เศรษฐาดึงพานาโซนิคตั้งรง.แบต

ญี่ปุ่นสนแลนด์บริดจ์ ชวนผู้นำเขมรมาไทย รบ.โชว์ผลงาน90วัน โปรดเกล้าผู้นำฝ่ายค้าน

‘เศรษฐา’ ปลื้มร่วมประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จ ให้คะแนนดีเยี่ยม การเจรจานักธุรกิจมีสัญญาณบวก โรดโชว์แลนด์บริดจ์ โน้มน้าวเอกชนญี่ปุ่นลงทุน ชี้ข้อดีประหยัดต้นทุน-เวลาขนส่ง-ปลอดภัย ถก ‘ฮุน มาเนต’ ดันค้าชายแดน เตรียมเยือนไทย ก.พ.67 ร่วมประชุมครม.เศรษฐกิจ กรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ผลงานรัฐบาล 90 วัน แจงยิบมาตรการ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้” โฆษกรัฐบาลชี้จะผลิดอกออกผลกลางปีหน้า เริ่มแล้วแจกแบบสอบถามประชามติแก้รัฐธรรมนูญให้สว. วุฒิสภายันตอบได้อย่างอิสระ ไฟเขียว ‘สิทธิโชติ อินทรวิเศษ’ นั่งกกต.คนใหม่

เวทีผู้นำ – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เข้าประชุม AZEC Leader’s Meeting ร่วมกับผู้นำชาติต่างๆ ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ป่น สมัยพิเศษ ที่ห้องประชุมทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว วันที่ 18 ธ.ค.

เศรษฐาโรดโชว์แลนด์บริดจ์
เวลา 09.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ที่กรุงโตเกียว ประเทศไทย ซึ่งเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ที่โรงแรมอิมพีเรียล โตเกียว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการเปิดโรดโชว์ภาพรวมของโครงการแลนด์บริด์จและโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งมีบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นเกือบ 30 แห่งเข้ารับฟัง มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย

นายกฯ กล่าวขอบคุณที่เข้าร่วมงาน Thailand Landbridge Roadshow แลนด์บริดจ์เป็นโครงการที่รัฐบาลไทยริเริ่มขึ้น จากโอกาสและศักยภาพของไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งของภูมิภาคและอาจเป็นของโลกในอนาคต จากนั้นนำเสนอข้อมูลการขนส่งสินค้าที่ช่องแคบมะละกาที่แออัด ขณะที่โครงการแลนด์บริด์จเป็นเส้นทางเลือกที่สำคัญที่จะรองรับการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ประหยัดกว่า เร็วกว่าและปลอดภัยกว่า “ผมเชื่อมั่นและเชิญชวนให้ญี่ปุ่นร่วมลงทุนในโอกาสครั้งสำคัญที่ไม่เคยมีมาก่อนในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ระดับภูมิภาค ทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย เพื่อความเติบโตในเศรษฐกิจร่วมกัน”

ชี้ข้อได้เปรียบช่องแคบมะละกา
ด้านนายสุริยะกล่าวเสริมถึง 2 เหตุผลสำคัญ 1. ข้อได้เปรียบของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของแลนด์บริดจ์ ไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียน และโครงข่ายคมนาคมในไทยได้รับการพัฒนาเชื่อมโยงกับเครือข่ายการขนส่งของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค 2. แลนด์บริดจ์แก้ความแออัดช่องแคบมะละกา ลดระยะทาง ลดเวลา และลดต้นทุนการขนส่ง วางแผนการพัฒนาทั้งโครงการเป็น 4 ระยะ เริ่มตั้งแต่ปีค.ศ. 2025 ถึง ค.ศ.2040 จะเป็นการประมูลแบบนานาชาติ ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี ไทยจะออกกฎหมายใหม่เพื่อพัฒนาโครงการและพื้นที่โดยรอบ อำนวยความสะดวกการจูงใจนักลงทุน จากการศึกษาโครงการดังกล่าวจะคืนทุนใน 24 ปี

เวลา 11.00 น. นายเศรษฐาทวีตผ่านX ถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ว่า แลนด์บริดจ์ โอกาสทองเพื่อความเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์และการลงทุน เพราะเฉลี่ยแล้วการขนส่งตู้สินค้าหากผ่านแลนด์บริดจ์ จะช่วยลดระยะเวลา ลดต้นทุนและปลอดภัย ด้วยที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของไทย ความพร้อมและการสนับสนุนของรัฐบาลไทย รวมทั้งธุรกิจของญี่ปุ่นในภูมิภาคอาเซียน ทำให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นสนใจ

ถกผู้บริหารพานาโซนิค
เวลา 10.30 น. ผู้บริหารบริษัท Panasonic holdings corporation เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา สองฝ่ายหารือเพื่อพิจารณาการขยายการลงทุน โรงงานแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ และระบบกักเก็บพลังงานเพื่อบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิต 200 กิกะวัตต์ชั่วโมง ภายในปี 2031 นายกฯ แจ้งพร้อมสนับสนุนการลงทุนของ Panasonic โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านยานยนต์สันดาป เป็น EV รวมถึงการสนับสนุนด้านพลังงานสะอาดด้วย

นายกฯ ทวีต หลังพบผู้บริหารบริษัท Panasonic holdings corporation ว่า Panasonic ยังคงมั่นใจไทยยังเป็นผู้นำในภูมิภาคสำหรับการลงทุนได้ บริษัทนี้ อยู่ในไทยมายาวนาน ผลิตแบตเตอรี่สำหรับ EV และ Energy Storage ด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ตนมาเชิญชวนให้ขยายการลงทุน EV Supply Chain ในไทย ผู้บริหารแสดงท่าทีที่พร้อมให้การสนับสนุนกับกลยุทธ์ของประเทศไทย ที่จะมุ่งสู่ EV และพลังงานสะอาดมากขึ้นด้วย

เวลา 14.30 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับพานาโซนิคว่า เขากำลังดูสถานที่ทำโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในพื้นที่ 600 ไร่ ไทยเป็น 1 ใน เป้าหมายซึ่งเขายังไม่ได้ตัดสินใจ ต้องดูแผนระยะยาว แต่เขาลงทุนที่ไทยมาตั้งแต่ปี 1961 จึงมีความผูกพัน ผู้บริหารเบอร์สองก็อยู่เมืองไทยมาตลอด เรื่องใจถึงใจเรื่องที่เขาอาจจะลำเอียงอยากมาลงทุนเชื่อว่าเป็นธรรมดาของมนุษย์ เป็นเครดิตของคนไทยที่ต้อนรับอาคันตุกะทุกอาชีพด้วยใจจริง และงานที่เราทำมาทั้งหมดในการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ใช่ผลงานของบีโอไอ กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่บีโอไอญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญมาก ถือว่าครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก

นายกเขมรมาไทยกพ.67
นายกฯ กล่าวกรณีได้พบกับสมเด็จ มหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกฯ กัมพูชา ว่า ได้พูดคุยถึงจ.สระแก้ว ที่ตนเพิ่งไปลงพื้นที่มา เห็นว่านิคมอุตสาหกรรมและการค้าชายแดนยังยกระดับได้อีก ก.พ. 2567 นายกฯกัมพูชาจะมาเยือนไทย จะประชุมย่อยครม.เศรษฐกิจร่วมกันเกี่ยวกับการค้าชายแดน

เรามีความพร้อมเรื่องการจัดส่งสินค้า หากกัมพูชามีแผนสร้างนิคมอุตสาหกรรมแล้วติดต่อการค้าก็จะดีกับทั้งภูมิภาค เพราะไทยมีท่าเรือน้ำลึกและสนามบิน มีพลังงานสะอาดที่พร้อม น่าจะทำอะไรร่วมกันได้ และอีก 10 ปีข้างหน้าเราจะเป็นเบอร์ 3 ของโลก การที่เรารวมตัวกัน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจะเอื้อต่อธุรกิจได้อีกมาก ยิ่งตนกับสมเด็จมหาบวรธิบดีฮุน มาแนต สนิทสนมกันเป็นพิเศษจะพูดอะไรก็ง่าย

มั่นใจนักธุรกิจญี่ปุ่นสนใจไทย
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์สรุปถึงภาพรวมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น และการหารือร่วมกับนักธุรกิจว่า คนญี่ปุ่นลงทุนในไทยมากกว่า 60 ปี เรามีความสัมพันธ์ยาวนานทั้งระดับประชาชน รัฐบาลและราชวงศ์ การเข้าประชุมครั้งนี้เรื่องหนึ่งที่เราพูดถึงคือใจถึงใจ ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม ความหวังดี ปรารถนาดีให้แก่กันและกัน คิดว่านักธุรกิจเกินกว่าครึ่งที่ได้พบเคยทำงานประจำสำนักงานอยู่ที่ไทย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผู้บริหารเหล่านั้นเคยอยู่เมืองไทย และวันนี้อยู่ในตำแหน่งที่สูงในองค์กร จึงเชื่อว่าการจะมาลงทุนในไทยมีเยอะ

เขาต้องการให้รัฐบาลไทยอำนวยความสะดวก อาทิ ความมั่นคงทางการเมือง สิทธิประโยชน์ทางภาษี พลังงานสีเขียว การเข้าถึงง่ายของวัสดุที่จะนำมาผลิต และสัญญาทางการค้า แต่เรื่องหนึ่งที่เขาไม่ได้พูดและเรารู้กันอยู่แล้วคือเรื่องใจถึงใจ รวมถึงทำให้คนญี่ปุ่นไปอยู่ไทยแล้วรู้สึกสบายใจในการอำนวยความสะดวก อาทิ การรักษาพยาบาล อาหารการกิน ค่าครองชีพที่ถูก เป็นต้น ตลอดการเข้าร่วมประชุมและพบปะนักธุรกิจ 4-5 วัน ด้านการลงทุนไม่มีปัญหาเลย คุยกันด้วยดี ก่อนหน้านี้นายกฯ ญี่ปุ่นขอให้อำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่านักธุรกิจเราก็ทำให้ทันที อีกหลายเรื่องก็เต็มที่ ยืนยันใจถึงใจสองประเทศมีมาตลอด

ภารกิจสำเร็จ-ให้9คะแนน
ขณะที่การร่วมงานสัมมนาโครงการแลนด์บริดจ์กับบริษัทญี่ปุ่นเกือบ 30 แห่งนั้น นายกฯ กล่าวว่า ได้รับการตอบรับอย่างดี มีตัวเลขออกมาชัดเจน แต่เราก็มีการบ้านที่ต้องทำอยู่เยอะตามที่พรรคฝ่ายค้านแนะนำ รัฐบาลอาจต้องพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยืนยันว่าทุกส่วนในประเทศต้องมีส่วนร่วมในการทำเมกะโปรเจ็กต์ ถ้าเราไม่ทำก็จะไม่สามารถยกระดับอุตสาหกรรมไฮเทคได้ ไม่สามารถยกระดับจีดีพีประเทศได้ ดีใจที่นักลงทุนญี่ปุ่นเบอร์ใหญ่ๆ มากันเยอะ จึงคิดว่าเขามีความสนใจมากในเรื่องนี้

เมื่อถามว่าจากที่พูดคุยกับหลายบริษัทมีทิศทางบวกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า บอกว่าบวกมากๆ และจากที่ตนพูดคุยกับนายกฯญี่ปุ่น ได้บอกไปว่าการเดินทางมาครั้งนี้ให้คะแนนความพึงพอใจที่นักลงทุนญี่ปุ่นมีกับไทย 8-9 จาก 10 คะแนน นายกฯ ญี่ปุ่นยิ้มและมีท่าทีไม่ได้แปลกใจอะไร เชื่อว่าทุกบริษัทที่มาก็มีความสบายใจ ที่ระดับผู้นำประเทศได้คุยกันอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงให้คำตอบที่ชัดเจนด้วย “ให้ได้ก็บอกให้ได้ ให้ไม่ได้ก็บอกคงให้ไม่ได้ แต่มีทางเลือกอื่นให้เลือก” ทุกหน่วยงานที่มาทำการบ้านมาอย่างดีมาก ตนเพียงมาให้คำยืนยันกับนักลงทุนญี่ปุ่นว่าทำเต็มที่

ทั้งนี้ เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ได้เข้าร่วมการประชุม AZEC Leader’s Meeting ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จากนั้นเวลา 16.00 น. นายกฯและ ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนพร้อมคู่สมรสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น ที่พระราชวังอิมพีเรียล โดยหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯและคณะได้เดินทางกลับถึงไทย เวลา 00.20 น. วันที่ 19 ธค.

เปิดโอท็อป – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน OTOP City 2023 ‘ช้อปสนุกส่งสุขท้ายปีสินค้าดีจากภูมิปัญญาไทย’ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อที่ 18 ธ.ค.

รัฐบาลเผยแพร่ผลงาน 90 วัน
วันเดียวกัน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่กรมประชาสัมพันธ์ โดยส่วนปฏิบัติการและบริหารข้อมูลข่าวสาร สำนักข่าว รายงานการสรุปผลงานรัฐบาลในรอบ 90 วัน “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชนนั้น” รัฐบาลชื่นชมการจัดทำรายงานดังกล่าว สรุปผลงานของรัฐบาลได้อย่างดี ครบถ้วน ทำให้ประชาชนมองเห็นภาพรวม ทั้งนโยบาย “ลดรายจ่าย” และนโยบาย “เพิ่มรายได้”

ทั้งนี้ รายงานสรุปผลงานรัฐบาลรอบ 90 วัน มีหัวข้อสำคัญ “ลดรายจ่าย” 1.ด้านพลังงานและการคมนาคม ลดราคาค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย 3 เดือน, ปรับลดน้ำมันดีเซลลง 2.50 บาท/ลิตร, ลดภาษีสรรพสามิตเบนซินลง 1 บาทต่อลิตร ทำให้โซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร โซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร ตรึงราคา LPG ขนาดถัง 15 ก.ก.ที่ 423 บาท ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสีม่วงและสีแดง 20 บาทตลอดสาย 2.ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 บาท 4.68 ล้านครัวเรือน 3.ช่วยชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดลดพีเอ็ม 2.5 ที่ 120 บาท/ตัน 4.ประกาศ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ 5.พักหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท 6.บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ นำร่องแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด นราธิวาส

ฝึกดับป่า – นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดการฝึกบินควบคุมไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งกองทัพอากาศร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่จ.เชียงใหม่

กลางปี 67 เริ่มออกดอก-ผล
ส่วนการ “เพิ่มรายได้” 1.กระตุ้นการท่องเที่ยว วีซ่าฟรีจีน/คาซัคสถาน/อินเดีย/ไต้หวัน (ไม่เกิน 30 วัน) รัสเซีย (ไม่เกิน 90 วัน) 2.ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ป.ตรี 18,150 บาท โดยปรับขึ้นอัตรา 10% เป็นเวลา 2 ปี (ในปีงบ 2567-2568) 3.ผลักดันกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) 4.ขยาย โอท็อป สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้สินค้าโอท็อป 5.One Belt One Road เส้นทางสายไหม

6.ขยายเวลาปิดสถานบริการ นำร่อง 4 จังหวัด กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 7.ขยายเวลาเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ช.ม. ตั้งแต่ 1 พ.ย.66 เป็นต้นไป รองรับนักท่องเที่ยว และ 8.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง (ดูรายละเอียด น.7)

“สิ่งที่นายกฯ และรัฐบาลได้ทุ่มเททำลงไป จะเริ่มผลิดอกออกผลให้เห็นตั้งแต่กลางปี 67 เป็นต้นไป โดยภาพเศรษฐกิจที่เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นผลพวงของสิ่งที่ได้ถูกกระทำไปเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ นอกจากนี้ นายชัยยังเผยแพร่กราฟฟิกผลงาน 90 วันของรัฐบาล

ขับเคลื่อน – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย พร้อมพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. ร่วมเปิดโครงการขับเคลื่อนจราจรไทยไปข้างหน้า Traffic Forward บูรณาการร่วมช่วงเทศกาลปีใหม่ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.

สว.ทำแบบสอบถามประชามติ
เวลา 09.40 น. ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธาน ก่อนเริ่มประชุมนายศุภชัยแจ้งว่า นายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีหนังสือขอ ความอนุเคราะห์ให้สว.ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเปิดโอกาสให้สว.มีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ โดยจะแจกแบบสอบถามที่หน้าห้องประชุมวุฒิสภาวันที่ 18-19 ธ.ค. การตอบแบบสอบถามให้เป็นไปตามความสมัครใจของสมาชิกแต่ละคน และเมื่อตอบแบบสอบถามเสร็จแล้วให้นำไปส่งคืนที่หน้าห้องประชุมเช่นเดิมเพื่อรวบรวมส่งคืน

ไฟเขียว‘สิทธิโชติ’นั่งกกต.
เวลา 10.00 น. พิจารณาลงมติจะ เห็นชอบให้ นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งแทน กกต.ที่ว่างลง เนื่องจากนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต.ครบวาระ

การพิจารณารายงานการตรวจสอบ ประวัติฯ ก่อนมีมติเห็นชอบ 175 เสียง ไม่เห็นชอบ 16 เสียง และไม่ลงคะแนน 8 เสียง ถือว่านายสิทธิโชติ เป็นผู้ได้รับความเห็นชอบจากสว. เพราะได้คะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสว.เท่าที่มีอยู่

วิปรัฐดันพรบ.สมรสเท่าเทียม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม วิปรัฐบาล ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานวิปรัฐบาล เป็นประธาน มีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เข้าร่วมประชุมในสัดส่วนครม.

มีการขอความเห็นจากวิปรัฐบาลเรื่องร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่… พ.ศ…. หรือร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ก่อนจะเสนอ ครม. 19 ธ.ค.รับทราบ ซึ่งวิปรัฐบาลมีมติเห็นชอบส่ง ครม.เห็นชอบ และคาดว่า ครม.จะส่งเรื่องกลับมายังสภา 19 ธ.ค. เพื่อบรรจุเข้าวาระ 21 ธ.ค.เป็นเรื่องด่วน โดยจะพิจารณาหลังจบวาระกระทู้ถาม

โปรดเกล้า‘ชัยธวัช’ผู้นำฝ่ายค้าน
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่ผู้นำฝ่ายค้าน เผยว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประสานแจ้งเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านแล้ว และจะมีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ ในวันที่ 20 ธ.ค. 2566 เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม 604 เหตุที่ จัดให้มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ วันดังกล่าว เนื่องจากเป็นวันประชุมสภา และวันที่ 19 ธ.ค.ส่วนใหญ่แต่ละพรรค จะประชุม สส. สำหรับภารกิจแรกในฐานะผู้นำฝ่ายค้านจะประสานแกนนำพรรคฝ่ายค้านเพื่อประชุมหารือนัดแรกอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับแนวทางการทำงานร่วมกันก่อนปิดช่วงเทศกาลปีใหม่