โควิด ระบาดโลก2020

มกราคม

ปี 2020 นานาประเทศเปิดฉากเฉลิมฉลองด้วยความชื่นมื่นเหมือนทุกปี แต่มีเหตุการณ์ผิดปกติที่เปลี่ยนผันโลกครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน ปรากฏที่ เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของ ประเทศจีน ว่า พบผู้ป่วยโรคปริศนาหลายสิบคน มีอาการปอดอักเสบคล้ายโรคซาร์ส

7 ม.ค. การแพร่ระบาดถูกระบุว่ามีต้นตอจากเชื้อ “ไวรัสโคโรนาชนิดใหม่”

11 ม.ค. ผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัสชนิดนี้ เป็นชายชาว เมืองอู่ฮั่น อายุ 61 ปี

20 ม.ค. องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงพบผู้ป่วยนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกที่ไทย ต่อด้วยญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

21 ม.ค. สหรัฐอเมริกาเจอผู้ป่วยคนแรกของประเทศ เป็น ชายช่วงอายุ 30 อาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน

23 ม.ค. รัฐบาลจีนสั่งกักตัวชาวเมืองอู่ฮั่น 11 ล้านคน ระงับบริการรถไฟและเครื่องบินทั้งหมดที่ออกจากอู่ฮั่น ส่วนในเมืองมีการระงับบริการรถประจำทาง รถไฟใต้ดิน และเรือข้ามฟาก

30 ม.ค. WHO ประกาศว่าการระบาดของไวรัสโคโรนา ชนิดใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก เนื่องจาก ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ตอนนั้นพบแล้ว 9,000 คนใน 19 ประเทศทั่วโลก

กุมภาพันธ์

7 ก.พ. นพ.หลี่ เหวินเลี่ยง จักษุแพทย์วัย 34 ปี จาก โรงพยาบาลกลางเมืองอู่ฮั่น ผู้เตือนเพื่อนหมอถึงการแพร่ระบาดของโรคนี้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมตัวไปปรับทัศนคติ เสียชีวิตเพราะติดเชื้อไวรัสมรณะเช่นกัน สร้างความไม่พอใจให้กับสังคมและมีการเคลื่อนไหวไว้อาลัยแก่ นพ.หลี่ ทั่วประเทศ

9 ก.พ. จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 811 ราย เกินยอดผู้เสียชีวิตจากโรคซาร์สเมื่อปี 2546

11 ก.พ. WHO ประกาศว่าโรคระบาดครั้งนี้เกิดขึ้นจากไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19”

จากนั้นมีหลายประเทศทั่วโลกพบผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ อิตาลีเป็นประเทศเผชิญวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดหนักที่สุดในยุโรป ส่วนอิหร่านมีผู้เสียชีวิต 43 ราย มากกว่าจีนเป็นประเทศแรก เมื่อวันที่ 28 ก.พ.

29 ก.พ. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศจำกัดการเดินทางไปยังอิหร่าน รวมทั้งยกระดับเตือนการเดินทางไปอิตาลีและเกาหลีใต้ วันเดียวกันสหรัฐพบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ เป็นชายช่วงอายุ 50 ปี ในรัฐวอชิงตัน

มีนาคม

1 มี.ค. ไทยเป็นประเทศที่ 10 ของโลกที่มีผู้เสียชีวิตรายแรกด้วยโรคโควิด-19 เป็นชายอายุ 35 ปี

3 มี.ค. ทางการเมืองอู่ฮั่นย้ายผู้ป่วยโรคโควิด-19 ไปยัง โรงพยาบาลเล่ยเฉินชานที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อรักษาผู้ติดไวรัสมรณะ สร้างขึ้นโดยใช้เวลาเพียง 10 วัน และเป็นโรงพยาบาลฉุกเฉินแห่งที่ 2 ในเมืองอู่ฮั่น ถัดจากโรงพยาบาลหัวเฉินชาน

8 มี.ค. ประเทศอิตาลีประกาศล็อกดาวน์แคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือ จากนั้นอีกสองวันจึงขยายการล็อกดาวน์เป็น ทั่วประเทศ

11 มี.ค. WHO ประกาศว่าโรคโควิด-19 เป็นการระบาด ทั่วโลก (Pandemic)

13 มี.ค. WHO ระบุว่าทวีปยุโรปกลายเป็นศูนย์กลางการ แพร่ระบาดโรคโควิด-19 นานาประเทศเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว การคมนาคมทางอากาศ หยุดชะงักทั่วโลก

27 มี.ค. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม เกิน 500,000 คน และเสียชีวิตเพิ่มเป็น 24,082 ราย ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ป่วยโควิดจนต้องเข้าโรงพยาบาล

เมษายน

2 เม.ย. ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทะลุ 1 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 51,000 ราย

9 เม.ย. สหรัฐเริ่มการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในขั้นที่ 2

10 เม.ย. ทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 100,000 ราย โดยสหรัฐมีผู้เสียชีวิตสะสมสูงกว่าอิตาลี และขึ้นแท่น เป็นประเทศที่เผชิญวิกฤตโควิด-19 ที่หนักหนาที่สุดในโลก

20 เม.ย. โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้ข้อครหาที่ประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งข้อสงสัยว่าโรคโควิด-19 เกิดขึ้นใน ห้องทดลองที่เมืองอู่ฮั่น

25 เม.ย. จีนประกาศว่าสามารถรักษาผู้ป่วยทั้งหมดใน โรงพยาบาลเมืองอู่ฮั่น

27 เม.ย. รัสเซียมีจำนวนผู้ป่วยสะสมมากกว่าจีน ขณะที่ ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 3 ล้านคน

29 เม.ย. บริษัทกิลเลียด ไซแอนเซส ของสหรัฐ ระบุว่า ผลการทดลองยาเรมเดซิเวียร์มีความเป็นไปได้สูงในการยับยั้ง เชื้อโควิด-19

พฤษภาคม

10 พ.ค. ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เกิน 4 ล้านคน และ เสียชีวิตเกือบ 280,000 ราย

16 พ.ค. บราซิลมีผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 4 ของโลกหลัง แซงหน้าสเปนและอิตาลี โดยตามหลังสหรัฐ รัสเซีย และอังกฤษ

18 พ.ค. โมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ ระบุว่าวัคซีนของบริษัทกระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันของ ผู้ป่วยที่เข้ารับการทดสอบ

20 พ.ค. เป็นครั้งแรกที่ทั่วโลกมีผู้ป่วยใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมง เกินกว่า 100,000 คน ส่งผลให้ยอดสะสมเพิ่มเป็นกว่า 5 ล้านคน ส่วนทางการอู่ฮั่นประกาศห้ามค้าขาย รวมถึงบริโภคสัตว์ป่า เพราะเชื่อว่าไวรัสดังกล่าวมีต้นตอและแพร่ระบาดในสัตว์

วันที่ 21 พ.ค. แอสตราเซเนกา ได้รับเงินทุนกว่า 30,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาวัคซีนร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

30 พ.ค. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อทะลุ 6 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 370,000 ราย

มิถุนายน

3 มิ.ย. ชายสูงวัยชาวโรฮิงยาเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกใน ค่ายพักพิงผู้ลี้ภัยทางตอนใต้ของบังกลาเทศ

5 มิ.ย. WHO เพิ่มคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ ครอบคลุมถึงการใช้บริการขนส่งสาธารณะและร้านค้า

28 มิ.ย. ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 500,000 ราย ยอดติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ล้านคน

กรกฎาคม

วันที่ 3 ก.ค. เพียง 6 วันหลังจากโลกมีผู้ป่วยเกิน 10 ล้านคน ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยสะสมทะลุ 11 ล้านคน

วันที่ 7 ก.ค. ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิล ป่วยโรคโควิด-19 นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้น เป็นอันดับ 2 ของโลกที่ 1.6 ล้านคน เป็นรองเพียงสหรัฐ และ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 65,000 ราย

สิงหาคม

11 ส.ค. ทั่วโลกมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกินกว่า 20 ล้านคน และนิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกหลังปลอดโรคมานานถึง 102 วัน

16 ส.ค. เกาหลีใต้พบการติดเชื้อครั้งใหญ่ที่เชื่อมโยงกับสมาชิกโบสถ์ซารางเจอิล พื้นที่กรุงโซลและโดยรอบ ถือเป็น หนึ่งในคลัสเตอร์ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดของประเทศกว่า 1,500 คน

กันยายน

18 ก.ย. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 30 ล้านคน

29 ก.ย. มีผู้เสียชีวิตจากทั่วโลกทะลุ 1 ล้านราย

ตุลาคม

2 ต.ค. ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงว่า ตนเองและ เมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ติดเชื้อโควิด-19 โดยนายทรัมป์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 3 วัน ต่อมา ด.ช.บาร์รอน ทรัมป์ ลูกชายวัย 14 ปี ติดเชื้อในช่วงเวลาเดียวกัน

20 ต.ค. ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสมเกิน 40 ล้านคน

พฤศจิกายน

4 พ.ย. สหรัฐมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 100,000 คนเป็นครั้งแรก

9 พ.ย. ทั่วโลกมีผู้ป่วยรวมเกิน 50 ล้านคน

11 พ.ย. สหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 200,000 คนเป็นครั้งแรก

16 พ.ย. โมเดอร์นาประกาศผลทดลองวัคซีนว่ามีประสิทธิภาพในการยับยั้งอาสาสมัครจากการติดเชื้อสูงสุดที่ร้อยละ 94.5

18 พ.ย. ไฟเซอร์และบิออนเทคของเยอรมนี แถลงมี ผลทดสอบวัคซีนยับยั้งการติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 95

23 พ.ย. แอสตราเซเนกาประกาศว่า วัคซีนที่พัฒนามีประสิทธิภาพในการยับยั้งการติดเชื้อที่ร้อยละ 90

30 พ.ย. คณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงยกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อรับมือกับคลื่นโควิดระลอกที่ 4

ธันวาคม

2 ธ.ค. สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติการใช้ วัคซีนไฟเซอร์-บิออนเทค และเป็นประเทศแรกที่ฉีดวัคซีนนี้ให้ประชาชน

4 ธ.ค. สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงถึง 237,372 คน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ และสูงที่สุดในโลก

14 ธ.ค. สหรัฐเริ่มฉีดวัคซีนบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทคให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์

17 ธ.ค. ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ป่วยโควิด-19

18 ธ.ค. อินเดียมียอดผู้สะสมเกิน 10 ล้านคน

19 ธ.ค. ไทยพบผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดเกิน 500 ราย ที่จ.สมุทรสาคร กลุ่มติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวที่ตลาดมหาชัย

20 ธ.ค. นานาประเทศระงับเที่ยวบินไปอังกฤษ หลังพบ เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ มีอัตราการแพร่ระบาดรวดเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน