ครม.สัญจรคึก รมต.ลุยพบปชช. ปราบยา-แก้จนดันค้าชายแดน ทุ่มงบ8พันล้านช่วยค่าตัดอ้อย

‘เศรษฐา’นั่งหัวโต๊ะประชุมครม.สัญจรครั้งแรกที่หนองบัวลำภู มุ่งแก้ปัญหาความยากจน- ยาเสพติด ชาวบ้านแห่ต้อนรับขอให้เป็นนายกฯ ยาวๆ 12 ปี ‘ภูมิธรรม’ชงขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายครอบคลุมอุดรธานี เสริมประตูมังกร สร้างเศรษฐกิจการค้าชายแดน อุตฯ ขอ 8 พันล้านอุดหนุนชาวไร่ตัดอ้อยสด ลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จ.เลยดันสร้างกระเช้าภูกระดึง เพื่อไทยเผยเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประกบฉบับก้าวไกล ซูเปอร์โพลเผยประชาชนยังหนุนรัฐบาลทำงาน เว้นคนรุ่นใหม่ นิด้าโพลระบุคนเชียร์‘มาดามเดียร์’เป็นหัวหน้าปชป.คนใหม่

‘เศรษฐา’ลุยหนองบัวฯคึกคัก
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาความยากจน พร้อมมอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละคนลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน และตรวจราชการในส่วนงานที่กำกับดูแล ก่อนจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2566 ที่โรงแรมณัฐพงษ์แกรนด์ จ.หนองบัวลำภู ในวันที่ 4 ธ.ค.

เวลา 14.00 น. นายเศรษฐา ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กลไกการบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน (Community Based Treatment : CBTx) ที่บ้านภูดินทอง หมู่ที่ 13 ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง โดยใช้รถยนต์โตโยต้า สีดำ ทะเบียน กล 5558 อุดรธานี เป็นพาหนะ มีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ต้อนรับ

ตลอดเส้นทางก่อนถึงบริเวณจัดงาน มีการติดตั้งป้ายข้อความขนาดใหญ่ต้อนรับนายกฯ เป็นระยะ ส่วนภายในบ้านกุดดินจี่ มีประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันสาธารณภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กลุ่ม ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ต้อนรับและให้ กำลังใจนายกฯ อย่างคึกคัก

หอมแก้ม – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถูกชาวบ้านผู้สูงอายุ รุมล้อมหอมแก้ม ระหว่างเดินทางไป ติดตามการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสุวรรณคูหา ก่อนประชุม ครม.สัญจรที่จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

ชาวบ้านขอให้เป็นที่พึ่งอีก 12 ปี
นายเศรษฐากล่าวกับผู้กล้าที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ว่า แสดงความยินดีกับทุกคนที่หลุดพ้นจากยาเสพติด และก้าวพ้นมาได้ และขอนำทุกคนกลับเข้ามาสู่สังคม เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ สามารถช่วยเหลือสังคมและเป็นบุคลากรที่สำคัญในการขับเคลื่อนสังคมของเราเดินไปข้างหน้า ขอให้มีความภูมิใจ ให้ลืมอดีตและอย่าหวนกลับไปอีก

จากนั้นนายเศรษฐา เยี่ยมชมนิทรรศการและสินค้าโอท็อปของชุมชน พบปะกับอสม. ชรบ. พร้อมขอถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยโดยประชาชนปรี่เข้ามาสวมกอด หอมแก้ม ช่วงหนึ่งประชาชนอวยพรให้นายกฯ เป็นที่พึ่งของประชาชนไปอีก 12 ปี

เวลา 15.30 น. นายเศรษฐา เข้าสักการะศาลหลักเมืองพระยาไชยเชษฐาธิราช และสักการะอนุสาวรีย์ไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ที่.อ.สุวรรณคูหา และตรวจติดตามการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและความยากจน และการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติด “หนองบัวลำภูโมเดล” ที่โรงพยาบาลสุวรรณคูหา เยี่ยมชมการให้บริการรถฉุกเฉินพระราชทาน รถเอกซเรย์ระบบดิจิทัลพระราชทาน รถเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่

ตรวจสุขภาพ-ตื่นเต้น-เครียดสูง
นายเศรษฐา ได้ทดลองใช้บริการ รถโมบายคลายเครียดจากโรงพยาบาล สวนปรุง ซึ่งเป็นรถเคลื่อนที่นำหมอออกไปให้คำปรึกษาประชาชน พร้อมทดลองเครื่องไบโอฟีดแบ็ก หรือเครื่องคัดกรองสภาวะสุขภาพจิต เมื่อผลตรวจออกมา เจ้าหน้าที่แจ้งนายกฯ ว่าระดับความเครียดถือว่าเครียดอยู่ มีสภาวะความเครียด ความกดดัน ตื่นเต้นสูง ส่วนระบบประสาทดี ความบาลานซ์ของระบบประสาทอัตโนมัติทั้งสองด้านไม่สมดุลกัน แต่สุขภาวะหลอดเลือดเมื่อเทียบกับอายุแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเทียบกับคนที่อายุ 30-40 ปี หลอดเลือดส่วนปลาย การไหลเวียนหลอดเลือดแดงดีมาก

เจ้าหน้าที่ยังบอกด้วยว่านายกฯ คงออกกำลังกายประจำจึงทำให้ระบบเลือด ไหลเวียนดี แต่เรื่องระบบประสาทความบาลานซ์ไม่สมดุลกัน นายกฯ จึงถามว่าผลหมายถึงอะไร เจ้าหน้าที่ตอบว่ามีเรื่องของความตื่นเต้นและมีสภาวะความเครียดสูง ระดับ very high มีความเหนื่อยล้าของสภาวะร่างกาย จังหวะนี้นายกฯ กล่าวว่า “แม่นมากเลย” เจ้าหน้าที่ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนความฟิตของร่างกายตอนนี้ไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่ พร้อมแนะนำให้นายกฯ พักผ่อนเยอะๆ

หลังจากนั้นนายเศรษฐา เยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติด 6 บูธ จาก 6 อำเภอ ได้แก่ สุวรรณคูหา นากลาง ศรีบุญเรือง เมืองหนองบัวลำภู โนนสัง และอ.นาวัง และตรวจเยี่ยมกระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช ที่โรงพยาบาลสุวรรณคูหา

วิถีพื้นถิ่น – คุณยายตัวแทนหมู่บ้าน ผูกข้อมือรับขวัญนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างร่วมกิจกรรมประเพณีวิถี พื้นถิ่นในวัดสุวรรณาราม ก่อนประชุมครม.สัญจรที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

ประเดิมหนองบัวฯ-ไม่ได้สร้างภาพ
เวลา 16.20 น. นายเศรษฐาเดินทางมาถึงศูนย์ราชการ อ.สุวรรณคูหา พบปะกับชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน 6,000 คน พร้อมสักการะอนุสาวรีย์ไทยอาสาป้องกันชาติ หน้าที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา

นายเศรษฐากล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาจัดประชุมครม.สัญจรที่จ.หนองบัวลำภู ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ เข้ามาทำงาน ถือเป็นความตั้งใจที่ต้องมา จ.หนองบัวลำภูเป็นจังหวัดแรก เพราะถือเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำที่สุด ขอยืนยันว่าไม่ได้มาเพื่อเป็นการสร้างภาพอะไร แต่ต้องการมาดูชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ประสบความยากลำบากไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ รวมถึงจังหวัดนี้ยังประสบปัญหายาเสพติดเป็นจำนวนมาก

จากการที่ตนได้มาลงพื้นที่หลายจุด ได้เห็นว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถดูแลและบำบัดประชาชนที่ติดยาเสพติดซึ่งถือเป็น ผู้ป่วยไปได้ โดยผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา จนหายดีแล้วกลับคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้องได้อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี เป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมต่อไป ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้มาวันนี้

เวลา 17.00 น. นายเศรษฐาร่วม การแข่งขันฟุตบอลกับทีมเยาวชนฮีโร่สุวรรณคูหา ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนอนุบาลสุวรรณคูหา เสร็จแล้วไปเยี่ยมชมกิจกรรมประเพณีวิถีพื้นถิ่น และรับประทานอาหารพื้นบ้าน ที่วัดสุวรรณาราม อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

รับแบกความหวังปชช.
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงผลการคัดกรองสภาวะสุขภาพจิตที่มีความเครียดสูงว่า รู้สึกตกใจเหมือนกัน ที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้วัดเครื่องความเครียด แต่เมื่อได้เล่นฟุตบอลในสิ่งที่ชอบ ก็ดีใจและสบายใจขึ้น แต่ตำแหน่งอย่างนี้แบกความหวังของพี่น้องประชาชน 68 ล้านคนไว้ ปัญหาเต็มไปหมดก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา ถ้าไม่เครียดก็ไม่ใช่คนที่แคร์กับเรื่องสำคัญพวกนี้ แต่ไม่เป็นไรแบกได้ พยายามออกกำลังกายประจำ เมื่อมีโอกาสก็วิ่งบ้างอะไรบ้าง แต่น้อยลงตั้งแต่รับตำแหน่งมา

วันที่ 4 ธ.ค.จะมีการประชุมครม.ที่ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งได้สัญญากับนายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไว้ว่าจะเป็นจังหวัดแรกที่จะมาประชุม ครม.นอกสถานที่ เพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่ำที่สุด อยากจะมาเห็นปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ ยาเสพติด และเชื่อว่าคงจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯบอกว่าแบกปัญหาหนักมาก ตอนนี้มีเรื่องอะไรที่หนักที่สุด นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรหนักที่สุดแต่เป็นทุกๆ เรื่อง เรื่องยาเสพติด หนี้นอกระบบ รายได้ต่อบุคคล pm2.5 เพราะเข้าสู่ไฮซีซั่นแล้ว เรื่องเศรษฐกิจก็เรื่องใหญ่ รวมถึงปัญหาราคาพืชผลเป็นปัญหาใหญ่ทั้งนั้น ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่กว่าอะไร

ต่อข้อถามว่า หลังเป็นนายกฯรู้สึกตกใจหรือไม่ เมื่อเห็นปัญหาประเทศเยอะขนาดนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า บางเรื่องไปในทิศทางที่แปลกใจและเศร้าใจ เพราะมีเยอะขึ้นกว่าเดิม ปัญหายาเสพติดทราบดีอยู่แล้วเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาหนี้นอกระบบนึกว่าจะมีเยอะ แต่ไม่นึกว่าจะเยอะขนาดนี้

เมื่อถามว่า การประชุมครม.สัญจร มีเรื่องอะไรที่ต้องผลักดันเป็นพิเศษหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าทุกเรื่อง การสัญจรการคมนาคม ชีวิตความเป็นอยู่ เรื่องยาเสพติด สาธารณสุขก็เรื่องใหญ่ วันนี้แปลกใจที่พบพยาธิในตับถุงน้ำดี ประชาชนในเขตนี้บริโภคอาหารกึ่งดิบกึ่งสุกเยอะ จึงตกใจในจำนวนคนที่เป็นโรคนี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อที่จะสามารถรักษาโรคนี้ได้ 30 บาทก็ช่วยได้เยอะ และนโยบายดังกล่าวจะทำให้ดีขึ้น

ให้กำลังใจ – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน พร้อมด้วยนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ตรวจเยี่ยมพบปะให้กำลังใจ ‘กลุ่มไม้ไผ่แปรรูป’ ที่บ้านยามกาใหญ่ ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

‘อ้วน’ชงขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจในการประชุมครม.สัญจรครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภู ว่า ประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอเข้าสู่การประชุมครม.ครั้งนี้เป็นผลมาจากการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย ดังนี้

1.การขอขยายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคายให้ครอบคลุมถึงเขตนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับผู้ประกอบการในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย 2.การส่งเสริม Logistics Park ในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้เป็น One Stop Service (OSS) 3.การจัดตั้งเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี (E-commerce) 4.การประกาศเขตพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีให้เป็นเขตศุลกากร

การผนวกหนองคายและอุดรธานีอยู่ร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นการผนึกกำลังสร้างความเข้มแข็งในการเป็นประตูมังกรที่มีศักยภาพสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศที่ดูแลเรื่องนี้จะช่วยผลักดันอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นจะนำเสนอให้ครม.พิจารณาหาช่องทางจ่ายเงินคืนค่าตัดอ้อยสดที่ชาวไร่อ้อยได้ช่วยลดมลพิษ PM 2.5 ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วติดค้างจ่ายให้ชาวไร่อ้อย โดยกระทรวงพาณิชย์เเละกระทรวงอุตสาหกรรมจะช่วยกันดำเนินการให้แล้วเสร็จทันทีที่มีการจัดสรรงบใหม่เรียบร้อย

อุตฯขอ8พันล.อุดหนุนชาวไร่อ้อย
ด้านน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวระหว่างลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวไร่อ้อยพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานีว่า ในการประชุมครม.สัญจร วันที่ 4 ธ.ค. จะนำเสนอโครงการสนับสนุนเงินชาวไร่อ้อยในการตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 คาดจะใช้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 ราย ท่ามกลางต้นทุนการผลิตอ้อยปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ล่าสุดสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานกิโลกรัม(ก.ก.) ละ 21-22 บาท จากเดิมที่ก.ก.ละ 19-20 บาท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จะใช้เป็นองค์ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้น ทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น

‘ปานปรีย์’ปลื้มกงสุลสัญจร
ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ของกรมการกงสุล

นายปานปรีย์ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่กระทรวงการต่างประเทศมีกงสุลสัญจร เพื่อทำหนังสือเดินทางให้พี่น้องประชาชน ซึ่งไม่ต้องเดินทางไปในจังหวัดอื่น โดยกงสุลที่รับทำพาสปอร์ตมี 4 แห่ง ในพื้นที่ภาคอีสาน คือ จ.ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และ นครราชสีมา ซึ่งการทำกงสุลสัญจรสามารถเข้ามาในพื้นที่ใกล้กันและให้บริการประชาชนได้ คิดว่าเป็นประโยชน์มาก และอธิบดีกงสุลรายงานว่าสามารถรองรับพี่น้องประชาชนได้ถึงวันละ 500 คน ถือเป็นครั้งแรกที่มา จ.หนองบัวลำภู โดยจะเปิดเป็นเวลา 2 วัน สามารถรองรับได้ 1,000 คน ส่วนการ ประชุมครม.สัญจรในวันที่ 4 ธ.ค.คงจะรับทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศได้จัดกงสุลสัญจรไปทั่วประเทศ

‘บิ๊กทิน’ไม่กังวล-ฮ.ขัดข้อง
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีกำหนดลงพื้นที่ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวกับชาว ต.หนองสวรรค์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ในเวลา 08.20 น. แต่เกิดปัญหาเครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์ขัดข้อง ทำให้การเดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ มาจ.หนองบัวลำภู ช้ากว่า 1 ช.ม.

เมื่อเดินทางถึงที่หมายโดยปลอดภัย นายสุทินเปิดเผยว่าสาเหตุที่มาล่าช้าเพราะก่อนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินได้กลิ่นน้ำมันเครื่อง จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หลังยืนยันว่ามีความปลอดภัยจึงนำเครื่องขึ้นตามปกติ โดยใช้ลำเดิมไม่ได้เปลี่ยนลำใหม่ พร้อมขอบคุณที่ชาวบ้านแสดงความเป็นห่วง ซึ่งตนไม่ได้กังวลอะไร

นายสุทินกล่าวกับชาวบ้านว่า อดใจรอหน่อยกับโครงการเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้รัฐบาลกำลังหาเงินอยู่ เพราะเงินไม่มี เนื่องจากรัฐบาลที่แล้วมีหนี้สินมาก ส่วนเรื่องที่ดินทหารที่ไม่สามารถแบ่งที่ดินส่วนใหญ่มาให้ชาวบ้านใช้ทำกินได้เพราะต้องใช้พื้นที่ฝึกเป็นบริเวณกว้าง จากเดิมซ้อมฝึกยิงปืนใหญ่อาจอยู่ในระยะ 7 ก.ม. แต่หลังจากที่วิวัฒนาการต่างๆ อาวุธยุทโธปกรณ์ของหลายประเทศพัฒนาไปมาก ต้องมีการฝึกซ้อมโดยใช้พื้นที่กว้างในระยะไกลขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถแบ่งพื้นที่ให้ ชาวบ้านเข้าไปทำกินได้เพื่อความปลอดภัย

เยี่ยมชม – ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เยี่ยมชมการดำเนินงานแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง B.K. 77 บ้านโพนแก้ว หมู่ 10 ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

‘ธรรมนัส’หนุนกล้วยหอมบึงกาฬ
ที่จ.บึงกาฬ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวบึงกาฬ ที่ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางในการปรับปรุงพันธุ์ให้ได้คุณภาพ โดยพื้นที่จ.หนองคาย และบึงกาฬ มีศูนย์วิจัยข้าวหนองคาย ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์จนได้พันธุ์ข้าวคุณภาพดี จำนวนหลายพันธุ์ อาทิ ข้าวเหนียวพันธุ์ กข22 ผลผลิตเฉลี่ย 684 กิโลกรัมต่อไร่ และข้าวเจ้าคุณภาพพิเศษ พันธุ์ กข83 (มะลิดำหนองคาย 62) ผลผลิตเฉลี่ย 640 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นต้น ซึ่งการปรับปรุงเมล็ดข้าวพันธุ์ดี จะทำให้ชาวนามีผลผลิตข้าวต่อไร่เพิ่มขึ้น และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ในราคาที่สูงขึ้น

จากนั้นร.อ.ธรรมนัส ติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง B.K.77 บ้านโพนแก้ว หมู่ 10 ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ที่มุ่งเน้นตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ โดยกระทรวงเกษตรฯ มีแผนขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองเชื่อมโยงเครือข่าย การสร้างโรงงานคัดแยกกล้วยหอมทอง เพิ่มปริมาณส่งออกไปต่างประเทศ และนำวัสดุเหลือใช้จากใยต้นกล้วย แปรรูปเพิ่มมูลค่า

ห่วงเด็ก – นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำคณะติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเมื่อปี 2565 ที่โรงเรียนบ้านหนองกุงศรีโพธิ์ศรีสมพร อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

‘ท็อป’เยี่ยมครอบครัวศูนย์เด็กเล็ก
เวลา 10.40 น. ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชั่วคราว บริเวณโรงเรียนบ้านหนองกุงศรีโพธิ์ศรีสมพร ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พร้อมคณะผู้บริหารของกระทรวง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565

นายวราวุธกล่าวหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ว่า ตนได้ให้แนวทางกับเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่หนองบัวลำภู ว่าขอให้ปี 2567 เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ ซ้ำรอยเหมือนเมื่อปี 2565 แม้เราต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย แต่ต้องยอมเหนื่อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เพราะถ้าเหตุเกิดขึ้นแล้ว เราจะยิ่งเหนื่อยหนักขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายนายวราวุธ และคณะไปพบปะเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย

‘เกรียง’สั่งตั้งด่านปีใหม่ทุก50กม.
ที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และคณะลงพื้นที่จ.อุดรธานี เพื่อประชุมติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าฯ อุดรธานี ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายเกรียงกล่าวว่า ตนลงพื้นที่มาติดตามปัญหาของประชาชน อาทิ การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 จะกำหนดให้มีการตั้งด่าน/จุดตรวจ จุดสกัดอย่างน้อย 50 ก.ม./ด่าน (ในถนนสายหลัก) เพื่อลดปริมาณด่านเกินความจำเป็น และไม่ทำให้การจราจรติดขัด พร้อมทั้งให้พิจารณาจุดที่ตั้งด่านต้องเป็นพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะจุดโค้งอันตราย ถนนเส้นหลักทางตรงระยะยาว, การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้ง, การแก้ไขปัญหาความยากจน, หนี้นอกระบบและปัญหายาเสพติด

จ.เลยดันสร้างกระเช้าภูกระดึง
เวลา 14.00 น. นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ ร่วมประชุมตรวจติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของ จ.เลย ซึ่งจ.เลย ได้เสนอให้มีการสร้างกระเช้า ขึ้นภูกระดึงให้สำเร็จในยุคนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ให้ทุกพื้นที่

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า จ.เลย ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพ จึงอยากให้ทางจังหวัดพิจารณาจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในรูปแบบเฟสติวัล ดึงจุดเด่นของพื้นที่มาดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัด หาซอฟต์เพาเวอร์ ที่สามารถพัฒนาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ ซึ่ง ปัจจุบัน จ.เลย มีแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวหลายด้าน เช่น โครงการการปรับปรุงและพัฒนาสนามบินเลย โครงการก่อสร้างทางหลวง-เส้นทางจราจร โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้า โครงการสร้างอาชีพวิถีชุมชนเลย เป็นต้น

บูรณาการ – พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ประชุมบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดเลย ที่ศาลากลางจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.

‘ทวี’ชูเป้าปราบยาเสพติดใน1ปี
เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม อาทิ นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรมต.ประจำกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), นายเสกสรร สุขแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมบังคับคดี ฯลฯ มาตรวจราชการ จัดประชุมบูรณาการ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจ.เลย โดยก่อนเริ่มการประชุม มีการสาธิตการควบคุมตัวผู้ป่วยจากยาเสพติดที่มีอาการทางจิต โดยใช้สถานการณ์สมมุติการอาละวาดในชุมชน และใช้อุปกรณ์ต่างๆ อาทิ ปืนเลเซอร์ ไม้ง่าม ไม้ขอ เป็นเครื่องมือควบคุม

พ.ต.อ.ทวี กล่าวชื่นชมและขอบคุณ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาเสพติด การแก้ปัญหา ยาเสพติดปัจจัยสำคัญคือ ชุมชนและครอบครัว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ค้นหาผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศมีประมาณ 5 แสนกว่าราย และใน 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับเพราะยาเสพติดกว่า 3 แสนคน ที่อยู่ในระบบของกรมคุมประพฤติ ในเรือนจำมี ผู้ต้องขังประมาณ 2.7 แสนคน กว่า 2 แสนคน เป็นคดียาเสพติด คนจำนวนกว่า 1 ล้านคนเหล่านี้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงของคนไทย เยาวชนไทย

“ยาเสพติดไม่กลัวกำลังทหาร ไม่กลัวอาวุธ แต่ยาเสพติดกลัวความรักของแม่ กลัวครอบครัวที่อบอุ่น กลัวชุมชนที่เข้มแข็ง ถ้าชุมชนลุกขึ้นต่อสู้ยาเสพติดจะไม่มียาเสพติดในชุมชนนั้น วันนี้เรามาผลักดันการต่อสู้ยาเสพติดในจ.เลย ซึ่งการแก้ปัญหายาเสพติดต้องแก้ปัญหาที่คน ต้องเริ่มที่ชุมชนและหมู่บ้าน วันนี้เรามาร่วมกันสร้างอนาคต มาดูและติดตาม และช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา มีเป้าหมายในการแก้ปัญหายาเสพติดให้ได้ใน 1 ปี” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

‘ประเสริฐ’ชมศูนย์ดิจิทัล
เมื่อเวลา 09.30 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดดีอี ในพื้นที่จ.หนองคาย 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชนตำบลโพธิ์ตาก ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก และโครงการโดรนเกษตรวิถีใหม่ ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรครบวงจรบ้านดงนาคำ ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ

นายประเสริฐกล่าวว่า การเยี่ยมชม 2 โครงการดังกล่าว เป็นการสร้างสังคมดิจิทัลบนฐานความรู้ ทั่วถึง รู้ประยุกต์ใช้เป็น สนองตอบเป้าหมายสำคัญในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ เป็นเครื่องยนต์เครื่องที่หนึ่งของนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของกระทรวง หรือ The Growth Engine of Thailand ซึ่งดีอี มุ่งส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างรายได้และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล หนึ่งในกลไกสำคัญที่เชื่อมโยงมาจากการขยายผลการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชมในชนบทสามารถเข้าถึงและเลือกประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและสามารถนำทักษะด้านดิจิทัลสามารถสร้างรายได้และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน

พท.ชงกม.นิรโทษประกบกก.
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า เราคุยกันเป็นการภายในว่าจะมีการเสนอร่างประกบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แต่ของเราออกไปในรูปแบบของการเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ส่วนจะเน้นในเรื่องใดนั้นเรายังไม่ได้ถกกันในรายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่าการผลักดันร่างพ.ร.บ. นิรโทษกรรม จะสามารถช่วยยุติความ ขัดแย้งได้จริงหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า มองว่าตราบใดที่ทุกคนเคารพกติกาว่าหากท้ายสุดจะออกมาเป็นอย่างไร และเรารับกันได้ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ เมื่อถามว่าพร้อมสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า อะไรที่เห็นตรงกันก็พร้อมอยู่แล้ว แต่ในรายละเอียดยังไม่เห็นว่าอะไรที่เห็นตรงกันหรือไม่เห็นตรงกัน

ด้านนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกลวิจารณ์พรรคเพื่อไทยว่าไม่ช่วยสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกลว่า พรรคเพื่อไทยรับฟังความเห็นอยู่ เรามีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ ซึ่งคนที่มีส่วนได้เสียไม่ควรตัดสินใจ เพราะเกรงว่าสังคมจะมองเราในแง่ไม่ดี ซึ่งคนของเราอาจจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ดังนั้น เราดูท่าทีของสังคมก่อน และให้สังคมขับเคลื่อนจะดีกว่า

“พรรคก้าวไกลต้องเข้าใจเราว่าถ้าเรานิ่ง เรื่องนี้อาจจะสำเร็จง่ายกว่าการที่เราไม่นิ่ง ฝากบอกพรรคก้าวไกลว่าถ้าเรานิ่งจะสำเร็จง่ายกว่า และสำเร็จในเป้าหมายที่คุณอยากได้” นายสุทินกล่าว

ซูเปอร์โพลชี้ปชช.ยังหนุนรบ.
วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลการศึกษา เรื่อง หนุน หรือไม่หนุน รัฐบาล กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมจำนวน 1,093 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25 พ.ย.-2 ธ.ค.2566

เมื่อสอบถามถึงการหนุนหรือไม่หนุน พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.3 หนุน เพราะต้องการให้โอกาสรัฐบาลทำงานไปก่อน เพราะมาตรการแจกเงินช่วยเกษตรกร และเพราะนโยบายแจกเงินหมื่น เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 43.7 ไม่หนุน เพราะปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพสูง ภัยออนไลน์ โจรมิจฉาชีพไซเบอร์ ยาเสพติด หนี้นอกระบบ หนี้ในระบบ เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ เมื่อแบ่งเป็นกลุ่มชายและกลุ่มหญิง พบว่า ทั้งชายและหญิงเกินครึ่งคือ ชายร้อยละ 53.4 หญิงร้อยละ 58.6 หนุน แต่เมื่อแบ่งออกตามช่วงอายุ พบว่า คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่หรืออายุน้อยกว่า 20 ปีร้อยละ 70.3 และคนช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 50.0 ไม่หนุน ในขณะที่คนอายุ 40-49 ปี ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.0 หนุนและคนสูงอายุ เช่น กลุ่มคนอายุ 50-59 ปีร้อยละ 56.6 และคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 56.3 หนุน

ผลสำรวจตอกย้ำว่า คนรุ่นใหม่ยังไม่หนุนพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล สะท้อนได้จากกลุ่มนักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 68.5 ไม่หนุน แต่มีกลุ่มค้าขายอิสระ กลุ่มคนว่างงาน และกลุ่มเกษตรกร รับจ้างทั่วไป ส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 65.4 ของกลุ่มค้าขายอิสระ อาชีพส่วนตัว ร้อยละ 65.2 ของกลุ่มว่างงานและ ร้อยละ 59.9 ของกลุ่มเกษตรกร รับจ้างทั่วไปที่หนุน โดยมีข้าราชการและ เจ้าหน้าที่รัฐร้อยละ 52.2 ไม่หนุน แต่ พนักงานเอกชน ร้อยละ 52.1 หนุน

นิด้าโพลชู‘วทันยา’หน.ปชป.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เรื่องวุ่นๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ภาค 2” สำรวจระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง

จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรทำเพื่อที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ร้อยละ 45.50 ระบุว่า ปฏิรูปพรรค ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการเมืองไทยในปัจจุบัน ร้อยละ 35.65 ระบุว่า เลือกหัวหน้าพรรคที่มีศักยภาพในการนำพรรค ร้อยละ 17.94 ระบุว่า คัดสรรตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ที่มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ร้อยละ 17.79 ระบุว่า แสดงบทบาทการเป็นฝ่ายค้านที่มีศักยภาพ

ร้อยละ 15.34 ระบุว่า เชิญอดีตแกนนำพรรค ที่ออกจากพรรคไปแล้วให้กลับเข้ามาช่วยฟื้นฟูพรรค ร้อยละ 13.51 ระบุว่า สร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรค ร้อยละ 8.09 ระบุว่า เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อสร้างผลงาน ร้อยละ 7.94 ระบุว่า เลือกเลขาธิการพรรค ที่มีความสามารถในการบริหารพรรค และร้อยละ 1.45 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 28.32 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 2 ร้อยละ 27.10 ระบุว่าเป็น น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) อันดับ 3 ร้อยละ 20.46 ระบุว่าเป็น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อันดับ 4 ร้อยละ 9.39 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับ 5 ร้อยละ 7.94 ระบุว่าเป็น นายนราพัฒน์ แก้วทอง อันดับ 6 ร้อยละ 6.03 ระบุว่าเป็น นายชวน หลีกภัย และร้อยละ 0.76 ระบุอื่นๆ ได้แก่ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน

‘มาดามเดียร์’พบปชป.อีสาน
เวลา 15.00 น. ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ซึ่งจะมีการ เลือกตั้ง ในวันที่ 9 ธ.ค. มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินกิจกรรม การประกวดนโยบาย Policy Hackathon ในงาน “มหกรรมสิงห์วิชาการ ครั้งที่ 9” จัดโดยสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมพบปะตัวแทนสาขาพรรคประชาธิปัตย์ประจำจังหวัด และสมาชิกพรรค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากหลายจังหวัด

ในการพูดคุยตัวแทนสาขาพรรค มีความเห็นพ้องร่วมกันว่าอยากให้ น.ส.วทันยา ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ทั้งด้านธุรกิจและด้านการเมือง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถฟื้นฟูและนำพาพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้อีกครั้ง

ด้านน.ส.วทันยากล่าวว่า ตนมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้ และชวนทุกคนมาร่วมสร้างพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมในทุกมิติของพรรค ผู้สื่อข่าวถามถึงผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าน.ส.วทันยามีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพความตั้งใจของตนที่ได้เสนอตัวต่อพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน