เลียบด่วนรามอินทราฯ เผ่นกระเจิง-ยาเกลื่อน แฉจัดห้องลับไว้ให้เสพ เจอฉี่ม่วงเพียบ137คน

‘มท.1’บุกจับผับดังถนนเลียบด่วน แหล่งปล่อยของเอเยนต์เมืองกรุง เจอไม่มีใบอนุญาต-เปิดเกินเวลา ผงะนักเที่ยวทิ้งยาอียาเค แฮปปี้วอเตอร์ เกลื่อนพื้นร้าน แฉจัดห้องลับจัดไว้ให้เสพยาโดยเฉพาะ พบฉี่ม่วง 137 คน ส่งบำบัดทันที 135 คน แจ้ง 4 ข้อหาหนัก สั่งปิด 5 ปี เร่งขยายผลไปหาเจ้าของที่แท้จริง

เมื่อเวลา 02.20 น. วันที่ 10 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ รองผบก.น.4, พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคชัย, น.ส.สุวรรณา ว่องวาณิช ผอ.ส่วนวิเคราะห์ข่าวเฝ้าระวัง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าว, ตำรวจ สน.โชคชัย สนธิกำลังการเข้าตรวจผับ ‘Sonic Club Bangkok’ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. หลังมีเบาะแสว่า ผับดังกล่าวเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ

จากการเข้าตรวจค้นพบเป็นร้านอาคารสูง 1 ชั้น ภายในเป็นห้องโถงที่มีการจัดวางโต๊ะหรือกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักเที่ยวชายและหญิงกว่า 200 คน กำลังเต้นรำ ดื่มกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดการใช้เครื่องเสียง และประกาศขอตรวจบัตรประชาชนและยาเสพติด โดยมีผู้ที่คาดว่าเป็นเอเยนต์ยาเสพติดวิ่งกรูออกมาจากร้าน พยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ จนเกิดการต่อสู้และจับกุมได้พบในตัวมียาเสพติดหลายชนิด คาดว่านำไว้จำหน่าย นอกจากนี้ ภายในร้านนักเที่ยวซึ่งกำลังเมามันต่างแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งเกลื่อนพื้น และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน ทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตประกอบสถานบริการ

จากการตรวจบริเวณร้านพบยาเสพติดบรรจุอยู่ในซองพลาสติก ประเภทยาอี ยาเค ยาไอซ์ และแฮปปี้วอเตอร์ พร้อมอุปกรณ์การเสพถูกโยนทิ้งเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจบัตรประชาชนและตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทุกคน ทั้งนี้ พบนักเที่ยวจำนวน 214 คน เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน จึงนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายในเบื้องต้น เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พบมีนักเที่ยวปัสสาวะ สีม่วง จำนวน 137 คน แยกเป็นชาย 93 คน เป็นหญิง 44 คน จึงควบคุมตัวส่งสน.โชคชัย และสน.วังทองหลาง

ผับมั่วยา – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นำตร. และจนท. หลายหน่วยบุกผับดังย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตลาดพร้าว กทม. เปิดเกินเวลา พบยาเสพติดจำนวนมาก นักเที่ยวมีฉี่ม่วงมากกว่า 100 ราย สั่งปิดกิจการ 5 ปีทันที เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

นายอนุทินกล่าวว่า สถานประกอบการแห่งนี้ใบอนุญาตประกอบการหมดอายุตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 แต่ยังคงลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดมาจนถึงปัจจุบัน จากการตรวจค้นภายในร้านยังพบยาเสพติดหลายประเภท เช่น ยาบ้า ยาอี ไอซ์ เคตามีน แฮปปี้วอเตอร์ เป็นต้น และยังพบอีกว่าภายในร้านได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าไปเสพยาเสพติด โดยห้องดังกล่าวจะเป็นห้องแยกอยู่ในห้องน้ำ เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 22/2558 โดยหลังจากนี้จะมอบอำนาจให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดการในเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป รวมทั้งจะดำเนินการขยายผลไปหาเจ้าของสถานประกอบการที่แท้จริง

นอกจากนี้ นายอนุทินกล่าวยืนยันด้วยว่า การบุกจับกุมครั้งนี้เป็นการตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ คำนึงไว้อยู่เสมอว่าจำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบการ และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด








Advertisement

ต่อมา ที่สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนักท่องเที่ยวชายที่ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จํานวน 91 ราย (ปัสสาวะ สีม่วง) จากจำนวน 93 ราย ที่สมัครใจเข้ารับการบำบัด ส่งตัวไปยังศูนย์บําบัดรักษายาเสพติด ที่คลินิกก้าวใหม่ ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ส่วนนายปิยพัทธ์ เพชรรัตน์ อายุ 22 ปี และนายวุฒิชัย ทั่งสุวรรณ อายุ 37 ปี ซึ่งถูกจับกุมพร้อมยาเสพติดจะถูกแยกดําเนินคดีในข้อหา “ครอบครองยาเสพติด” ซึ่งเตรียมส่งคําร้องขอฝากขังต่อศาลใน วันที่ 12 ธ.ค. เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมและไม่สามารถส่งฝากขังต่อศาลได้ทัน ส่วนเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่พบผู้แสดงตัว ส่วนนักท่องเที่ยวหญิงจํานวน 44 คน ที่ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย (ปัสสาวะสีม่วง) ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่ สน.วังทองหลาง และสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบําบัดยาเสพติด ถูกส่งตัวไปคลินิกก้าวใหม่เช่นเดียวกัน

ขณะที่ล่าสุดที่ สน.โชคชัย นายประกิจ คาถา และนายเสน่ห์ เทียบโพธิ์ แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้านสถานบันเทิงดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมและแจ้งข้อหา ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 4 ประกอบมาตรา 3(4) มาตรา 3(5) และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 ร่วมกันจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด มาตรา 28 ประกอบกับ มาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน