น้ำพระทัยร.10-ราชินี – นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยและทั่วโลก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยทุกข์สุขของพสกนิกรและเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์จำนวนมากกระจายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ เครื่องช่วยหายใจรุ่นต่างๆ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว พร้อมกับทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผล กระทบจากการแพร่ระบาด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์เชิญถุงพระราชทานไปมอบให้ประชาชนตามชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ความว่า

“ปัญหานี้เป็นปัญหาของชาติเพราะเรื่องโรคระบาดไม่ใช่ความผิดของใคร เมื่อเกิดขึ้นแล้วเรามีหน้าที่ดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด ต้องมีความเข้าใจในปัญหา เข้าใจในสถานการณ์ และมีความรู้เกี่ยวกับโรคก็จะเข้าใจปัญหาได้เอง ถ้าเรามีแผนบริหารจัดการ แผนเผชิญเหตุ มีระบบการปฏิบัติที่ดีก็จะแก้ไขได้ถูกจุดในเวลาเดียวกัน ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องและเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะการทำตามแผนปฏิบัติจะช่วยลดปัญหา เชื่อว่าจะแก้ไขและเอาชนะได้ ประเทศของเราถือว่าทำได้ดี น่าภูมิใจที่ทุกคนร่วมมือกัน โดยมีเป้าหมายว่าเราจะต้องสู้ให้โรคนี้สงบลงไป เพราะว่าโรคมาได้ก็ไปได้ โรคจะไปไม่ได้ถ้าเราไม่แก้ไข บางทีต้องสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม มีความสันติอดทนก็จะแก้ไขปัญหาได้ ขอเป็นกำลังใจให้”

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลเหล่าทัพ และ โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อันจะช่วยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการดูแลรักษา ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศไทย

ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 วันคล้ายวันราชาภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ (www.royaloffice.th) เผยแพร่ข่าวพร้อมด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ไปทอดพระเนตรโครงการพระราชทานความช่วยเหลือประชาชน ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ณ กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์

การนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเย็บหน้ากากผ้าสำหรับเป็นตัวอย่างให้กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์นำไปผลิตเพื่อพระราชทานแก่ข้าราชบริพารและประชาชนที่เดือดร้อนจากการระบาดของโรคโควิด-19

ต่อมา วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย 13 คัน เพื่อกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์ ณ สำนักงานเขตสุขภาพ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ยินดีและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหาให้กับงานของท่าน เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ นี้เป็นส่วนประกอบสำคัญ แต่หลักๆ ก็มาจากคน อะไรที่สำคัญในคน ก็คือทัศนคติที่ดี เข้าใจปัญหา มีทัศนคติที่ดี มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด เมื่อมีเครื่องมือเครื่องใช้มาสนับสนุนก็ใช้เครื่องมือให้ถูกจุด ใช้ให้เป็นประโยชน์ ก็จะเสริมในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ในตอนนี้ประเทศไทยเราเป็นที่น่ายินดีว่าได้รับการชมเชย การกล่าวขวัญในทางที่ดีจากประชาคมโลก เพราะว่าเราก็มีดี เรามีความมุ่งมั่น เรามีความตั้งใจ คิดว่าสุขภาพที่ดีหรือการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บกับอุปสรรคต่างๆ นี้ ถ้ามีทัศนคติที่ดี มีความตั้งใจ ก็ได้กับประชาชนส่วนรวม อย่างที่บอกว่าประชาชนมีความสุข ประเทศมีความมั่นคง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาต้องมีอุปสรรคต้องมีเสมอ แต่ถ้าเรามีความมั่นคง อยากให้ประชาชนมีความสุข มีทัศนคติที่ดี ประชาชนก็มีความสุข พวกเราก็มีความสุข เพราะเราคือประชาชน ขอเป็นกำลังใจให้และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่ได้ทำงานมา และไม่ใช่เจ้าหน้าที่อย่างเดียว ประชาชนร่วมมือ คนมีทัศนคติที่ดี นี่คือนิสัยของคนไทย มีน้ำใจ มีความนุ่มนวล มีคุณธรรมช่วยกันไป อะไรหนักๆ ก็เบาลง ตอนนี้ภูมิใจที่บ้านเราได้รับการชมเชย และเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน