ผี-เรือเดือดแน่ตัดเชือกคาราบาวฯ – คืนวันพุธนี้ ถึงเวลาแมตช์ตัดเชือกคาราบาว คัพ ระหว่าง 2 ทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ซึ่งผู้คว้าชัยก็จะตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เกมที่มีศักดิ์ศรีและโอกาสคว้าเกียรติยศเป็นเดิมพันเช่นนี้ กล้าพูดเลยว่าบู๊กันเดือดแน่นอน

วันพุธที่ 6 มกราคม 2564

คาราบาว คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากพรีเมียร์ลีกเจอกันเอง และถือเป็นศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์หนที่ 184 นับเฉพาะเกมทางการ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ่ายทอดสดทางช่องพีพีทีวี 02.45 น.

ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นจากรอบสาม บุกไปเยือนลูตัน ทาวน์ จากลีกแชมเปี้ยนชิพ เกมนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูจาก ฆวน มาตา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวูด ชนะไปสบายๆ 3-0

จากนั้นเป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย บุกไปเยือนไบรตัน ทีมพรีเมียร์ลีกด้วยกัน แมตช์นี้แมนฯ ยูไนเต็ดได้ประตูจาก สกอตต์ แม็ก โทมิเนย์, ฆวน มาตา, ปอล ป๊อกบา จึงชนะไป 3-0

ล่าสุดเป็นรอบก่อนรองชนะเลิศบุกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ทีมพรีเมียร์ลีกอีกราย แมนฯ ยูไนเต็ดได้ประตูจากเอดินสัน คาวานี, อองโธนี มาร์กซิอัล ทำให้เป็นฝ่ายชนะ 2-0

ส่วนแมนฯ ซิตี้ เริ่มต้นจากรอบสาม เปิดบ้านเจอบอร์นมัธจาก ลีกแชมเปี้ยนชิพ โดยแมนฯ ซิตี้ ได้ประตูจาก เลียม ดีแลป, ฟิล โฟเดน ส่วนบอร์นมัธ ได้จาก แซม เซอร์ริดจ์ “เรือใบสีฟ้า” จึงชนะ ไป 2-1

ต่อมาเป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย บุกไปเยือนเบิร์นลีย์ ทีมจากพรีเมียร์ลีกด้วยกัน เกมนี้แมนฯ ซิตี้ชนะไป 3-0 ได้ประตู จาก ราฮีม สเตอร์ลิง 2 ลูก และ เฟร์รัน ตอร์เรส

รอบก่อนรองชนะเลิศ บุกไปเยือนอาร์เซนอล ทีมพรีเมียร์ลีกอีกราย แมนฯ ซิตี้ได้จาก กาเบรียล เชซุส, ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเดน, อายเมอริก ลาปอร์กต์ ด้านอาร์เซนอลได้จาก อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ “เรือใบสีฟ้า” ชนะขาดลอย 4-1

ส่วนสถานการณ์ในลีกล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ดลงสนาม 16 นัด ชนะ 10 เสมอ 3 แพ้ 3 เก็บไป 33 คะแนน ด้านแมนฯ ซิตี้แข่ง 15 นัดชนะ 8 เสมอ 5 แพ้ 2 มีอยู่ 29 คะแนน ทั้งคู่ต่างอยู่ในจุดที่มีลุ้นแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูง

เช็กฟอร์มเกมลีก 5 แมตช์หลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ดชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-2 (เยือน), ชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 6-2 (เหย้า), เสมอเลสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (เยือน), ชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 (เหย้า), ชนะ แอสตัน วิลลา 2-1 (เหย้า)

ด้านแมนฯ ซิตี้เสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 (เยือน), เสมอเวสต์บรอมวิช 1-1 (เหย้า), ชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 (เยือน), ชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า), ชนะเชลซี 3-1 (เยือน)

การพบกัน 183 ครั้งก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 76 นัดเสมอกัน 53 นัด แมนฯ ซิตี้ชนะ 54 นัด โดยฤดูกาลนี้เจอกันในลีกไปแล้วหนหนึ่ง ผลเสมอกัน 0-0

ขณะที่ฤดูกาลก่อนเจอกันไปถึง 4 นัด แบ่งเป็นเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัด (แมนฯ ซิตี้ 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 แมนฯ ซิตี้) และคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ 2 นัด (แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3 แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ซิตี้ 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด)

ผลงานในถ้วยนี้ แมนฯ ยูไนเต็ดได้แชมป์มาแล้ว 5 สมัยฤดูกาล 1991-92, 2005-06, 2008-09, 2009-10, 2016-17 ฤดูกาลที่แล้วเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ด้านแมนฯ ซิตี้ได้แชมป์ไป 7 สมัยฤดูกาล 1969-70, 1975-76, 2013-14, 2015-16, 2017-18, 2018-19, 2019-20 เท่ากับว่าครองแชมป์มาตลอด 3 ฤดูกาลติดกัน

ความพร้อมนัดนี้ แมนฯ ยูไนเต็ดจะขาด มาร์กอส โรโฮ มีอาการบาดเจ็บ และต้องเช็กความฟิต วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ ด้านแมนฯ ซิตี้ชวดใช้งาน เอแดร์สัน โมไรส์, เอริก การ์เซีย, กาเบรียล เชซุส, เฟร์รัน ตอร์เรส, ไคล์ วอล์กเกอร์ ทั้งหมดมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก และต้องเช็กความฟิต อายเมอริก ลาปอร์กต์, นาธาน อาเก

คาดว่าแมนฯ ยูไนเต็ดจะใช้แผน 4-2-3-1 ดีน เฮนเดอร์สัน : อักเซล ตูอองเซเบ, เอริก ไบญี, แฮร์รี แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส : เนมานยา มาติช, สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ : เมสัน กรีนวูด, บรูโน แฟร์นานเดส, ฆวน มาตา : อองโธนี มาร์กซิอัล

ส่วนแมนฯ ซิตี้คงวางหมาก 4-3-3 แซก สเตฟเฟน : เชา คันเซโล, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก : เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน : ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกโร, ราฮีม สเตอร์ลิง

แมนฯ ยูไนเต็ดกำลังทำผลงานยอดเยี่ยม ช่วงนี้จึงเล่นได้อย่างมั่นใจ ขณะที่แมนฯ ซิตี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่พิษโควิด-19 ก็ส่งผล กับทีมไม่น้อย นักเตะในทีมน่าจะพากันกรอบหมดแล้ว เพราะตัวหมุนเวียนหายไปเพียบ มองแล้วสถานการณ์เป็นใจให้ “ปีศาจแดง” จึงมีโอกาสคว้าชัยได้สูงกว่า

สถิติการเจอกัน

10 ครั้งหลังสุด

แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 แมนฯ ซิตี้ (12 ธ.ค. 2020)

แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 แมนฯ ซิตี้ (8 มี.ค. 2020)

แมนฯ ซิตี้ 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (29 ม.ค. 2020)

แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3 แมนฯ ซิตี้ (7 ม.ค. 2020)

แมนฯ ซิตี้ 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด (7 ธ.ค. 2019)

แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 แมนฯ ซิตี้ (24 เม.ย. 2019)

แมนฯ ซิตี้ 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (11 พ.ย. 2018)

แมนฯ ซิตี้ 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด (7 เม.ย. 2018)

แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 แมนฯ ซิตี้ (10 ธ.ค. 2017)

แมนฯ ซิตี้ 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (27 เม.ย. 2017)

นักเตะที่น่าจับตาประจำเกมนี้

แมนฯ ยูไนเต็ด : บรูโน แฟร์นานเดส เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโปรตุเกส ฤดูกาลนี้ลงสนามให้ต้นสังกัดไปแล้วรวมทุกรายการ 24 นัด ยิงได้ 15 ประตู นับเฉพาะคาราบาว คัพ ลงเล่นไปแล้ว 2 นัด ถือเป็น หัวใจสำคัญของแมนฯ ยูไนเต็ดยุคนี้อย่างแท้จริง และเมื่ออยู่ในจุดที่ได้ลุ้นแชมป์เช่นนี้ โอกาสที่เจ้าตัวจะลงสนามเกมนี้จึงมีสูง

แฟร์นานเดสวัย 26 ปี ผ่านการเล่นให้โนวารา, อูดิเนเซ, ซามพ์โดเรีย, สปอร์ติง ลิสบอน ก่อนย้ายมาแมนฯ ยูไนเต็ดเมื่อเดือนมกราคม 2020 และโชว์ฟอร์มโดดเด่นมาตลอดจนกลายเป็นขวัญใจ แฟนบอลไปแล้ว นอกจากนี้ยังติดทีมชาติโปรตุเกสไปแล้ว 25 นัด

แมนฯ ซิตี้ : เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ฤดูกาลนี้เล่นให้ต้นสังกัดรวมทุกรายการ 18 นัด ยิงได้ 3 ประตู เฉพาะคาราบาว คัพ ลงเล่นไป 2 นัด ในสถานการณ์ที่ทีมกำลังลุ้นแชมป์ แต่ขาดตัวผู้เล่นหมุนเวียนแบบนี้ เจ้าตัวจึงต้องรับหน้าที่เป็นจอมทัพต่อไปแน่นอน

เดอ บรอยน์วัย 29 ปี เคยเป็นนักเตะของเกงก์, เชลซี, แวร์เดอร์ เบรเมน, โวล์ฟสบวร์ก ย้ายมาแมนฯ ซิตี้เมื่อปี 2015 และเป็นกำลังสำคัญนำทีมกวาดแชมป์มากมาย ได้ลงเล่นลีก คัพ ตลอดเส้นทางอาชีพมา 20 นัด ยิงได้ 9 ประตู

ผู้จัดการทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด : โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ (นอร์เวย์) ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ก่อนหน้านี้เคยคุมโมลด์, คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แล้วมารับงานกับแมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีแชมป์สมัยที่ยังเป็นกุนซือโมลด์ในบ้านเกิดเท่านั้น

โซลชาร์วัย 47 ปี เดิมทีเข้ามาทำงานกับแมนฯ ยูไนเต็ดเมื่อเดือนธันวาคม 2018 แล้วนำทีมทำผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตา จึงได้รับ สัญญาทำงานถาวรในเดือนมีนาคม 2019 ฤดูกาลที่แล้วพาทีมจบอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก

แมนฯ ซิตี้ : เป๊ป กวาร์ดิโอลา (สเปน) ประสบความสำเร็จอย่างสูงระดับขึ้นแท่นตำนานได้แบบเต็มตัว กวาดแชมป์มากมายทั้งสมัยทำงานให้บาร์เซโลนาและบาเยิร์น มิวนิก หรือกระทั่งนับตั้งแต่เข้าคุมแมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2016 ก็พาทีมเก็บโทรฟี่ได้เพียบ

กวาร์ดิโอลาวัย 49 ปี พาบาร์เซโลนากวาด 3 แชมป์ใหญ่ทั้งลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2008-09 ส่วนตอนคุมบาเยิร์นฯ 3 ปี ก็นำทีมได้แชมป์ บุนเดสลีกาทุกปี และผลงานกับแมนฯ ซิตี้ก็พาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน