หลักฐานปิดคดีฆ่าเผา – แม้นสงสัยในการตายของบิดา แต่เมื่อยังไม่มีหลักฐาน น.ส.ยุพาพัชร์ อธิคมสิริกุล ผู้เป็นบุตรสาวจึงได้แต่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ กระทั่งผลการชันสูตรศพเผยสาเหตุการตายที่แท้จริงออกมา

ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ร.ต.อ.จิรภัทร แปงใจ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน ไปตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 363/1 ถนนราชพฤกษ์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม.

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ปลูกอยู่ ริมถนนในรั้วรอบขอบชิด ด้านหน้าเปิดเป็นเพิงขายข้าวหมูแดงหมูกรอบชื่อร้าน “แมสเซนเจอร์” มีแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งจากชั้นล่าง ก่อนลุกลามขึ้นบนชั้นที่ 2 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่รีบวางหัวฉีดเข้าสกัดกั้น ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ

บริเวณห้องโถงชั้นล่างเจ้าหน้าที่พบศพ นายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ สภาพศพนอนคว่ำหน้า เสื้อผ้าถูกไฟไหม้จนหมด เนื้อตัว ตามผิวหนังด้านหลังถูกไฟเผาจนเริ่มเกรียม เจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้หน่วยกู้ภัยนำไปชันสูตร ก่อนติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศล

สอบถามนางนันทวัน ทิมเย็น อายุ 56 ปี น้องอดีตภรรยาผู้ตาย ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน ให้ข้อมูลว่านายอนันต์เคยมีครอบครัว แต่ปัจจุบันเลิกรากับพี่สาวตน ส่วนลูกหลาน ก็ไม่ได้มาพักอาศัยหรือช่วยขายข้าวหมูแดง หมูกรอบ ปกติเจ้าตัวจะตื่นตั้งแต่ตี 1 ไปตลาดซื้อของสดมาเตรียมขาย ก่อนเปิดร้านไม่เกิน ตีห้าของทุกวัน ซึ่งแต่ละวันประมาณบ่ายสอง ก็จะเก็บร้านเพราะลูกค้าเยอะของหมดไว จะมีก็เพียงลูกจ้างผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี มาช่วยขายและเก็บล้างบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ก่อนเกิดเหตุคาดว่านายอนันต์ น่าจะหลับพักอยู่ในบ้าน พอเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจึงหนีออกมา ไม่ทันเป็นเหตุให้สำลักควันและหมดสติก่อนโดนไฟคลอกดังกล่าว

ข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นตกไปโดยพลัน ทันทีที่ผลชันสูตรของแพทย์นิติเวชออกมาว่านายอนันต์เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ จากการบีบรัดบริเวณลำคอ และยังพบว่ากระดูก ต้นคอผู้ตายเว้าและแตก ที่สำคัญไม่พบเขม่าควันไฟในปอด โดยพบเพียงเล็กน้อยบริเวณหลอดลม ทำให้สรุปได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อน จะเกิดเพลิงไหม้

ต่ อมาน.ส.ยุพาพัชร์ บุตรสาวผู้ตาย พร้อมทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าร้องเรียนต่อพล.ต.ต.สหรัฐศักดิ์ ศิลปชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (รอง ผบก.น.9) พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้าย พร้อมสอบถามเรื่องสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ที่พ่อสวมใส่ประจำหายไป

เมื่อมีหลักฐานว่าจะเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ตำรวจจึงระดมชุดสืบสวนบก.น.9 และ สน.บางขุนเทียน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้งสอบพยาน ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่ามีนายอำพล หรืออู้ วงเวียนทอง อายุ 58 ปี อาชีพเพาะพันธุ์ไก่ชน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย โดยหลังเกิดเหตุนายอู ซึ่งพักอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังที่เกิดเหตุหายตัวไป

ตำรวจเฝ้าอยู่กระทั่งผ่านไป 4-5 วัน จึงพบนายอู้ย่องกลับมาที่บ้านจึงไปเชิญตัวมาสอบปากคำ เมื่อตรวจสอบตามร่างกายพบมีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมขีดข่วนหลายแห่ง

สําหรับแนวทางการสืบสวนพบว่า นายอู้ มักไปนั่งดื่มสุรากับผู้เสียชีวิตที่บ้านพักหลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังชอบนำทรัพย์สินของมีค่า ไปขายหรือจำนำเอาไว้กับผู้ตาย

นอกจากนี้ช่วงก่อนเกิดเหตุนายอู้ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อ รุ่นและหมายเลขทะเบียน สวมหมวกนิรภัยสีขาว ไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงบรรจุใส่แกลลอนจากปั๊มแห่งหนึ่งย่านถนนกาญจนาภิเษก ก่อนมุ่งหน้าเข้าไปหาผู้ตายที่บ้านพักหลังปิดร้านในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งพบกลุ่มควันและแสงเพลิงในช่วงเวลา 16.45 น. ของวันเดียวกัน

แม้นสอบเค้นเกือบ 10 ช.ม.แต่นายอู้ก็ไม่รับสารภาพ จนเจ้าหน้าที่ต้องงัดหลักฐานเด็ดที่ทำให้เจ้าตัวแถไม่ออก มันคือรองเท้าแตะข้างขวา 1 ข้างที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีภาพหลักฐานว่าวันเกิดเหตุ เจ้าตัวเดินออกมาจากที่เกิดเหตุแต่รองเท้าข้างขวาหายไป 1 ข้าง จนเจ้าตัวยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว

นายอำพลให้การว่า รู้จักกับ ผู้ตายมานานกว่า 20 ปี เนื่องจากเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงตั้งแต่ รุ่นพ่อ ในวันก่อเหตุนั่งวินจยย.มาที่บ้านผู้ตายเพื่อมาไถ่พระเครื่องสมเด็จกับพระวัดนาคปรก ที่นำมาจำนำไว้จำนวน 33 องค์ ในราคา 5,000 บาท แต่ขณะพูดคุยผู้ตายไม่ยอมคืนอ้างว่าพระไม่อยู่แล้ว จึงเกิดการทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน ตนใช้ของแข็งฟาดและเอามือบีบคอ ผู้ตายสู้แรงตนไม่ไหวล้มลงบริเวณหน้าประตูบ้าน ตนตามไปบีบคอ จนสะอึกแน่นิ่งไป จึงลากผู้ตายเข้าไปในบ้าน แล้วลงมือจุดไฟเผาบ้านอำพรางคดี จากนั้นก็เดินกลับที่พัก

ส่วนสร้อยคอทองคำและพระเครื่อง เจ้าตัวยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้เอาไป คาดว่าช่วงปลุกปล้ำกันอาจจะเกิดขาดตกไป

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์
พนม คงเจริญ
สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน