‘เวลล์’กดดันทายาทเจน3พากันตนาสู่ความสำเร็จ – เริ่มเข้าสู่ยุคของเจนใหม่กันแล้ว บริษัท กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ (2002) จำกัด ก็เป็นอีกค่ายที่เริ่มโอนถ่ายงานไปสู่เจเนอเรชั่นใหม่ จากรุ่นพ่อแม่สู่รุ่นลูกก้าวเข้ามารับตำแหน่ง ผู้จัดละคร ‘เวลล์’ ดิษย์กรณ์ ดิษยนันทน์ ลูกไม้ใต้ต้น ลูกชายคนเล็กของ ‘ตุ๊กตา จิตรลดา-โอ๋ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์’ ก็เช่นกัน หลังจากพี่สาว ‘สตางค์’ ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์ โชว์ฝีมือจนขึ้นแท่นผู้จัดละครเลือดใหม่ไปแล้ว ก็ต่อยอดมาถึงน้องชาย ‘เวลล์ ดิษย์กรณ์’ ที่ชิมลางเรื่องแรก “ยอดรักนักรบ” และล่าสุด ผู้ควบคุมการผลิตละครดราม่าลึกลับ “เงาบุญ” ที่ออกอากาศอยู่ทางช่อง 7 ผลงานกำกับฯ ของ อินทนนท์ รัตนากาญจน์ แสดงโดย พิม พิมประภา, อ๋อม อรรคพันธ์, แชป วรากร, มิ้นท์ บารมิตา, แอนดรูว์ กรเศก, โม อมีนา, แก้ว อภิรดี ฯลฯ

‘เวลล์ ดิษย์กรณ์’ เล่าถึงการทำงานว่า “เรื่องแรกที่เป็นทางการของผมคือ ยอดรักนักรบ ตอนนั้นผมทำแล้วก็รู้สึกสนุกไปเลย เพราะผมเรียนจบด้านเพลงมา ดีใจครับที่เรื่องแรกมันเกี่ยวกับเพลงที่เข้ากับตัวผมได้ง่ายกับการเป็นผู้จัดละครเต็มตัว และตอนนั้นก็ได้เรียนรู้เยอะมาก มันประสบความสำเร็จแต่ผมก็คิดไปว่าบางอย่างเราก็สามารถทำให้มันออกมาดีได้มากกว่านี้ เราเลยได้เรียนรู้ และปรับปรุงตลอดเวลา ด้วยประสบการณ์มันเหมือนเป็นบทเรียนให้ครั้งต่อๆ ไป ทุกอย่างที่ได้เรียนรู้ผมก็จะไม่ทำสิ่งที่ผิดซ้ำ”

พอมาเรื่องที่ 2 ก็พลิกแนวมาสยองขวัญ “จนมาถึงเรื่องเงาบุญ มันเป็นละครผี แล้วก็เป็นบทประพันธ์ของคุณยายผมด้วย ผมก็เอามาปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยให้เจเนอเรชั่นใหม่เข้าถึงได้ รวมถึงความเชื่อโบราณของศาสนาพุทธเรา ว่าเราไม่ควรทิ้งความเชื่อนี้ หากถามถึงความยาก ก็เรื่องนี้แหละครับ การที่จะให้เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นภาพของความเชื่อ อย่างเรื่องเปรตครับ”

ถึงแม้จะก้าวเข้ามาในแวดวงผู้จัดละครอย่างเต็มตัว แต่ก็ไม่ทิ้งในสิ่งที่ชอบ “ตอนนี้ผมทุ่มเทงานที่บริษัทมากๆ แต่ว่าผมก็รับงานฟรีแลนซ์มิวสิคโปรดักชั่นด้วย รับจ้างทำเพลง แต่ช่วงก่อนโควิดเป็นช่วงที่ผมเล่นละครเวทีเยอะ จนมาช่วงโควิดทำให้ต้องพักไปก่อน จริงๆ ผมเป็นคนที่ชอบเล่นละครเวทีครับ ผมเล่นละครใน DreamboxTheatre เรื่อง น้ำเงินแท้ เดอะมิวสิคัล กับเรื่อง แม่นาค และเรื่องที่ผมได้เป็นพระเอกแต่ต้องพักไปคือ อลหม่านหลังบ้านทรายทอง ครับ”

“จริงๆ หลังจากที่ผมเรียนจบมา ผมคิดว่ายังไงก็จะมาช่วยคุณแม่ทำงานอยู่แล้ว ผมเต็มใจและอยากที่จะทำ ผมต้องมาทุ่มเททำงานละครของกันตนาที่ผมรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน เพราะผมอยากต่อยอดสิ่งที่พ่อแม่ อา น้า ทุกคนที่คอยดูแล ช่วยเหลืองานผมตั้งแต่เด็ก อยากจะพากันตนาไปสู่ความสำเร็จมากกว่านี้ เหมือนเป็นเจเนอเรชั่นต่อไปที่ต้องมาทำงาน ผมก็คือทายาทรุ่น 3 ที่ต้องทำงานกับญาติทุกคน ก็กดดันนะครับแต่อยากทำให้ทุกคนภูมิใจ”

เมื่อตั้งใจที่จะสานงานในครอบครัวต่อ ย่อมเกิดการ เรียนรู้ ซึ่งเจนใหม่ของค่ายกันตนา เผยว่า “ผมอายุ 25 ปี ผมยังมองว่าตัวเองเป็นเด็กฝึกงานนะ ผมยังต้องเรียนรู้หลายสิ่งอีกเยอะ อย่างโพสโปรดักชั่นที่ผมเคยทำมาก่อนที่ผมจะมาเป็นผู้จัดละครก็ทำมาอยู่เกือบ 3 ปี เพราะการที่เราจะมาเป็นผู้จัดละครได้มันต้องรู้เรื่องทุกอย่าง ลองมาทุกตำแหน่งเลย แล้วผมก็เห็นความสำคัญของพนักงานที่ทุ่มเทให้ละครออกมาดีผมเลยต้องไปอยู่ใกล้ชิดกับพวกเขาด้วย เพื่อเข้าถึงทุกจุดอย่างเป็นสเต็ปครับ ผมเป็นพนักงานอีกคนในกันตนาครับที่จะต้องเรียนรู้ต่อไปและพร้อมที่จะ ต่อยอดไปข้างหน้า”

ด้วยช่วงวัยกับผลงานที่ผลิตออกมา จะเรียกว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยก็ว่าได้ แต่เจ้าตัวยังไม่น้อมรับ “มุมมองชีวิตของผมคิดว่ามันไม่เฟอร์เฟ็กต์ ถ้าผมได้อะไรที่อยู่ตรงหน้า ผมจะคิดว่ามันทำได้ดีกว่านี้ตลอดเวลา แต่ละอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการงาน ผมอยากให้ทุกคนคิดว่าผมทุ่มเทกับการผ่านอุปสรรค ประสบการณ์มาหลายอย่างกว่าจะมีวันนี้ มันต้องเรียนรู้ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ครับ เราอยากทำให้มันดีขึ้นตลอดเวลา”

การเรียนรู้ในงานของผู้จัดเลือดใหม่จะไม่มีวันหยุดนิ่ง และจะพิสูจน์ฝีมือกันได้ในผลงานละครเรื่องต่อๆ ไป

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน