ได้ค่าช่วยงานฌาปนกิจ ดอกวัน3พัน-ทวงขู่ฆ่า

สลดคุณตาสังเวยหนี้นอกระบบ ยอมสละชีวิตเพื่อให้ยายได้เงินค่าฌาปนกิจใช้หนี้ดอกโหด ยายวัย 63 ชาวอุตรดิตถ์ เข้ากรุงเทพฯ ร้องเพจสายไหมต้องรอด ขายหอมแดงและกระเทียม เลี้ยงหลานอีก 2 คน ต้องกู้หนี้ยืมสินหลังเจอวิกฤตโควิด ยอดขายฟุบต้องกู้เพิ่มกลายเป็นงูกินหาง ส่งดอกวันละ 3 พัน เจ้าหนี้ทวงโหด งานศพก็ยังตามมาทวง รองผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์พร้อมผบก.อุตรดิตถ์ เรียกผู้นำท้องที่และญาติให้รายละเอียด ติดตามตัวเจ้าหนี้มา สอบสวน รอยายมาให้รายละเอียดก่อนเดินหน้าไกล่เกลี่ย ปลัดมท.กำชับฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมตำรวจ ช่วยเหลือประชาชนหลุดพ้นหนี้นอกระบบ เร่งเจรจาไกล่เกลี่ย งดเก็บดอกสูงเกินกว่ากำหนด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ธ.ค. คุณยายยุพิน นามสมมติ อายุ 60 ปี เดินทางจากจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อร้องต่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอก สายไหมต้องรอด หลังจากสามีผูกคอ เสียชีวิตเพื่อนำเงินฌาปนกิจมาใช้หนี้เงินกู้นอกระบบ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยลอยวันละ 3,000 บาท

คุณยายยุพินเล่าว่าตนและสามีมีอาชีพขายหอมแดงและกระเทียมเลี้ยงตนเองและหลานอีกสองคน คนหนึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.5 อีกคนวัย 5 ขวบ ปกติคุณยายเป็นคนมีเงินจากการค้าขายช่วงก่อนโควิด แต่พอหลังวิกฤตโควิด-19 ทำให้การค้าขายไม่ดี ต้องกู้เงินทั้งในและนอกระบบเพื่อนำมาลงทุนค้าขาย แต่ขายไม่ดีทำให้ต้องกู้เพิ่มจนกลายเป็นงูกินหาง ต้องหาเงินมาใช้ดอกเบี้ยเจ้าหนี้ 7 รายซึ่งไม่ทัน แต่ละวันต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 3,000 บาท จนเมื่อวันที่ 23 พ.ย. หนึ่งในเจ้าหนี้ที่ชอบโทร.มาทวงเงินและมักจะว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรง ติดต่อมาทวงเงินโดยโทร.ไปที่เบอร์ของตา ว่าตาแบบรุนแรง แต่ตาบอกว่าไม่มีเงินจ่าย ทั้งตัวมี 103 บาท จึงต่อรองจ่าย 70 บาท แต่เขาไม่ยอม สุดท้ายตาต้องโอนเงินไปให้ 100 บาท ซึ่งทั้งวันยังไม่ได้กินข้าว

“วันนั้นตากลับมาปรึกษายายว่าทั้งตัวมีเงิน 3 บาท วันพรุ่งนี้เจ้าหนี้จะมาทวงเงินอีก พร้อมบอกว่าหากหาเงินไม่ได้ต้องมีใครสักคนตายเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ ซึ่งยายคิดว่าก็ต้องเป็นแบบนั้นเพราะไม่มีทางเลือกแล้ว แต่สุดท้ายไม่คิดเลยว่าตาจะตัดสินใจทำแบบนั้น โดยตาออกอุบายให้ยายไปตามหลานเขยมาที่บ้าน แต่เมื่อกลับมาพบบ้านล็อก จึงให้หลานเขยปีนเข้าไปดูจึงพบว่าตาผูกคอตาย ทุกวันนี้ พอตาตายยายก็อ้างว้าง ไม่อยากอยู่แล้ว แต่มีหลาน 2 คนที่ขวางยายเอาไว้อยู่ ทำให้ไปไหนไม่ได้ ทุกครั้งที่มี เจ้าหนี้มาทวง มาต่อว่าถึงหน้าบ้านก็ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย แต่ตำรวจกลับบอกว่าไม่เอา กลัวตาย ยายก็ต้องปล่อยเพราะทำอะไรไม่ได้ จนสุดท้าย ตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือเนื่องจากกลัวอยู่ไม่ได้” คุณยายยุพินกล่าว

คุณยายยุพินเผยต่อว่าตนเป็นคนไปยืมเงินเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว มีเจ้าหนี้ในระบบเป็นธ.ก.ส. และหนี้นอกระบบอีก 7 เจ้า บางส่วนไม่ได้ทวงแบบรุนแรง แต่ตนก็ไม่มีจ่ายเพราะเคยไปหยิบยืมจากเพื่อนมาใช้หนี้นอกระบบ ตนเป็นหนี้ท่วมตัวหาใช้อีกไม่ได้แล้ว หลังตาเสียชีวิตได้เงินฌาปนกิจมา 160,000 บาท ธ.ก.ส.หักไป 100,000 บาท เหลือ 60,000 บาท เอาไปจัดงานศพ 80,000 บาท แต่เงินไม่พอ ชาวบ้านจึงช่วยกันทำบุญได้ประมาณ 40,000 บาท แบ่งไปจ่ายเจ้าหนี้ที่ทวงในงานศพตา 20,000 บาท ทำให้ยายไม่เหลือเงินแล้ว สักบาท ขณะเดียวกันยายยังไม่ทราบว่าต้องจ่ายหนี้อีกเท่าไหร่ หลังจาก ตาตายเจ้าหนี้ก็ยังโทร.มาทวงเงิน จึงมีความคิดที่จะตายตามไป เพราะเจ้าหนี้ พูดว่า “ถ้ายายตายหนี้ก็จบ” แต่ที่ไม่ทำเพราะเป็นห่วงหลานสาว 2 คน ไม่มีเงินไปโรงเรียนอดมื้อกินมื้อ บางวันขอข้าวจากครูกลับมากินที่บ้าน ยายเคยชวนตาหนี แต่ตาไม่หนีและยังยืนยันว่าจะจ่ายหนี้ทั้งหมด ตอนนี้อยากให้มีคนมาช่วยเจรจาผ่อนหนักให้เป็นเบา เพราะหนี้ที่เป็นอยู่ไม่มีกำลังจ่าย

ด้านยายติ่งและป้าต้อย เพื่อนยายยุพิน เล่าว่ามีเจ้าหนี้มาทวงเพื่อนบ่อย ทั้งต่อว่าและข่มขู่ไล่ให้ไปตาย บางวันเห็นเพื่อนร้องไห้ หนักสุดมาปรึกษาเรื่องฆ่าตัวตาย วางแผนว่าถ้าตายจะเอาเงินไปจ่ายหนี้ เจ้าไหนบ้าง รู้สึกสงสารเพื่อนเลยทักไปหาหลายเพจเพื่อให้ช่วยเหลือ อีกทั้งยังถูก ชาวบ้านประณามว่าเป็นต้นเหตุให้สามีตาย พอยายมาเจอเรื่องหลายอย่างผสมรวม เข้าด้วยกันทำให้คิดสั้น เพราะคิดเองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตาตาย เข้าใจหัวอกของยายยุพิน เพราะตัวเองก็เป็นหนี้เหมือนกัน เคยแก้ปัญหาโดยการไปร้องศูนย์ดำรงธรรมเจ้าหน้าที่บอกว่าแก้ไปก็ไม่มีประโยชน์ และต้องรอนโยบายใหม่ของรัฐบาลในเดือนมีนาคมปีหน้า ทั้งยังเคยไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ทำอะไร ให้ไปจ่ายหนี้เอาเอง

ภายหลังเพจสายไหมต้องรอดรับเรื่องร้องเรียนแล้ว จะพาคุณยายไหมเดินทางไปพบพล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อหารือแนวทางการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ต่อไป








Advertisement

นายเอกภพกล่าวว่าสิ่งที่เห็นชัดเจนคือหน่วยงานในท้องถิ่นยังไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สิ่งที่เราเจอคือเมื่อประชาชนไปลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย บางกรณีพบว่าลูกหนี้ใช้เงินต้นหมดแล้ว แต่เจ้าหนี้ยังเก็บค่าดอกเบี้ยอยู่ เพราะเห็นว่าลูกหนี้เป็นคนต่างจังหวัด มีการเอาเปรียบกัน จึงต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายให้ได้ ส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน เมื่อประชาชนไปร้องเรียนกลับบอกว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เพราะกลัวตาย ตำรวจไม่ควรพูดกับประชาชนแบบนี้

เหยื่อหนี้ – ยายไหม ชาวอุตรดิตถ์ อายุ 63 ปี เข้าขอความช่วยเหลือศูนย์ประสานงาน เพจสายไหมต้องรอด กทม. เนื่องจากเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ จนสามีต้องผูกคอตายเพื่อให้ได้เงินค่าฌาปนกิจชดใช้หนี้ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.

วันเดียวกัน ที่ สภ.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ นายประเดิม เดชายนต์บัญชา นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. วังกะพี้ และเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ ประชุมและสอบถามข้อเท็จจริงพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานกรณีคุณยายยุพินร้องทุกข์ ดังกล่าว เบื้องต้นเรียกผู้นำท้องที่และญาติผู้ร้องเรียนให้รายละเอียด ทราบว่าวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา นายทรัพย์ (นามสมมติ) อายุ 59 ปี สามีคุณยายเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย จากนั้นวันที่ 8 ธ.ค. คุณยายลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ระบุมีเจ้าหนี้ 2 ราย อยู่ระหว่างเจรจาไกล่เกลี่ย ขณะนี้คุณยายยังอยู่ที่กรุงเทพฯ เตรียมตัวเดินทางกลับ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อให้รายละเอียดต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่ 12 ธ.ค. จึงยังไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึกและมูลหนี้

ด้านพล.ต.ต.สุทธิพงศ์กล่าวว่า ตำรวจติดตามหาเจ้าหนี้เบื้องต้น 4 ราย เจอตัวและสอบสวนแล้ว 2 ราย คือบุคคลทวงถามหนี้หรือหมวกกันน็อก และเจ้าหนี้ปล่อยเงินในหมู่บ้านกำลังสอบปากคำถึงจำนวน หนี้สิน อัตราดอกเบี้ยและวิธีการทวงถามหนี้ ส่วนเจ้าหนี้ซึ่งเป็นเจ้าของเงินและเสียงบุคคลทวงหนี้โหดตามคลิปที่ปรากฏตามสื่อที่เรียกว่า “สุดหล่อ” อยู่ระหว่างติดตามตัว ได้ที่อยู่แล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ รอผู้เสียหายมาให้รายละเอียดก่อนตั้งข้อกล่าวหา

นางจิตรตรี ปงศรีชัย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีมาตรการช่วยเหลือ ผู้สูงอายุในสภาวะยากลำบาก เป็นเงิน 2,000 บาท และการกู้ยืมเงินประกอบอาชีพโดยไม่มีดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ ส่วนหลาน 2 คน จะพิจารณาเงินกองทุนคุ้มครองเด็ก ทั้ง ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา การประกอบอาชีพของยาย และเครื่องอุปโภคบริโภค

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จังหวัดอุตรดิตถ์มีประชาชนลงทะเบียนแจ้งหนี้นอกระบบ 508 ราย มีเจ้าหนี้ 300 ราย มูลหนี้กว่า 20 ล้านบาท

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ 11 ว่า มีมูลหนี้รวม 4,570.557 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 86,067 ราย รวมจำนวน เจ้าหนี้ 55,853 ราย จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก 1.กรุงเทพฯ มีผู้ลงทะเบียน 5,533 ราย เจ้าหนี้ 4,309 ราย มูลหนี้ 384.313 ล้านบาท 2.นครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 3,635 ราย เจ้าหนี้ 2,682 ราย มูลหนี้ 195.343 ล้านบาท 3.สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 3,482 ราย เจ้าหนี้ 2,296 ราย มูลหนี้ 202.917 ล้านบาท 4.นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 3,383 ราย เจ้าหนี้ 1,961 ราย มูลหนี้ 226.356 ล้านบาท 5.ขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 2,149 ราย เจ้าหนี้ 1,486 ราย มูลหนี้ 131.785 ล้านบาท

นายสุทธิพงษ์กล่าวถึงกรณีคุณยายยุพิน ว่าทราบเรื่องแล้ว ทางอำเภอจะเชิญเจ้าหนี้มาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้โดยเร็วที่สุด คุณยายยังสอบถามถึงเรื่องเงินดิจิทัลว่าจะได้รับช่วงเวลาใดเพื่อตนจะนำไปใช้หนี้เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบตามกฎหมาย จึงอาจทำให้คุณยายเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเรื่องระยะเวลาการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบกับเรื่องเงินดิจิทัลเป็นเรื่องเดียวกัน ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จะประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อทบทวนกระบวนการ/ขั้นตอนการทำงานและกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ในวันที่ 18 ธ.ค.

ปลัดกระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำแนวทางให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคนประสานการทำงานบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีอิสรภาพต่อชีวิต สร้างขวัญและกำลังใจ หลุดพ้นพันธนาการจากหนี้นอกระบบ โดยประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องถึงวันที่ 31 มี.ค. 2567 เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป ขณะนี้มีหลายอำเภอที่นายอำเภอเริ่มดำเนินการแล้ว ผลการเจรจาไกล่เกลี่ยคืองดเก็บดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน