นายกฯไม่บังคับเวิร์กฟรอมโฮม

กทม.ชัก ‘ธงส้ม’ เตือนภัย ฝุ่นจิ๋วพีเอ็ม 2.5 สั่งโรงเรียน งดกิจกรรมหน้าเสาธง คพ.เปิดรายงานคุณภาพอากาศ 13 จว.เกินมาตรฐาน ประกาศเฝ้าระวังปริมาณฝุ่นสะสมเพิ่มถึง 19 ธ.ค. เหตุเป็นช่วงลมสงบ มวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาปกคลุม นายกฯ ฝากทุกหน่วยดูแลปัญหาฝุ่นพิษ ก่อนบินไปประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว เผยยังไม่หนักหนาถึงขั้นต้องสั่งเวิร์กฟรอมโฮมตามที่ผู้ว่าฯ กทม.เสนอ แต่ให้อยู่ในดุลพินิจของ ผู้บริหารหน่วยงานราชการและเอกชน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า ช่วงที่นั่งรถเดินทางมาก่อนเดินทางขึ้นเครื่อง และส่งข้อมูลฝากฝังและส่งข้อความถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และคณะทำงานที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด ส่งข้อความถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกฯ ฝากการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและในระบบ ส่วนเรื่องของค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ฝากดูถึงวิธีการและมีมาตรการในการวัด และตรวจเข้ม ในการดำเนินโครงการต่างๆ ต้องเต็มที่

ส่วนกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เสนอให้มีการทำงานที่บ้าน (เวิร์ก ฟรอมโฮม) ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อลดผล กระทบของฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 แต่ปัจจุบันปัญหาได้เริ่มลดน้อยลง แต่ไปหนักในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องของฝุ่นมันขึ้นๆ ลงๆ เรื่องการ เวิร์กฟรอมโฮม ผู้ว่าฯ กทม. เสนอเป็นแนวทางหนึ่ง ในช่วงการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เคยทำมาก่อน แต่ช่วงเวลานี้ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันในการแก้ปัญหา เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่ถึงขั้นจะต้องมีคำสั่งให้ เวิร์กฟรอมโฮมใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงไม่มีคำสั่งออกไป แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของบริษัทหรือหน่วยงานนั้นๆ

วันเดียวกัน ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ภาพรวมปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ, นครปฐม, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ลำปาง, ลำพูน, สุโขทัย, พิษณุโลก, สระบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม และหนองคาย

กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับกทม. เกินค่ามาตรฐาน 20 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 13.3-50.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 38.6 มคก./ลบ.ม. 2.ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด 41.7 มคก./ลบ.ม. 3.ริมถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 40.3 มคก./ลบ.ม. 4.ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์ 40.0 มคก./ลบ.ม. 5.ริมถนนพระราม 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน 41.4 มคก./ลบ.ม.

6.ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เขตบางรัก 39.9 มคก./ลบ.ม. 7.ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา 39.0 มคก./ลบ.ม. 8.ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา 39.0 มคก./ลบ.ม. 9.ริมถนนพหลโยธิน แยก ม.เกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร 39.0 มคก./ลบ.ม. 10.ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง 39.9 มคก./ลบ.ม. 11.ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ 40.6 มคก./ลบ.ม. 12.ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี 39.4 มคก./ลบ.ม.

13.ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย 41.5 มคก./ลบ.ม. 14.ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา 40.7 มคก./ลบ.ม. 15.ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ 38.5 มคก./ลบ.ม. 16.ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม 47.9 มคก./ลบ.ม. 17.ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม 46.5 มคก./ลบ.ม. 18.ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 8.5 มคก./ลบ.ม. 19.ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 46.2 มคก./ลบ.ม. 20.ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 50.1 มคก./ลบ.ม.

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 18.9-51.1 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 12.2-43.3 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 22.8-56.5 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 12.3-34.2 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 8.9-17.9 มคก./ลบ.ม.

คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่าระหว่างวันที่ 14-19 ธ.ค. ยังมี แนวโน้มสูง เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาปกคลุม ประกอบกับปริมาณฝนน้อยลง และลมสงบ ทำให้ฝุ่นเริ่มสะสมในพื้นที่

คำแนะนำทางสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบ ต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

สามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK

ส่วนที่ศาลาว่าการกทม. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงมาตรการเตรียมพร้อมรับมือคุณภาพอากาศในสถานศึกษา สังกัด กทม. ว่า กำชับให้โรงเรียนสังกัดกทม. ดำเนินการตามแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2567 โดยให้ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศทางเว็บไซต์ www.airbkk.com หรือแอพพลิเคชั่น AirBKK ในช่วงเวลา 07.00 น. 11.00 น. และ 15.00 น. และในช่วงที่นักเรียนต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยแจ้งเตือนผ่านกิจกรรมธงคุณภาพอากาศในโรงเรียน ได้แก่ ติดตั้งธงสีฟ้า ธงสีเขียว ธงสีเหลือง ธงสีส้ม และธงสีแดง สำหรับช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 เฉลี่ยที่ 50 มคก./ลบ.ม. (ระดับธงส้ม) จึงให้โรงเรียนงดกิจกรรมเข้าแถวหน้าเสาธง

ทั้งนี้กทม.กำหนดเกณฑ์การพิจารณาสั่งปิดการเรียนการสอน กรณี ฝุ่นมีค่าตั้งแต่ 37.6 มคก./ลบ.ม. และสถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลงและเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อนักเรียน ให้ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอน ดังนี้ ค่าระหว่าง 37.6-75 มคก./ลบ.ม. ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งปิดได้ครั้งละไม่เกิน 3 วัน ผู้อำนวยการเขตครั้งละ ไม่เกิน 7 วัน

หากค่ามากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลง และเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ให้ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนตามอำนาจ ครั้งละไม่เกิน 15 วัน และเมื่อฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. เกิน 2-5 เขต สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลง และเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ผู้ว่าฯ กทม.สามารถใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนตามอำนาจไม่จำกัดเวลา

ส่วนความคืบหน้าโครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล สำนักงานเขตอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ และการจัดหาเครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนย้ายได้ จำนวน 1,743 เครื่อง สำนักการศึกษาได้รับประมาณปี 2567 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสรรหาผู้รับจ้าง (e-biding)

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด พีเอ็ม 2.5 เวลา 08.00-10.00 น. ตรวจวัดได้ 18.6-45.5 มคก./ลบ.ม.ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ 30 มคก./ลบ.ม. ค่าพีเอ็ม 2.5 มีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงเกินมาตรฐานอยู่ในระดับ สีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 10 พื้นที่ คือ 1.เขตปทุมวัน 2.เขตบางรัก 3.เขตลาดกระบัง 4.เขตบางกอกน้อย 5.เขตบางพลัด 6.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 7.เขตทวีวัฒนา 8.เขตหนองแขม 9.เขตบางนา 10.เขตประเวศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน