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ นายไชย์พลถูกฟ้อง 3 ข้อหา ได้แก่ 1.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดา-มารดา โดยปราศจากเหตุอันควร 2.ทอดทิ้ง เด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และ 3.กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพ ก่อนการ ชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดี เปลี่ยนแปลงไป

ส่วนนางสมพรถูกฟ้อง 1 ข้อหา ฐานกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

เรียกขวัญ – ‘ลุงพล’ นายไชย์พล วิภา และ ‘ป้าแต๋น’ นางสมพร หลาบโพธิ์ และแฟนคลับ ทำบุญตักบาตรพระก่อนทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยมีการตีฆ้องเอาฤกษ์เอาชัยด้วย หลังศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ที่วังปู่ปาริจิต อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 1 พ.ย.

ต่อมาเวลา 08.39 น. นายไชย์พลและนางสมพรทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อเรียกขวัญเข้าตัว โดยมีพราหมณ์คอยทำพิธี และมีญาติผู้ใหญ่ แฟนคลับที่นายไชย์พลเคารพนับถือ มาร่วมทำพิธีด้วย ระหว่างทำพิธี มีช่วงหนึ่งของพิธี พราหมณ์ได้สวดเรียกขวัญ และผู้ใหญ่ผูกข้อไม้ข้อมือให้บรรดาแฟนคลับและคนที่มาร่วมงาน ต่างเอิ้นขวัญ ให้กับทั้งคู่ เสียงดังกึกก้อง

นอกจากนี้ บรรดาแฟนคลับที่มาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ นำเงินสด ทั้งแบงก์พัน แบงก์ห้าร้อย แบงก์ร้อย มาผูกกับสายสิญจน์ ก่อนจะผูกข้อไม้ ข้อมือให้ บางรายนำพวงมาลัยเงินคล้องคอให้นายไชย์พลและนางสมพร

ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันจะมีนางรำต่างอำเภอมาร่วมรำเพื่ออวยพร และแก้บนให้กับ ทั้งคู่ด้วย แต่พิธีในวันนี้ ไม่มีครอบครัวของนางสมพรมาร่วมพิธีด้วยแต่อย่างใด

นายไชย์พลกล่าวว่า สำหรับพิธีบายศรีสู่ขวัญ แฟนคลับจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าเราไปฟังคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร งานในวันนี้ยังเกิดขึ้นอยู่ดี ซึ่งประเพณีบายศรีสู่ขวัญเป็นประเพณี ของคนอีสานที่จะที่จะรับขวัญที่ญาติผู้ใหญ่ ให้ความรักเรามาเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์พิธีหนึ่ง โดยในช่วงนึงที่น้ำตาคลอเพราะมันเป็นความตื้นตันใจ ที่เห็นชาวบ้านและคนในชุมชนหลั่งไหลเข้ามาให้กำลังใจมากมาย ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาครอบครัวโดนกระทำมามาก แผนการก่อนที่จะถึงวันที่ 20 ธ.ค.ที่จะต้องไปฟังคำพิพากษา คงพัฒนาพื้นที่วังปู่ปาริจิตนาคราช ต่อ และเดือนนี้จะเดินสายทำบุญกฐิน 9 วัด

“สำหรับประเด็นดราม่าในโลกโซเชี่ยลที่การแถลงข่าวระหว่างแม่ชมพู่กับลุง บรรยากาศแตกต่างกันนั้น ลุงมองว่าไม่ว่าภาพที่ออกมาจะเป็นฝั่งไหนก็ตามความรู้สึกทั้งลุงและป้า เราสู้กันมาจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม และเราได้รับคำตอบที่มีการเลื่อนออกไป เราก็น้อมรับ แต่จะให้เรามาทำหน้าเศร้าเหมือนคนที่เป็นทุกข์ก็คงจะไม่ได้ บางครั้งเราก็ต้องปลดปล่อยมันออกมาบ้าง อย่างเมื่อวานที่ผ่านมา ก็ไปทานข้าวและร้องเพลง 2 เพลงเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเพลงให้กำลังใจกันด้วย” นายไชย์พลกล่าว

ด้าน นางสมพรกล่าวว่า เรามีกำลังใจจากแฟน ยูทูบเบอร์เป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายก็มีกำลังใจเหมือนกันจะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะทุกคนต่างมีแฟนคลับของกันและกัน แต่เมื่อวานที่ผ่านมา มีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจและเราเห็นว่าผู้สื่อข่าวมาเยอะ เราไม่อยากสัมภาษณ์ หน้าศาล เนื่องจากไม่อยากรบกวนถนนหรือบริเวณนั้น จึงแถลงข่าวที่ห้องจัดงานเท่านั้นไม่ได้มีอะไรที่มันแตกต่างกัน เพราะจะสัมภาษณ์ที่ไหนก็ตาม มันอยู่ที่ว่าความเป็นจริงที่เราต่อสู้กันทั้งสองคนและอยู่ที่คำแถลงของทนายแต่ละฝ่ายมากกว่า

สำหรับงานในวันนี้แฟนคลับเป็นคน จัดให้หมดเลยพร้อมกับบอกว่าถ้าหากวันที่ 31 ต.ค. มีการประกันตัวออกมา จากนั้นจะกลับมาที่นี่เหมือนเดิมแล้วมาทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เราจะเพียงแค่ทำบุญตักบาตรเท่านั้น เรามีกำลังใจดีทุกวัน เมื่อไหร่ที่มองลูก จะมีกำลังใจเมื่อนั้น

“อยากตะโกนดังๆ ว่าเขาสูญเสีย แต่เราก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำ เขาต้องเข้าใจ ว่า เราไม่ใช่คนทำ เราเข้าใจว่าความเสียใจมันมี แต่ความสูญเสียของเขาไม่ใช่จะมาโยนให้เรา ทั้งที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง สำหรับประเด็น ที่แม่ของน้องชมพู่บอกว่า ฝ่ายลุงพลกับ ป้าแต๋นมีโอกาสได้ชี้แจง คิดว่าด้วยบุญ ที่เราสะสมมา คิดดี ทำดี มันก็ทำให้มีคนให้โอกาสและสนับสนุนให้เราได้ต่อสู้ เงยตา อ้าปาก ต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับเรา โดยแฟนคลับของเรามีทั้งเป็นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เป็นคนที่มีความรู้ สามารถ คิดวิเคราะห์ได้ เขามองด้วยตาของเขาเอง เราไม่ได้ไปขอให้ใครมารัก มาสนับสนุน แต่เขามาด้วยใจ” นางสมพรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน