11 จังหวัดสำลักฝุ่นพิษ กรมอนามัยเตือนมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าสูงสุดอยู่ที่มหาชัย สมุทรสาคร สาเหตุจากอากาศเริ่มหนาวเย็น ความกดอากาศต่ำ ลมสงบ ทำให้ฝุ่นสะสม ขณะที่กรมควบคุมมลพิษรายงานค่าฝุ่น กทม.และปริมณฑล เกินค่ามาตรฐาน 23 พื้นที่ ภาคเหนือเกิน 4 พื้นที่ ภาคอีสาน ภาคกลาง 1 พื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกและใต้อากาศดี

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่ทั่วประเทศ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าฝุ่นได้ 10-60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตรวจพบค่า 21-57 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 23 พื้นที่ ได้แก่ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี, ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน, ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด, ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน, ริมถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์, ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน

ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา, ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, ริมถนนเลียบวารี เขตหนองจอก, ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี, ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่, ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย, ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ, ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม, ริมถนนเอกชัย เขต บางบอน, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพฯ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร, ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทร สาคร, ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ, ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม

ส่วนภาคเหนือ 10-54 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 4 พื้นที่ ได้แก่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร, ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย และ ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงหนือ 15-60 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 1 พื้นที่ คือ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ส่วนภาคกลาง 28-41 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐาน 1 พื้นที่ คือ ต.ดอนกำยาน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สำหรับภาคตะวันออกและภาคใต้ คุณภาพอากาศดี ไม่พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

กรมควบคุมมลพิษรายงานอีกว่า คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงวันที่ 22-24 พ.ย. มีแนวโน้มสูง เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาปกคลุม ประกอบกับปริมาณฝนน้อยลงและลมสงบ ทำให้ฝุ่นเริ่มสะสมในพื้นที่

ขณะเดียวกัน พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ จ.อุทัยธานี สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก สุพรรณบุรี หนองคาย นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทร ปราการ นครปฐม และกรุงเทพมหานคร โดยค่าสูงสุดอยู่ที่ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ส่งผลให้ในบางพื้นที่มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้มที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประกอบกับช่วงนี้อากาศเริ่ม หนาวเย็น ความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้ค่าฝุ่นสูง

พญ.อัจฉรากล่าวว่า แนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้าริมถนน พนักงานกวาดถนน คนขับรถรับจ้างทั้งรถจักรยานยนต์และรถสามล้อ พนักงานส่งอาหาร และผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเลือกหน้ากากที่ได้มาตรฐาน สะอาด ไม่มีกลิ่นผิดปกติ หรือฉีกขาด ขนาดเหมาะสมกับใบหน้า และกิจกรรม หรือลักษณะงานของผู้สวมใส่ เช่น หน้ากากเอ็น 95 เหมาะสำหรับกลุ่มทำงานกลางแจ้ง เช่น คนงานก่อสร้าง ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับจราจร พนักงานกวาดถนน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน