ซอคเกอร์

ฟุตบอลยุโรปฤดูกาล 2019-20 มาถึงบทสุดท้ายจนได้ ด้วยนัดชิงชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปีนี้เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง ดวลกับบาเยิร์น มิวนิก ซึ่งทั้งคู่ต่างมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ที่โลกไม่ลืม สุดท้ายแล้วชัยชนะจะเป็นของฝั่งไหน มารอเชียร์กัน

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563

ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

นัดชิงชนะเลิศ

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง-บาเยิร์น มิวนิก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส ดวลแข้งกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เกมนี้เตะที่สนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ ในกรุงลิสบอน ของโปรตุเกส

สำหรับสังเวียนแข้งนัดชิงชนะเลิศ แห่งนี้ เป็นรังเหย้าของเบนฟิกา แห่งลีกโปรตุเกส เริ่มเปิดใช้งานเมื่อปี 2003 ความจุสำหรับเกมทางการ 64,591 ที่นั่ง สนามแห่งนี้รองรับเกมสำคัญมาแล้วมากมาย อาทิ นัดชิงชนะเลิศยูโร 2004 หรือนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2013-14

ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม เปแอสเชอยู่กลุ่มเอที่มีคู่แข่งอย่าง เรอัล มาดริด, คลับ บรูช, กาลาตาซาราย ส่วนบาเยิร์นอยู่กลุ่มบีที่มีคู่แข่งอย่างท็อตแนม ฮอตสเปอร์, โอลิมเปียกอส, เชอร์เวนา ซเวซดา

โดยเปแอสเชแข่ง 6 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 เก็บไป 16 คะแนน ได้แชมป์กลุ่ม จากการชนะมาดริด 3-0 (เหย้า), ชนะกาลาตาซาราย 1-0 (เยือน), ชนะคลับ บรูช 5-0 (เยือน), ชนะคลับ บรูช 1-0 (เหย้า), เสมอมาดริด 2-2 (เยือน), ชนะกาลาตาซาราย 5-0 (เหย้า)

ขณะที่บาเยิร์นคว้าแชมป์กลุ่มด้วยผลงานเตะ 6 นัดชนะรวด เก็บไป 18 คะแนนเต็ม โดยชนะเชอร์เวนา ซเวซดา 3-0 (เหย้า), ชนะสเปอร์ 7-2 (เยือน), ชนะโอลิมเปียกอส 3-2 (เยือน), ชนะโอลิมเปียกอส 2-0 (เหย้า) ชนะเชอร์เวนา ซเวซดา 6-0 (เยือน), ชนะสเปอร์ 3-1 (เหย้า)

จากนั้นเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ เปแอสเชเตะรอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ด้วยผลรวม 3-2 (เกมเยือนแพ้ 1-2, เกมเหย้าชนะ 2-0) รอบก่อนรองชนะเลิศชนะอตาลันตา 2-1 (นัดเดียวจบ) และรอบรองชนะเลิศชนะไลป์ซิก 3-0 (นัดเดียวจบ)

ส่วนบาเยิร์นเตะรอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ เชลซีด้วยผลรวม 7-1 (เกมเยือนชนะ 3-0 เกมเหย้าชนะ 4-1) รอบก่อนรองชนะเลิศชนะบาร์เซโลนา 8-2 (นัดเดียวจบ) และรอบรองชนะเลิศชนะโอลิมปิกลียง 3-0 (นัดเดียวจบ)ด้านผลงานในรายการอื่น เปแอสเชแข่งลีก เอิง ไปได้ 27 นัด ก็โดนตัดจบฤดูกาล เก็บทั้งหมด 68 แต้ม คว้าแชมป์ไปครอง นอกจากนี้ยังได้ทั้งแชมป์เฟรน์ คัพ และเฟรนช์ ลีก คัพ เท่ากับว่ามีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์กวาด 4 แชมป์ในซีซั่นเดียวขณะที่บาเยิร์นแข่งบุนเดสลีกาจบ 34 นัด เก็บไป 82 คะแนน คว้าแชมป์อีกสมัย และยังซิวแชมป์เดเอฟเบ โพคาล เท่ากับว่ามีโอกาสกวาดครบ 3 แชมป์เป็นหนที่ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสร

ผลงานในรายการนี้ เปแอสเชเคยทำได้ดีสุดเพียงรอบรองชนะเลิศฤดูกาล 1994-95 ขณะที่บาเยิร์นผ่านเข้าชิงชนะเลิศ 10 ครั้ง ได้แชมป์ 5 สมัย ในฤดูกาล 1973-74, 1974-75, 1975-76, 2000-01, 2012-13

คู่นี้เคยเจอกันในถ้วยยุโรป 8 ครั้ง เปแอสเชทำได้ดีกว่าชนะ 5 นัด บาเยิร์นชนะ 3 นัด หนล่าสุดเป็นศึกแชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2016-17 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกเปแอสเชชนะ 3-0 นัดต่อมา บาเยิร์นชนะคืนบ้าง 3-1

ความพร้อมนัดนี้ เปแอสเชต้องเช็กความฟิต เกย์ลอร์ นาบาส ขณะที่บาเยิร์นต้องรอลุ้นความฟิต เยโรม บัวเต็ง

คาดว่าเปแอสเชคงวางหมาก 4-3-3 เซร์คิโอ ริโก : ธิโล เคห์เรอร์, ติอาโก ซิลวา, เปรสเนล คิมเปมเบ, ฆวน เบร์นาต : อันเดร์ เอร์เรรา, มาร์กินญอส, มาร์โก แวร์รัตติ : อังเคล ดิ มาเรีย, เนย์มาร์, คีลิยาน เอ็มบัปเป

ส่วนบาเยิร์นน่าจะใช้แผน 4-2-3-1 มานูเอล นอยเออร์ : โยชัว คิมมิก, นิคลาส ซูเล, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ เดวิส : เลออน โกเรตซ์กา, ติอาโก อัลคันตารา : อิวาน เปริซิช, โธมัส มุลเลอร์, แซร์ช นาบรี : โรเบิร์ต เล วานดอฟสกี

สถิติน่าสนใจตลอดทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา ทั้งคู่เตะไป 10 นัดเท่ากัน เปแอสเชยิงประตูเฉลี่ยเกมละ 12.4 ครั้ง ทำสกอร์ได้เฉลี่ยเกมละ 2.5 ประตู ครองบอลเฉลี่ย 53% ผ่านบอลสำเร็จ 86% ได้ใบเหลือง 25 ใบ และใบแดง 0 ใบ

ส่วนบาเยิร์นยิงประตูเฉลี่ยเกมละ 22.9 ครั้ง ทำสกอร์เฉลี่ยเกมละ 4.2 ประตู ครองบอลเฉลี่ย 60% ผ่านบอลสำเร็จ 88% ได้ใบเหลือง 9 ใบ และใบแดง 0 ใบ

จุดเด่นของเปแอสเชอยู่ตรงที่เปี่ยมด้วยนักเตะความสามารถเฉพาะตัวสูง แนวรุกแต่ละคนมีความเร็วจัดจ้าน ทำให้ปั่นป่วนเกมรับคู่แข่งได้ดีมาก นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดในการเล่นลูกตั้งเตะด้วย แต่จุดอ่อนอยู่ที่กองหลังยังค่อนข้างเปราะบาง ปล่อยให้คู่แข่งได้ลุ้นยิงบ่อยครั้งเกินไป

ด้านบาเยิร์นมีการเล่นที่เป็นระบบผสมความคิดสร้างสรรค์ ทักษะเฉพาะตัวของนักเตะ และความเข้าขารู้ใจ ทำให้เกมรุกดุดันสุดๆ แถมลูกฟรีคิกยังหวังผลได้ไม่น้อย แต่เกมรับต้องบอกว่ายังไม่นิ่งนัก ปล่อยให้คู่แข่งสร้างสรรค์โอกาสได้บ่อย

ด้วยความที่เป็นฟุตบอลเกมรุกเหมือนกัน จึงมั่นใจได้เลยว่าคู่นี้แลกกันสนุกแน่ แต่เมื่อพิจารณาจากเกมรอบรองชนะเลิศ เปแอสเชเล่นได้ยอดเยี่ยมทั้งรุกและรับ ส่วนบาเยิร์นยังมีช่องโหว่ในแดนหลังให้เห็นอยู่บ้าง หากยึดฟอร์มตามนี้ เชื่อว่าเปแอสเชจะคว้าชัยสร้างประวัติศาสตร์สโมสรได้สำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน