ใช้ฉีดพ่นทำเป็นหมอก หามนร.ส่งรพ.-นับสิบ

งานปิดกีฬาสีโรงเรียนวุ่น ใช้ถังดับเพลิงมาฉีดทำหมอกควัน นักเรียนถูกหามส่งโรงพยาบาลนับสิบราย หลังเกิดอาการแสบคอ- แสบจมูก แน่นหน้าอกและอาเจียน เพราะถูกควันจากถังน้ำยาดับเพลิง เหตุเพื่อนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แอบนำมาใช้ฉีดพ่นเป็นเอฟเฟ็กต์ คล้ายควันดรายไอซ์เวทีคอนเสิร์ตจนสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วสนามกีฬา ด้าน ผอ.โรงเรียนสั่งล้อมคอก ยืนยันจะไม่ให้มีเหตุการณ์นำถังดับเพลิงพ่นสารเคมีทำเป็นเอฟเฟ็กต์ในการแสดงกีฬาสีขึ้นอีก ขณะที่หัวหน้ากู้ภัยชี้ใช้ผิดวิธีและฉีดปริมาณที่มากไป เพราะเป็นสารเคมีแห้ง ควรเป็นถังแบบที่เป็นน้ำแข็งแห้ง

วันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีสื่อออนไลน์ส่งต่อคลิปวิดีโอและภาพนิ่ง เหตุการณ์นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งจัดงานกีฬาภายใน ระหว่างการแสดงของนักเรียนอยู่นั้นได้มีผู้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นขึ้นมาเป็นเอฟเฟ็กต์ควัน คล้ายควันดรายไอซ์ในเวทีคอนเสิร์ต ทำให้บริเวณพื้นที่นักเรียนแสดงอยู่นั้นมีกลุ่มควันคละคลุ้งไปทั่ว

หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อเริ่มมีนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มที่แสดง และนักเรียนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เริ่มมีอาการแสบคอ แสบจมูก แน่นหน้าอก และอาเจียน จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มารอสนับสนุนอยู่ภายในงาน รีบเข้าช่วยเหลือนำตัวนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นควันของถังดับเพลิงส่งรักษาอาการที่ โรงพยาบาลภูเวียงกันอย่างเร่งด่วน

ต่อมานายทวิช พิมพะ นายอำเภอภูเวียง เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 10 พ.ย. ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งของอ.ภูเวียง ซึ่งจัดงานแข่งขันกีฬาสี เหตุนี้เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนประจำสีเหลืองแสดงพิธีปิดงานกีฬา แต่มีเพื่อนักเรียนนำเอาถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อใช้เป็นเอฟเฟ็กต์ควัน โดยที่คณะครูอาจารย์ไม่มีใครทราบ จนเป็นเหตุให้นักเรียนที่กำลังแสดง และนักเรียนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการสูดดมกลิ่นสารเคมีของสารดับเพลิงเข้าไป หลายคนมีอาการแสบคอ แสบจมูก แน่นหน้าอก และอาเจียน รวมแล้วกว่า 20 คน ทีมแพทย์สนามและเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยที่อยู่ภายในงานต้องรีบเข้าปฐมพยาบาลและนำตัวส่งรักษาอาการต่อที่ร.พ.ภูเวียง เบื้องต้นมีนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการสูดดมสารเคมีต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 9 ราย ส่วนที่เหลือได้เดินทางกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเด็กทั้ง 9 รายก็เดินทางกลับบ้านไปแล้วอีกด้วย

นายทวิชกล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่องตนยังได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเวียง เข้าตรวจสอบเหตุ และสอบปากคำนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด รวมทั้งรายงานเหตุไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และรายงานความคืบหน้าให้ทราบตลอดอีกด้วย พร้อมกำชับไปยังสถานศึกษาต่างๆ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับถังสารเคมีดับเพลิงว่าไม่ควรนำไปใช้ผิดประเภท และจะต้องมีการจัดเก็บไว้ในที่เหมาะสมด้วย เพราะกรณีที่เกิดขึ้นนักเรียนแอบไปเอาถังดับเพลิงที่อยู่ในอาคารมาใช้ประกอบการแสดง โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อพ่นออกมาแล้วสารเคมีได้ฟุ้งกระจายไปทั่วสนามกีฬา ทำให้นักเรียนจำนวนมากหายใจไม่ออก

กีฬาสีป่วน – ภาพนาทีนักเรียนจัดการแสดงในพิธีปิดกีฬาสีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยใช้สารเคมีจากถังดับเพลิงฉีดพ่นเป็นหมอกควัน ทำให้คนที่ทำกิจกรรมเชียร์มีอาการแสบคอ แน่นหน้าอก และอาเจียน ต้องนำส่งร.พ. นับสิบราย เมื่อค่ำวันที่ 10 พ.ย.

ด้านนายสุริยา ห่มขวา ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นขณะนักเรียนร่วมแสดงเชียร์ลีดเดอร์ในพิธีปิดกีฬาสี ที่สนามของโรงเรียน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เพราะคณะครู อาจารย์ ไม่มีใครรู้เรื่องมาก่อน เป็นการกระทำของนักเรียนสีเหลืองบางกลุ่ม บางคนเท่านั้น การแข่งขันกีฬาสีดำเนินการมาจนวันสุดท้ายที่มีพิธีปิด ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น การแข่งขันกีฬาดำเนินการไปอย่างราบรื่น แต่ขณะที่มีการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์นั้น สีเหลืองก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะมีนักเรียนลักลอบนำถังดับเพลิงเข้ามาใช้ในกิจกรรมการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์ในช่วงพิธีปิดการแข่งขันกีฬา และเป็นสิ่งที่คณะครูที่ควบคุมดูแลนักกีฬาและเชียร์ลีดเดอร์ไม่รู้เรื่องและไม่ระแคะระคายมาก่อนว่านักเรียนจะเอาถังดับเพลิงเข้ามาร่วมในกิจกรรม แล้วนำถังดับเพลิงฉีดพ่นประกอบการแสดงเชียร์ลีดเดอร์ ฉีดปิดงานก่อนจุดพลุแฟร์ ทั้งควันจากพลุ ทั้งสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

“การแสดงเชียร์ลีดเดอร์เป็นการแสดงชุดสุดท้ายของสีเหลือง ณ บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนโดยใช้ถังดับเพลิงประกอบ การทำเอฟเฟ็กต์จำนวน 2 ถัง แสดงได้ประมาณ 6 นาที ทำให้เกิดฝุ่นควันสารเคมีดับเพลิงฟุ้งกระจายไปบริเวณกว้าง นักเรียนซึ่งเป็นผู้แสดงและผู้ชมการแสดงเกิดสูดดม สำลักสารเคมีจากถังดับเพลิงถูกนำส่งโรงพยาบาลภูเวียง เบื้องต้นจำนวน 40 ราย มีอาการไอ แน่นหน้าอก มีอาการระคายเคืองผิวหนัง และอาเจียน หลังจากแพทย์พยาบาลได้เข้าช่วยเหลือรักษาอย่างทันท่วงที พบว่ามีอาการเล็กน้อย ได้รับการปฐมพยาบาล และส่งตัวกลับบ้านแล้ว จำนวน 34 ราย และมีอาการหายใจไม่สะดวก แสบคอ แอดมิตที่ โรงพยาบาลภูเวียง เพื่อรอแพทย์ตรวจรักษา จำนวน 6 ราย” ผอ.โรงเรียนกล่าว

นายสุริยากล่าวต่อว่า จากการสอบสวนคณะครูผู้ควบคุมการแสดงของนักเรียนปรากฏว่า คณะครูไม่ทราบว่า นักเรียนที่แสดงเชียร์ลีดเดอร์จะนำถังดับเพลิงมาฉีดพ่นประกอบการแสดงมาก่อน จึงไม่ได้เข้าไปห้ามปราม หลังจากเกิดเหตุจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนนักเรียนกลุ่มนักแสดง จึงได้มีการแจ้งตำรวจให้มาเก็บถังดับเพลิงที่นักเรียนนำมาใช้ในกิจกรรมพิธีปิดการแข่งขันกีฬาสีไปตรวจสอบ ซึ่งหากผลการตรวจสอบของตำรวจออกมาว่าเป็นสารเคมีที่มีอันตราย ไม่ควรนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ทางโรงเรียนก็จะปรึกษากับตำรวจว่าจะดำเนินการเอาผิดกับใครได้บ้าง หรือจะต้องทำอย่างไรต่อ เพราะขณะนี้นักเรียนปลอดภัยทุกคนแล้ว รายสุดท้ายแพทย์ก็จะให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก โรงเรียนก็จะให้ความรู้กับนักเรียนและทำความเข้าใจกับชุมชนในพื้นที่ ในการจะสนับสนุนนักเรียนให้พิจารณาความเหมาะสม และควรแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบด้วย เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ด้าน จ.ส.ต.เด่นนภา มีทา หัวหน้างานกู้ภัยและบรรเทาภัย เทศบาลนครขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ทดสอบการฉีดดับเพลิงด้วยถังดับเพลิงแบบเคมีแห้ง เพื่อดูการฟุ้งกระจายของสารเคมี ก่อนนำมาเปรียบเทียบกับเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะนำถังดับเพลิงไปใช้ผิดวิธีและมีการฉีดในปริมาณที่มาก สารดับเพลิงเคมีแห้งหรือ Dry Chemical จะทำให้บรรยากาศบริเวณที่ฉีดจะเต็มไปด้วยผงแมกนีเซียม ซึ่งเป็นสารประกอบที่อยู่ในถังดับเพลิง เมื่อสูดหายใจเข้าไปก็จะเกิดอาการติดขัด ส่วนคนที่มีอาการแพ้ก็จะทำให้หายใจไม่ออก บางคนแพ้มากจะทำให้เกิดอาเจียนได้ และอาเจียนเป็นเลือดได้ หากต้องการจะนำไปทำเอฟเฟ็กต์ก็ควรเป็นถังดับเพลิงแบบ CO2 เพราะจะเป็นน้ำแข็งแห้ง เมื่อพ่นออกมาก็จะฟุ้งกระจายและระเหยไปในอากาศในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน