ช่วย‘น้องวิว’เรียนออนไลน์ – หลังจากข่าวสดออนไลน์และสื่อมวลชนแขนงอื่นๆ นำเสนอภาพความมุ่งมั่นตั้งใจของ น้องวิว น.ส.ศิริลักษณ์ ฤทธิ์บัว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนหัวหิน ที่ไปกางร่มเรียนออนไลน์กลางแดดร้อน กลางทุ่งเชิงเขาหลังบ้าน เพราะเป็นจุดที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตดีที่สุด

ส่วนน้องชายชื่อ ช็อปเปอร์ ชัชพงศ์ ฤทธิ์บัว แยกไปปูเสื่อเรียนใกล้เตาเผาถ่าน ซึ่งพอมีร่มไม้ให้ร่มเงาบ้าง ปรากฏว่าเรื่องราวนี้ประทับใจผู้คนจำนวนมาก

เมื่อ ครูนพรัตน์ วังแก้ว อาจารย์ฝ่ายวิชาการรับทราบว่านักเรียนทั้งสอง ซึ่งเป็นนักเรียนทุนพระราชทาน มีปัญหาการเรียนบางวิชา เพราะไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต จึงเดินทางไปสำรวจที่บ้านห้วยแร่ ม.5 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าบ้านอยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินกว่า 30 ก.ม. ถนนทางเข้าหมู่บ้านเป็นทางลูกรัง หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ยังต้องใช้ไฟฟ้าจากแผง โซลาร์เซลล์

น้องวิวเล่าว่า ทุกวันจะเตรียมหนังสือเรียนและไอแพดที่ได้รับรางวัลมาจากการแข่งขันทางวิชาการ จากนั้นเดินออกไปทางหลังบ้านซึ่งเป็นเชิงเขา ประมาณ 100 เมตร เป็นลานโล่ง มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตดีที่สุดของบ้าน จึงกางร่มแล้วต่อเน็ตเพื่อเริ่มเรียนออนไลน์ แม้จะร้อนแต่ก็เรียนได้จนจบชั่วโมงเรียน

ส่วนน้องช็อปเปอร์เดินหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตแยกไปปูเสื่อเรียนใกล้เตาเผาถ่าน เพราะใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตคนละค่ายกัน

“ที่บ้านไม่มีสัญญาณค่ะ พยายามเดินหาว่าตรงไหนพอจะมีสัญญาณเน็ตมากพอที่จะเรียนออนไลน์ได้ จนพบว่าที่เชิงเขาหลังบ้านพอจะมีสัญญาณเน็ตอยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่เสถียร หลุดบ้าง ดีบ้าง แต่ถือว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดที่พอเรียนได้

จากนั้นพ่อช่วยยกโต๊ะไม้ตัวใหญ่ไปให้ใช้วางหนังสือและไอแพดให้เรียนออนไลน์ได้สะดวก แต่ตรงนั้นไม่มีร่มไม้เลย ทำให้เวลาเรียนออนไลน์จำเป็นต้องกางร่มเรียนไปด้วย พอเรียนจบวิชาหรือถึงเวลา พักเที่ยง จึงจะเดินกลับมากินข้าวที่บ้าน พอถึงคาบเรียนช่วงบ่ายก็จะเตรียมหนังสือและอุปกรณ์ขึ้นไปเรียนใหม่” น้องวิวเล่า

เมื่อถามว่าทำไมยังทนเรียนร้อนๆ น้องวิวกล่าวว่า “ก็ไม่ได้ลำบากจนเกินไปค่ะ มันร้อนและเหนื่อยจริง แต่ไม่นานก็หายถ้าเทียบกับความรู้ที่จะได้จากการเรียนหนูยอมได้ และไม่อยากปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อาจจะต้องลำบากกว่าคนอื่นนิดหน่อยแต่เมื่อเทียบกับความรู้ที่จะได้ติดตัวไปตลอดชีวิต มันคุ้มค่ามากกว่าค่ะ”

ต่อมา ว่าที่ร.ต.นพดล รักษ์แก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 และ นายสุชาติ ปรีดิ์เปรม ผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหิน และคณะครู พากลุ่มผู้ที่แจ้งความประสงค์ช่วยน้องวิว เดินทางไปยังบ้านเด็ก เมื่อวันที่ 25 ม.ค.

คณะนี้ประกอบด้วย นายธาณินทร์ สุวรรณกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้าภาคกลาง บมจ.ทีโอที (TOT) หรือบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) พร้อมทีมช่างของทีโอที ดร.เสน่ห์ คำแพง ซีเนียร์ไดเร็กเตอร์ ส่วนบริการลูกค้าประจวบคีรีขันธ์ นพ.พงษ์ศักดิ์ บุญยะลีพรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ

เมื่อไปถึง ทีมช่างทีโอทีติดตั้งอุปกรณ์พิเศษสำหรับเรียนออนไลน์ เป็นเราเตอร์ไวไฟ พร้อมซิม TOT SIM for Learn พร้อมช่วยอัพเกรดระบบเก็บไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้ใช้ไฟในเวลากลางวันได้ และทำให้น้องทั้งสองเรียนออนไลน์ด้วยกันได้

จากการตรวจสอบสัญญาณทั้งที่บ้านและพื้นที่โดยรอบแล้ว พบว่า จุดที่ดีที่สุดยังคงเป็นบริเวณเชิงเขา จุดที่น้องวิวนั่งเรียนก่อนหน้านี้ ทีมช่างจึงติดตั้งเสาสูง 6 เมตร พร้อมตัวขยายสัญญาณเพื่อช่วยให้ระบบอินเตอร์เน็ตมีความเสถียรมากขึ้น

นอกจากนั้นยัง มอบแท็บเล็ตจำนวน 3 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์การเรียน หน้ากากอนามัย ให้กับน้องวิวและน้องช็อปเปอร์ไว้เรียนออนไลน์ได้สะดวก นอกเหนือจากมอบทุนการศึกษาอีกจำนวนหนึ่ง

ส่วนตัวแทนโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน นำเต็นท์แบบถอดประกอบได้ ขนาด 3×3 เมตร มาติดตั้งให้น้องวิว แทนการกางร่มเรียน เพื่อให้สะดวกในการจดบันทึกการเรียนได้ทั้ง 2 มือ ไม่ต้องถือร่มมือหนึ่งเรียนมือหนึ่ง เต็นท์มีความสูงเพียงพอที่จะช่วยให้อากาศถ่ายเท อากาศไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนการกางร่ม ดังกล่าว

นายธาณินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที กล่าว ชมว่า น้องเป็นเด็กดีมากช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือโรงเรียน เรียนเก่งได้เกรด 3.98 อันนี้ยินดีอย่างมากครับบริษัทยินดีสนับสนุนเต็มที่ การที่บ้านพักอยู่ชายขอบเครือข่าย ทีโอทีอัพสัญญาณให้มีความเร็วสูงขึ้นมาได้ แต่หากเคสอื่นที่อยู่นอกสัญญาณนอกโครงข่าย อาจจะต้องใช้เทคโนโลยีดาวเทียมแทน ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป

ด้าน ว่าที่ร.ต.นพดลกล่าวว่า หลังได้รับรายงานจากโรงเรียนหัวหิน จึงรายงานข้อมูลให้ผู้บริหารท่านเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ทราบ สำหรับเรื่องการเรียนออนไลน์ทางเขต ให้พื้นที่ติดตามรายงานผลการปฏิบัติการช่วยเหลือของโรงเรียนและหน่วยงานต่างๆ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย

ความพยายามของน้องวิว เป็นจุดเริ่มต้นให้กับเด็กในพื้นที่ ห่างไกลทั่วประเทศให้มีกำลังใจเรียน ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้เข้ามาช่วยเหลือในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องวิว และน้องอีกคนในการเรียนด้วย ครอบครัวนี้ช่วยส่งเสริมลูกหลานได้เรียนอย่างจริงจัง แม้จะอยู่ในพื้นที่ลำบากห่างไกลแต่ก็มีความพยายามเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนทั่วไป

ทั้งนี้ภาพรวมการเรียนออนไลน์ในพื้นที่เขต 10 ซึ่งรับผิดชอบตั้งแต่ จ.สมุทรสาคร แหล่งระบาดของโควิดในขณะนี้ จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4 จังหวัด รวม 60 โรงเรียน ภาพรวมพบปัญหาประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนได้ติดตามดูตลอด โดยให้โรงเรียนได้รายงานสภาพการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนทุกสัปดาห์

ปัญหาส่วนใหญ่นักเรียนที่เข้าเรียนไม่ได้เป็นเรื่องของอุปกรณ์สื่อสารที่ไม่พร้อม โดยเฉพาะเด็กในพื้นที่ห่างไกล เด็กในชนบท เรื่องอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็เป็นปัญหาแบบเดียวกัน ทางสถานศึกษาจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบและช่วยแก้ไขปัญหาให้ หากไม่สามารถออนไลน์ได้ อาจจะต้องใช้เป็นเอกสารแทน มีการติดตามและแก้ไขปัญหามาตลอดโดยไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน

ด้านน้องวิวกล่าวขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้มว่า วันนี้หลายๆ หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ มอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้ ดีใจมาก และขอขอบพระคุณทุกท่านมากๆ ที่ให้ความสนใจมากขนาดนี้

“เมื่อวานนี้นายกเทศมนตรีเมืองหัวหินพร้อมรุ่นพี่ได้เข้ามา เยี่ยม วันนี้มีผู้บริหารสถานศึกษา มีพี่ๆ จาก TOT AIS เข้ามาช่วยดูเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้ ต้องขอขอบคุณมากๆ เลย ขอบคุณที่เห็นถึงความลำบากแล้วก็ความพยายามของหนูค่ะรู้สึกดีมากๆ หลังได้รับความช่วยเหลือแล้ว แน่นอนว่าหนูจะต้องยิ่งตั้งใจเรียนให้มากขึ้น เพราะอุปกรณ์พร้อมแล้ว ความพร้อม มีเท่ากับคนอื่น หากหนูไม่พยายามมากขึ้นเท่ากับถดถอย เป็นการทำนิสัยที่แย่ จะตั้งใจเรียนมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ แล้วก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่ยังลำบากก็อย่าเพิ่งท้อนะคะเราเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะมีคนเห็นและมีความช่วยเหลือเข้าไปถึงคนที่ตั้งใจทุกคนแน่นอน สู้ๆ นะคะ”

วรินดา เหมือนเผ่าพงษ์ แม่ของน้องวิว กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า ดีใจที่มีหน่วยงานมาช่วยเหลือให้ลูกๆ ได้มีโอกาสเรียนออนไลน์ได้ ไม่คิดว่าจะมีคนมาช่วยเหลือเยอะมากขนาดนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมทั้งสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่ติดตามนำเสนอข่าวให้ลูกๆ

“ดีใจที่ลูกๆ ตั้งใจเรียนอย่างมาก ไม่เคยต้องบอกเลย ถ้าเป็นเรื่องเรียนลูกจะดูแลตัวเอง ไม่เคยทำให้หนักใจ ปัญหาตอนนี้คือโควิด-19 ทำให้ลูกๆ ไม่ได้เรียนตามปกติ น้องวิวอยากเป็นหมอ ส่วนน้องช็อปเปอร์อยากเป็นวิศวกร แม้ครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่พ่อแม่ยินดีสนับสนุนเต็มที่ ภูมิใจในตัวลูกๆ มาก” คุณแม่วรินดากล่าว

 

พิมพร อยู่รุ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน