โดนเรียกค่าไถ่! รีดเงินกับพ่อแม่ เสียท่าสูญ6หมื่น

บุกช่วย น.ศ.สาว เสียทีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นไปรษณีย์ โทร.หลอกเกี่ยวข้องแก๊งยาข้ามชาติขู่รีดเงิน ซ้ำให้จัดฉากหลอกพ่อแม่ว่าถูกลักพาตัว เรียกค่าไถ่อีก 250,000 บาท สุดท้ายเหยื่อสูญเงิน 6 หมื่น ตร.ไล่เช็กพบโทร.มาจากเชียงราย รีบอายัดบัญชีแต่ไม่ทัน เตรียมเอาผิดเจ้าของบัญชีม้า

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงค่ำวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมาตำรวจ ชุดสืบสวนจาก กก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี นำโดย พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี ร่วมกับ พ.ต.ท.พงษ์พิพัฒ เหิมฉลาด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี เข้าช่วยเหลือน.ส.สุ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัด ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในเมืองอุบลฯ หลังได้รับแจ้งจากแม่ของนักศึกษาสาวรายนี้ว่า ลูกสาวถูกคนร้ายจับตัวเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 250,000 บาท

หลังรับแจ้งพ.ต.อ.ชาญชัย สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบจนพบว่านักศึกษาสาวคนดังกล่าวไปเปิดแมนชั่นแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ห่างจากห้องพักที่เช่าพักอยู่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

พบน.ส.สุ อยู่คนเดียวในห้อง สภาพมีอาการตื่นกลัว พร้อมเล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันได้รับโทรศัพท์จากผู้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทย แจ้งว่าตนพัสดุตกค้างไว้ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพัสดุดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับขบวนการฟอกเงิน ภายในกล่องพัสดุมีพาสปอร์ตของชาวต่างชาติ 7 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 5 ใบ สมุดบัญชี 5 เล่ม และมีสมุดบัญชี 1 เล่ม ปรากฏชื่อของตนด้วย

เหยื่อแก๊งคอลฯ – ตำรวจบุกช่วยสาววัย 21 ปี น.ศ.มหาวิทยาลัยชื่อดัง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข่มขู่อ้างโยงคดีฟอกเงิน บังคับถ่ายคลิปทำทีเป็นถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ลวงผู้ปกครองได้เงินไปรวม 6 หมื่นบาท ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

จากนั้นปลายสายก็พูดจาหว่านล้อม จนตนหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงและจะถูกดำเนินคดีฐานร่วมอยู่ในขบวนการฟอกเงินและค้ายาเสพติดของชาวต่างชาติ แต่ถ้าไม่ต้องการถูกดำเนินคดีก็ให้สร้างเรื่องหลอกครอบครัว เพื่อให้โอนเงินมาระงับคดี

โดยให้ตนมาเช่าห้องโรงแรมและทำทีถูกลักพาตัว บังคับให้ถ่ายคลิปว่ากำลังจะถูกข่มขืน ด้วยความกลัวที่คนร้ายข่มขู่ว่า ถ้าไม่ทำตามจะถูกดำเนินคดี จึงยอมทำตามพร้อมโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของตัวเองจำนวน 30,000 บาท ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์








Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปข่มขู่แม่ของ น.ส. สุ เรียกเงินอีก 250,000 บาท โดยแม่ยอมโอนเงินให้ก่อน 30,000 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาท หลังจากนั้น จึงรู้สึกเอะใจนำเรื่องเข้าปรึษากับทางญาติที่เป็นข้าราชการ และแจ้งความกับ พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี และชุดสืบสวนเมืองอุบลราชธานี ออกไปช่วยเหลือ

จากการสืบสวนแกะรอยตำรวจพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาจากจังหวัดเชียงราย จึงอายัดบัญชีแต่เงินได้ถูกถอนออกไปแล้ว จากนี้จะได้ออกหมายเรียกตัวเจ้าของบัญชีม้ามาสอบสวนปากคำและแจ้งข้อหาร่วมกันหลอกลวงและฉ้อโกงผู้อื่นต่อไป

เจ้าหน้าที่ยังฝากเตือนถึงผู้ที่ได้รับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ตั้งสติและพิจารณาว่าข้อความที่ได้รับแจ้งนั้น ตัวเองมีโอกาสไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจริงหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่ควรคล้อยตามหลงเชื่อ และทำตามที่โทร.มาหลอกลวง จะได้ไม่เสียเงินเหมือนนักศึกษาสาวรายนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน