หลวงพ่อปี้ ทินโน – วันจันทร์ที่ 11 ม.ค.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 47 ปี มรณกาล “พระครูสุวิชาน วรวุฒิ” หรือ “หลวงพ่อปี้ ทินโน” พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดคูหาสุวรรณ (วัด ลานหอย) ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย ท่านเป็น 1 ใน 108 พระเกจิคณาจารย์ทรงวิทยาคมที่ได้รับการนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก สุดยอดพระเครื่องของเมืองสยาม คือ พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ

ถือกำเนิดขึ้นในตระกูล ชูสุขเมื่อวันพุธที่ 15 ต.ค. 2455 ที่ ต.ลานหอย อ.บ้าน ด่านลานหอย จ.สุโขทัย บิดา-มารดา ชื่อ นายสังข์และนางเย็น ชูสุข

คำว่า “ปี้” นั้นหมายถึง เงินตราสมัยโบราณ

เมื่ออายุ 12 ปี บิดานำบุตรชายไปฝากให้เรียนหนังสือ มูลบทบรรพกิจเบื้องต้น ทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอมกับพระอธิการหน่าย เจ้าอาวาสวัดเชิงคีรี อ.บ้านด่านลานหอย ต่อมาอายุ 16 ปี บิดาเสียชีวิตจึงต้องกลับไปช่วยเหลือครอบครัว โดยไปรับจ้างเลี้ยงควายและทำนา

ครั้นอายุครบ 20 ปี ประสงค์จะบวชแต่ไม่มีเงินซื้อผ้าไตร แม่จึงพาไปหานายโจทย์ เข็มคง กำนันตำบลลานหอยในขณะนั้น ให้ช่วยเป็นเจ้าภาพ โดยแม่ของท่านมีเงินไปร่วมงานบวชเพียง 25 สตางค์เท่านั้น

จนได้บวชเป็นพระภิกษุสมความปรารถนา เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2465 ที่พัทธสีมาวัดสังฆาราม อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัยโดยมีพระครูวินัยสาร (พระราชประสิทธิคุณ) เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการน้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลังจากนั้นได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเชิงคีรี อ.บ้านด่านลานหอย สอบนักธรรมชั้นตรี ได้เมื่อปี พ.ศ.2475 และได้เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน และการธุดงค์กับพระอุปัชฌาย์ของท่านที่วัดราชธานี ก่อนที่จะออกจาริกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ หลายจังหวัด

พ.ศ.2481 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดเชิงคีรี พ.ศ.2485 ย้ายมาดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดลานหอย และได้รับตราตั้งกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2492 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2496 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูสุวิชานวรวุฒิ พ.ศ.2510 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท

เป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนได้เป็นอย่างดี ได้สร้างคุณูปการให้แก่พระพุทธศาสนา โดยได้อบรมพระภิกษุสามเณร และอุบาสกอุบาสิกาที่ไปกราบนมัสการในเทศกาลต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไปในแบบสนทนาธรรมและปริศนาธรรม

มีปริศนาธรรมมาก ได้แนะนำให้ประชาชนงดเว้นจากการทุจริต กลับมาประพฤติตนเป็นสุจริตชน ได้เป็นจำนวนมาก คนที่มีปัญหาเดือดร้อน ถ้าช่วยได้ท่านก็จะช่วยทันที พร้อมกับให้คติธรรมแนะนำสั่งสอนให้ทำแต่ความดี นอกจากนี้ ได้ให้การอุปถัมภ์การสร้างถาวรวัตถุให้กับวัดในอำเภอ และจังหวัดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ทุกวันจะมีผู้มากราบนมัสการมากมาย ไม่ว่าใครจะนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่ใด ท่านไม่เคยขัด โดยท่านปลุกเสกไว้หลายรุ่นหลายรูปแบบ เช่น พระเครื่อง เครื่องรางธนบัตรขวัญถุง, ผ้ายันต์รอยเท้า ฯลฯ

ตามปกติเป็นผู้มีจิตใจสุขุมเยือกเย็น ไม่เป็นคนล้าสมัยเพราะท่านคอยฟังข่าวจากวิทยุและหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ

เคยให้แนวคิดแก่ข้าราชการและนักการเมืองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความกตัญญูกตเวทีต่อพระอุปัชฌาย์ (พระราชประสิทธิคุณ) เหมือนบิดาบังเกิดเกล้า

ท่านมักปรารภกับผู้ใกล้ชิดเสมอว่า อย่ายึดมั่นถือมั่นสิ่งใดเป็นเด็ดขาด และอย่าดำรงตนอยู่ในความประมาท ใครก็ตามที่มากราบและขอของดี ท่านก็จะให้คาถาบทสำคัญ คือ“ระวัง” หรือ “ความไม่ประมาท”

มรณภาพด้วยโรคหัวใจวาย ที่โรงพยาบาลสุโขทัย เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2517 สิริอายุ 71 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน