ผ่าดวงเมืองปี64ปี 2564 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีสถานการณ์การเมืองต่อเนื่องมาจากปี 2563 ทั้งการชุมนุมขับไล่รัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การระบาดของโควิด-19 รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ

การทำนายของโหรชื่อดัง ต่างเห็นในแนวทางเดียวกันว่าในปี 2564 เป็นปีที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนไทย โดยเฉพาะโรคระบาด เศรษฐกิจ และการชุมนุมของม็อบต่างๆ

บุศรินทร์ ปัทมาคม

นักโหราศาสตร์ชื่อดัง

ในปี 2564 ช่วงต้นปี ดาวอังคารจะโคจรเข้าทับลัคนา (ลั) ของ “ดวงเมือง” โดยที่ดาวอังคาร ทักษาจรมีสภาพเป็นกาลกิณีจร การต่อต้าน รัฐบาลมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ระหว่างต้นปีไปจนถึง 24 ก.พ. 2564

ดวงเมืองชะตาจะตกรุนแรงขึ้น เมื่อดาวอาทิตย์ จรโคจรเข้าไปในราศีมีน หรือ เรือนวินาศของดวงเมือง ระหว่างวันที่ 14 มี.ค. ถึง 13 เม.ย. 2564

ดาวอังคาร จะโคจรทับลัคนา (ลั) ดวงเมือง ท่ามกลางที่รัฐบาลอ่อนกำลัง และความไม่น่าเกรงขามของรัฐบาล จากการที่พระเกตุเดิมเป็นกาลกิณีจรเช่นนี้








Advertisement

จึงมีแนวโน้มว่าบ้านเมืองจะสับสน พวกต่อต้านจึงทำการได้รุนแรงยิ่งขึ้น และมีแนวโน้มว่ารัฐบาลน่าจะเป็นฝ่ายแพ้ และมีแนวโน้มว่าจะต้องเปลี่ยนผู้นำรัฐบาล

ดวงชะตาของนายกรัฐมนตรี กำลังจะมีดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาววิบากกรรม ย้ายออกจากเรือน ราศีธนู เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2563 และดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีมังกร ดวงชะตานายกฯ น่าจะดีขึ้น ความวิตกกังวลในเรื่องงานจะลดน้อยลง

เรื่องการงานของดวงเมือง เนื่องจากดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์จะโคจรเข้าไปในเรือน กัมมะ (การงาน) ของบ้านเมือง ความสับสนและแตกสามัคคีจะเกิดขึ้น ในระหว่างต้นปี จนถึง 29 มี.ค. 2564 ดาวพฤหัสฯ จึงจะโคจรแยกออกจากดาวเสาร์ โคจรเดินหน้าเข้าในเรือนลาภะของ ดวงเมือง หรือราศีกุมภ์ต่อไป

ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองที่น่าจับตามอง ไม่ใช่ปัญหาของการเมือง แต่เป็นปัญหาเศรษฐกิจ เพราะดาวราหู ย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ หรือเรือนกดุมภะ ของดวงเมือง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 2563 และจะอยู่ในเรือนกดุมภะต่อไปอีกยาวนานถึง 1 ปี 6 เดือน จะไปสิ้นสุดหลังจากวันที่ 30 มี.ค. 2565

เศรษฐกิจจะตกต่ำมากที่สุด เมื่อดาวอังคาร จะโคจรเข้าสมทบกับดาวราหู ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. 2564 ถึง 14 เม.ย. 2565

ในปี 2564 รัฐบาลไม่มีเงิน ก็ไม่มีกล้วยที่จะเอาไว้เลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล เศรษฐกิจจะตกรุนแรงขึ้นอีก หุ้นจะตกอย่างรุนแรง ระหว่างวันที่ 29 เม.ย. ถึง 2 ก.ค. 2564

เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำตลอดปีเช่นนี้ ใครมาเป็นผู้ปกครองประเทศก็จะยุ่งยากลำบากใจเพราะสินค้าไม่มีจะขาย สังคมจะปั่นป่วน เพราะเรื่องเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งจะนำไปสู่ความแร้นแค้นและคับขันไปตลอดปี

ในอดีตประเทศไทยเคยประสบมาแล้ว เมื่อปี 2489 ปัญหาสังคมเกิดขึ้น จนทำให้มีรัฐประหารเกิดขึ้น อีกครั้ง โดยวันที่ 8 พ.ย. 2490 พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ และคณะ ทนไม่ไหวได้ทำรัฐประหาร เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ

บรรยากาศสถิติ และกาลเวลา ดาวราหูจะโคจรเข้าไปในเรือนกดุมภะ ของดวงเมืองอย่างนี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่รุนแรงกว่าเรื่องการปกครอง ความสับสนวุ่นวายในเรื่องการงานของประเทศ รายรับ ของดวงเมืองจะตกต่ำลงในช่วงปลายปี

15 มิ.ย. ดาวพฤหัสฯ จะโคจรถอยหลังในเรือนลาภะ บ่งบอกว่ารายได้ของรัฐจะตกต่ำลงไปอีก รัฐบาลไม่มีเงินใช้ ไม่พอกับรายจ่าย ใครมารับช่วงเป็นรัฐบาลใหม่ก็ยิ่งยุ่ง

สรุปว่า ปี 2564 เรื่องเศรษฐกิจจะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง ประชาชนจะลำบากมากยิ่งขึ้น คนจะตกงานมากขึ้น ข้าวของแพง และโจรผู้ร้ายชุกชุม เรื่องการงานและการเงินมีแนวโน้มจะถอยหลัง ปัญหาสังคมก็จะรุนแรงขึ้นไปตลอดปี แม้ประชาชน และรัฐบาลจะไหว้ดาวราหูอย่างไรก็คงไม่ฟื้น

ในที่สุดน่าจะทำให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้งในปี 2565 จนได้

วสุวัส คำหอมกุล หรือโหรวสุ

นักพยากรณ์ดวงชะตา

ปี 2564 มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ การเมืองไม่มีความแน่นอน เริ่มตั้งแต่เดือนก.พ. เป็นต้นไป รัฐบาลอาจมีการปรับ ครม. หรือเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญสภาเหมือนไปได้เรื่อยๆ แต่พอถึงเดือนก.ย. ดาวพฤหัสฯ ถอยหลัง แปลว่ารัฐธรรมนูญไปไม่ได้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ร่างกันใหม่ โหวตกันใหม่

การเมืองในปี 2564 ไม่มีความก้าวหน้าไปในทางที่ดี เพราะมันไปแล้วก็กลับมาที่เดิม คือลักษณะดาวที่โคจรของดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์ที่อยู่ใกล้กันมาก

เรื่องม็อบยังคงมีอยู่ ซึ่งสถานการณ์จะไม่ค่อยดี ถ้ามีม็อบใหญ่จะมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้มีคนเสียชีวิต ตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป

เศรษฐกิจดวงเมืองในช่วงต้นปี เดือนม.ค.และก.พ. สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดีแต่ช่วงหลัง 25 ก.พ. จะเริ่มเห็นว่าเศรษฐกิจขยับ ธุรกิจท่องเที่ยว การเดินทาง หรือธุรกิจที่หยุดในช่วงโควิด-19 จะเริ่มฟื้นขึ้น มีโอกาสมากขึ้น ต่างประเทศเริ่มเดินทางเข้ามาไทย ในช่วงเดือนมี.ค. ธุรกิจท่องเที่ยว การเดินทางจะกลับมามีความหวังในระดับหนึ่ง

แต่พอเข้าเดือนก.ย. ซึ่งเป็นช่วงการเมืองไม่แน่นอน จะมีปัญหาทำให้กลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง มาตรการต่างๆ ที่ยังใช้ไม่ได้ผลจะทำให้ช่วงปลายปี ปัญหาหนี้สิน เศรษฐกิจ นโยบายต่างๆ จะมีปัญหา เศรษฐกิจจะตกต่ำมากกว่าปี 2563 ด้วยซ้ำ เพราะราหูยังอยู่ในดวงเมือง หนี้สินอาจจะเพิ่มมากกว่าเดิม และรัฐวิสาหกิจบางแห่งขาดทุน รัฐบาลไม่มีเงินอัดฉีด หน่วยงานของรัฐบางหน่วยเอาคนออกเยอะ จะมีคนตกงานมากกว่าปี 2563 เรียกได้ว่า ปลายปี 2564 คนจะตกงานเยอะมาก

ธุรกิจการค้าขายเหมือนแค่ประคองตัวรอการเปลี่ยนแปลง หรือถ้ารัฐบาลไม่มีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ไม่มีรัฐบาลชุดใหม่ นายกฯ คนใหม่ มองแล้วว่า ปลายปีคือหนัก เป็นวิกฤตหนักพอสมควร พอๆ กับปี 2540

เรื่องที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษคือ เรื่องการเมือง เรื่องม็อบ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2564 ดาวหลายๆ ดวง จะมาทับกันที่ราศีมังกร ทั้งดาวอังคาร เสาร์ พฤหัสฯ ศุกร์ เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ถ้าเกิดมีม็อบ หรือมีเหตุการณ์ใดๆ ทางการเมือง อาจนำไปสู่ความรุนแรง จะมีคนเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม

ในเดือนมี.ค.-ก.ย. เป็นช่วงที่คนไทยมีเกณฑ์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการเดินทาง อุบัติเหตุทางการเมืองในที่ ชุมนุมใหญ่ๆ หรืออุบัติเหตุเกี่ยวกับการก่อสร้าง โรงงานที่ใช้ไฟ อาจจะมีแก๊สระเบิด หรือตึกถล่ม ทำให้มีคนเสียชีวิต

ดวงเมืองตรงนี้น่าเป็นห่วงมาก เป็นดวงเมืองอาภัพ เพราะคนประมาทเลินเล่อ ทำให้มีปัญหาอุบัติเหตุ เกิดโศกนาฏกรรม ทำให้คนเสียชีวิตจำนวนมาก เรื่องนี้ต้องระวังกัน

ดวงรัฐบาล ดวงเมืองทุกครั้งที่มีดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์ที่อยู่ในมุมราศีมังกร ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง อย่างในปี 2534 รัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ถูกรัฐประหารโดยรสช. ดาวก็มาในลักษณะเดียวกัน แต่ดาวอังคารอยู่คนละมุม

ในปี 2564 อาจจะไม่รุนแรงถึงขั้นมีรัฐประหาร แต่มีการเปลี่ยนแปลงมีการกดดันของฝ่ายที่มีกำลังทหาร นายกฯ อาจจะไม่ยุบสภา แต่ใช้วิธีการประกาศกฎอัยการศึกให้ทหารเข้ามาคุม เพราะ ตอนนี้ทหารไม่มีอำนาจเต็มเท่ายุครสช. แต่เข้าใจว่า มุมดาวเป็นมุมเดียวกัน แปลว่าต้องมีอะไรทำให้สภาไม่มีหน้าที่ ตั้งแต่ช่วงหลังเดือนมี.ค.-ก.ย.

การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถ้าเป็นไปได้จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ย. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็จะเปลี่ยนช่วงนี้ แต่จะดีได้แค่นิดเดียวแล้วเจอปัญหาอุปสรรคที่ต้องเปลี่ยนแปลงเยอะ ไม่มีทางจะอยู่แบบเดิมๆ เหมือนทุกวันนี้ หรือจะใช้มาตรการเดิมๆ กับเศรษฐกิจ หรือใช้มาตรการทางกฎหมายเดิมๆ จัดการบุคคลที่เห็นต่างอย่างม็อบ คงใช้ไม่ได้

แต่ถ้าจะใช้เช่นเดิม ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง คือเปลี่ยนตัวบุคคล ทั้งนายกฯ, รัฐมนตรี ต้องมีคนชุดใหม่เข้ามาแทน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นคนฝั่งไหน แต่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการเปลี่ยนจากทหาร

มองในมุมนี้ ไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะประชาชนยังไม่มีโอกาสเลือกรัฐบาลที่ตนเองต้องการ

ภัยธรรมชาติที่น่ากลัว ในปี 2564 เกี่ยวกับ ไฟป่า ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเม.ย.-พ.ค. ถึงขั้นมีคน เสียชีวิต เพราะดวงเมืองในช่วงนั้น จะมีคนเสียชีวิตจากไฟป่า ภาคพื้นดิน การก่อสร้าง

โสรัจจะ นวลอยู่

นอสตราดามุสเมืองไทย

การโคจรของดวงดาวในปีฉลู 2564 ยังมีดาวสำคัญที่อยู่ในตำแหน่งเดิมที่สำคัญคือดาวมฤตยู ที่ยังสถิตในราศีเมษ ไปถึงเดือนก.ค. 2565 โดยจะย้ายออกในวันที่ 7 ก.ค. 2565 ดาวเสาร์ปัจจุบันสถิตราศีมังกร อยู่ในภพที่สิบของดวงเมืองไปอีกระยะหนึ่ง ถือว่ายังมีอิทธิพลกับดวงบ้านเมืองอยู่

ตอนต้นปี พระเสาร์ตั้งฉากกับดาวมฤตยูในลัคนาเมษ (ลัคนาของดวงเมือง) มีดาวเกตุ และพระราหูล้อมหน้าล้อมหลังเช่นนี้ ถือว่าเป็นจุดอันตราย เท่ากับเพิ่มความรุนแรงให้กับสิ่งที่ตามมาและความยุ่งยากนานาประการ

อาถรรพ์ของดวงดาวบาปเคราะห์เสาร์กับดาวมฤตยู มีผล ต่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ในปีนี้ บ่งถึงสภาวะของประเทศ อาจจะเกิดการแตกร้าว รุนแรง แสดงให้เห็นถึงจุดยุ่งยากของหัวหน้ารัฐบาลจะต้องเผชิญและควรหาทางแก้ไขตั้งแต่ต้น

ปีฉลู 2564 เป็นปีที่ต้องต่อสู้กันทรหด ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างรุนแรง ทุกอย่างจะสำแดงความไม่ปกติสุข เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะวิกฤต คนตกงานอย่างต่อเนื่อง รัฐไม่มีเงินจ้างงาน ก่อให้เกิดการว่างงานเป็นเวลายาวนาน

ปี 2564 บ่งถึงความไม่ลงตัว ความวุ่นวาย ปั่นป่วน การเมืองเต็มไปด้วยการขัดแย้ง เข้มข้นยิ่งขึ้น เหตุการณ์ของประเทศจะพลิกผันอย่างไม่เคยเห็นและเกิดความว่างเปล่า ดวงดาวลิขิตมาในปีนี้เกินสุดจะคาดเดาได้เลย

กลุ่มชน ฝูงชน อาจมีการเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่สุดตั้งแต่ตั้งเมืองมา ดาวอังคารสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีกรกฎ เล็งดาว พระเสาร์ ในเดือนมิ.ย. 2564 จะมีลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญอันเสียหายกับบ้านเมือง ให้จับตาลางร้ายที่จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและบ้านเมือง เหตุการณ์ทางการเมืองรุนแรงที่จะเกิดในปีนี้ เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง จะวนเวียนซ้ำไปมาเหมือนเมื่อปี 2563 แต่รุนแรงมากกว่า

บ่งถึงเมืองไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤต จะมีม็อบหรือประชาชนมาชุมนุมกันเป็นเรือนแสน ชุมนุมตามท้องถนนแม้รัฐบาลจะประกาศห้ามชุมนุมก็ไม่ฟังกัน เพราะปัญหาทุกด้านไม่ได้รับการแก้ไข

ในปี 2564 ดาวพฤหัสฯ กับพระเสาร์ตั้งฉากกับดาวมฤตยู ทำให้บ้านเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ นักวิชาการจะถูกดึงเข้ามาช่วย ดวงดาวของบ้านเมืองเดินถอยหลังลงคลอง ต่อให้ใครอาสาเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศก็ทำได้ยาก เกิดความยุ่งยากทางการเมือง บ่งถึงความแตกหัก ขัดแย้ง ก้าวร้าวกันอย่างชนิดยอมหักไม่ยอมงอ

ขณะที่การเมืองระส่ำหนัก เราก็มีภัยรอบข้าง ทำให้ดูเหมือนเกิดความคับขัน มีอัคคีภัยร้ายแรงทั่วทุกภาค ไฟป่าเผาผลาญ ลุกโชติช่วงไปทุกแห่ง ปี 2564 หนักมากเพราะพืชผลทาง การเกษตรจะถูกไฟป่า อากาศในกรุงเทพฯ จะร้อนมากที่สุดในรอบพันปี เกิดฝุ่นละอองเกินมาตรฐานทั่วทั้งประเทศและกรุงเทพฯ มีผู้คนล้มป่วยจำนวนมาก รัฐบาลหมดปัญญาแก้ไข และบางส่วนของประเทศอาจมีการอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยจากฝุ่นละออง

เศรษฐกิจ หุ้นจะตกอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ธนาคารขนาดใหญ่เซ ประสบภาวะเงินฝืด กำลังซื้อลดลง บริษัทห้างร้าน เอกชนหรือโรงงาน ผลิตสินค้าจำหน่ายในประเทศจะประสบปัญหาการตลาดอย่างรุนแรง คนงานอาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากลดผลผลิต จำเป็นต้องลดคนงานลง โรงงานขนาดใหญ่ทั่วประเทศต้องปิดตัวลง ปัญหาการว่างงานจะมีตามมา มีความยากแค้น ความไม่กลมเกลียวกันระหว่างหมู่คณะและบุคคลในทุกสาขาอาชีพ

ชาวนา เกษตรกร จะมีหนี้สินจำนวนมาก มีคนอดอยาก ล้มตายจากพิษเศรษฐกิจ จะประสบภัยแล้งขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม เกิดสงครามแย่งน้ำ

ในช่วงกลางปี อาจจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เขย่าพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายร้อยหลัง และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง

จะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบพันๆ ปี โดยเกิดทั่วโลกด้วย ประเทศไทยต้องระมัดระวังให้มากที่สุด เพราะจะส่งผลถึงเราปีนี้ค่อนข้างแรง โดยมีไวรัสที่จะกลายพันธุ์ก็คงเป็นโควิด-19 ทำให้มีการเสียชีวิตทั่วโลกจำนวนมากขึ้น โดยจะแพร่ทางอากาศ ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเชื้อร้ายนี้ได้

เชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์นั้น จะทำลายเนื้อเยื่อของมนุษย์ให้ ตายภายใน 24 ชั่วโมง เป็นที่ตื่นตระหนก มีผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนมาก

สยามประเทศได้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติอาเพศสุดๆ จะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี และเป็นช่วงที่โรคภัยนี้จะอยู่ตลอดเวลา ทำให้เรารู้สึกว่ามากกว่าปี 2563 เพราะในปี 2564 เราเจอค่อนข้างใหญ่มากๆ

ช่วงปลายปี เชื้อโรคร้ายที่มาพร้อมกับอากาศหนาววิปริต หนาวจัด คนและสัตว์ต้องล้มตายจากไวรัสร้ายอย่างรวดเร็วจนน่าอเนจอนาถ ไม่มีแพทย์ที่จะรักษาให้หายขาดได้ ทำให้ประเทศไทยและโลกต้องจารึกเป็นประวัติศาสตร์จากภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้

ความสัมพันธ์กับต่างแดนในปีนี้ ไม่ว่าจะมีการเจรจาใดๆ ฝ่ายเรามักเป็นรอง ไม่ประสบความสำเร็จในด้านการทูต การเดินทางประสานสัมพันธ์ไมตรีไม่ประสบผลในทุกด้าน ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

เรื่องภัยพิบัติ พื้นดินถล่มและทรุดตัวทั่วประเทศ เกิดเกือบตลอดทั้งปีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมถึงในกรุงเทพฯ ด้วย เราอาจจะสูญเสียแผ่นดินแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน อาจจะเกิดพายุ เกิดแผ่นดินไหว บางส่วนจะจมลงสู่ใต้ทะเล

แถบชายฝั่งทะเล อาจจะถูกคลื่นยักษ์สึนามิ พุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่เหมือนปี 2547 อีกครั้งหนึ่ง สร้างความเสียหายให้มากมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน