คดีดังเมื่อปี 65 ชี้กม.คุ้มครองผู้ที่ป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ

รองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ‘โกศลวัฒน์’ เผยอธิบดีอัยการภาค 6 เห็นชอบคำสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองในจังหวัดตากยิงสู้ 4 โจรบุกปล้นจนตาย เมื่อปี 65 ชี้กฎหมายคุ้มครองสุจริตชนป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ ระบุคนทั่วไปอาจไม่เข้าใจขอบเขตการป้องกันตัว จะทำอย่างไรถึงจะถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ชี้หลายเหตุที่ป้องกันเกินสมควรกว่าเหตุจนต้องถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาฆ่าผู้อื่น ชี้เจ้าของร้านทองได้รับประโยชน์ เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันเหตุการณ์ได้ดี ภาพถูกบันทึกไว้อย่างต่อเนื่อง แม้จะยิงคนร้ายตายก็ถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ระบุความจริงมักให้ความยุติธรรมเสมอ

วันที่ 10 ธ.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี หรือสคช. เปิดเผยว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 เกิดเหตุคนร้าย จำนวน 4 คน บุกเข้ามาปล้นร้านทองแห่งหนึ่งที่ จ.ตาก โดยคนร้ายใช้ปืนยิงใส่ร้านและใช้เครื่องมือตัดเหล็กเพื่อบุกเข้าชิงทอง ปรากฏว่าเจ้าของร้านทองใช้ปืนยิงสวน กระสุนถูกคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย จับได้ 1 ราย และหลบหนีไปได้อีก 2 ราย ต่อมาอัยการจังหวัดตาก และอธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายในการคุ้มครองประชาชน คุ้มครองสุจริตชนและสังคม

นายโกศลวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการพิจารณาคนร้ายทั้ง 4 คนที่เข้ามาในร้านทอง เมื่อเข้ามาแล้วมีคนร้าย 2 คนชักอาวุธปืนออกมายืนคุมเชิงหันหน้าไปทางหน้าร้าน คนร้ายอีกคนหนึ่งใช้เลื่อยตัดโครงเหล็กที่ครอบตู้ทองไว้ จากนั้นไม่กี่วินาทีเจ้าของร้านก็ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงขึ้นฟ้า เป็นผลให้คนร้ายทั้ง 4 คนรีบวิ่งหลบหนีออกจากร้านไปยังรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้าน คนร้าย 2 คนแรกสตาร์ตรถและขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนคนร้ายอีก 2 คนที่นั่งมากับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งนั้นรถสตาร์ตไม่ติด ระหว่างคนร้ายยืนรอเพื่อนสตาร์ตรถก็ได้ยินเสียงปืนดังมาทางจากร้านทองทำให้ต้องวิ่งหนีไป เหลือคนร้ายที่กำลังสตาร์ตรถเพียงคนเดียว เพียงไม่กี่วินาทีคนร้ายรายนี้ก็ถูกเจ้าของร้านทองยิงใส่ จนต้องวิ่งหนีไปก่อนจะล้มลงห่างจากรถไปประมาณ 10 เมตร

นายโกศลวัฒน์กล่าวต่อว่า ตนในฐานะอัยการมองเห็นปัญหาสำคัญสำหรับประชาชน สุจริตชนที่ไม่รู้กฎหมาย อาจไม่เข้าใจถึงขอบเขตของการป้องกันตนว่า ควรป้องกันตนอย่างไรตามที่กฎหมายบัญญัติจึงจะถือว่าไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย ขอย้ำว่าป้องกันสมควรแก่เหตุนั้นไม่ผิดกฎหมายเลย เหตุการณ์หลายครั้งที่เกิดขึ้นมีการป้องกันตนเกินสมควรกว่าเหตุ ก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอาญา ส่วนใหญ่มักถูกฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่น ข้อหาทำร้ายเท่าที่จำได้ไม่ปรากฏว่ามีการบรรยายฟ้องว่าป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

นายโกศลวัฒน์กล่าวด้วยว่า คดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองที่ป้องกันตน เพราะสมควรแก่เหตุและภยันตรายยังไม่หลุดพ้นไป จึงไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น อัยการเคยสั่งไม่ฟ้องกรณีที่ผู้เสียหายใช้สิทธิ์ป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุมาแล้วหลายคดี ตนได้สอบถามไปยังนายณรงค์ พิกุลทอง อัยการจังหวัดตากแล้วทราบว่า คดีนี้ตั้งคณะทำงานเพราะเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ เป็นอาชญากรรมที่อุกอาจ โดยดำเนินคดีกับคนร้ายปล้นร้านทอง และสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองที่ใช้สิทธิ์ป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ เจ้าของร้านทองจึงไม่ผิดฐานฆ่าคนร้ายตาย โดยเสนอสำนวนให้อธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้อง และเห็นชอบตามที่อัยการจังหวัดและคณะทำงานมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองด้วย

“คำสั่งไม่ฟ้องเจ้าของร้านทองที่ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนพอสมควรแก่เหตุนั้น เพราะภยันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป ย่อมเป็นคดีตัวอย่างให้เห็นถึงหลักประกันของความยุติธรรม ที่อัยการจะพิจารณาให้ความยุติธรรมคุ้มครองสิทธิ์ประชาชน คุ้มครองสุจริตชน และรักษากฎหมายให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินคดีกับคนร้าย สุจริตชนสามารถป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเองได้ โดยอัยการจะตรวจพยานหลักฐานในสำนวนโดยละเอียดด้วย” นายโกศลวัฒน์กล่าว

นายโกศลวัฒน์กล่าวอีกว่า คดีนี้เจ้าของร้านทองได้รับประโยชน์จากภาพจากกล้องวงจรปิดที่เป็นวัตถุพยานยืนยันเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี เพราะภาพที่ถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้อย่างต่อเนื่อง แม้จะยิงคนร้ายตายก็ถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นความผิดเลย กล้องบอกความจริงที่ให้ความยุติธรรมเสมอ ประชาชนอาจไม่เข้าใจกฎหมายเรื่องการป้องกันได้ดีเหมือนคนที่เรียนกฎหมาย เพราะเหตุการณ์จริงต่างตกใจกลัว ไม่มีเวลาคิดก็ขอให้ศึกษาคดีนี้เป็นตัวอย่าง ร้านทองทุกร้านและสุจริตชนขอให้สนใจศึกษาคดีนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าของร้านทองได้เล่าเรื่องผ่านทางเฟซบุ๊กด้วย








Advertisement

ทั้งนี้ สำนักงานอัยการจะให้การคุ้มครองสิทธิ์ประชาชนเหมือนหลักประกันความยุติธรรม โดยมีระเบียบการร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้สิทธิ์ประชาชนยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ได้ทุกระดับ ตั้งแต่อัยการจังหวัด อธิบดีอัยการภาค อัยการสูงสุด ซึ่งตามระเบียบเมื่อประชาชนยื่นคำร้องแล้วอัยการจะต้องปฏิบัติหน้าที่ ตามระเบียบการสั่งคดีร้องขอความเป็นธรรม เพื่อสร้างหลักประกันในการคุ้มครองสุจริตชนอีกด้วย หากมีปัญหากฎหมายโปรดไปปรึกษาอัยการจังหวัด ที่จะคุ้มครองและช่วยเหลือทางกฎหมายทั้งหมด 120 สาขาทั่วประเทศ หรือโทร.สายด่วนอัยการ 1157

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน