พระครูนนทวุฒาจารย์หลวงปู่ช่วง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2404 ที่บ้านในคลองบางบัวทอง ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โยมบิดาชื่อ สิงห์โต โยมมารดาชื่อ เฟี้ยม นามสกุล เพ็งแจ่ม เมื่อท่านอายุได้ 9 ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากเรียนหนังสือกับพระที่วัดขวิด (วัดแสงสิริธรรม) ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในละแวกบ้านของท่าน ต่อมาเมื่ออายุได้ 12 ปี ท่านก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดเขมาภิรตารามมีพระครูเขมา ภิมุขธรรม เป็นพระอุปัชฌาย์ อายุ 19 ปี ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ

พอปี พ.ศ.2424 ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดบางแพรกใต้ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของโยมบิดาของท่าน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2424 โดยมีพระอธิการทับ วัดนครอินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการศรี วัดบางแพรกใต้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เสือ วัดนครอินทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จันทโชโต” เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดบางแพรกใต้ ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนากรรมฐานกับพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวดของท่านทั้ง 3 องค์ อีกทั้งทางด้านพุทธาคมต่างๆ ซึ่งท่านทั้งสามองค์นี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น

นอกจากนี้ก็ยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาวิทยาคมกับหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงเรื่องวิชาโสฬสมงคลและไตรสรณคมน์ เรียนวิชาทำผ้าประเจียดและธงแดงจากพระธรรมานุสารี (สว่าง) วัดเทียนถวาย เรียนวิชาทำ ผงวิเศษห้าประการจากพระครูนิโรธมุนี วัดตำหนักเหนือเรียนทางคงกระพันชาตรีกับหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

ในปี พ.ศ.2435 พระอาจารย์ศรี เจ้าอาวาสวัดบางแพรกใต้ได้มรณภาพ ท่านก็ได้รับ แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อแทน ต่อมาในปี พ.ศ.2450 หลวงปู่ช่วงก็ได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌาย์ พอปี พ.ศ.2453 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลส่วนใหญ่ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีศีลาจารวัตรงดงาม เคร่งครัดในระเบียบวินัยและมีเมตตาธรรมสูง หลวงปู่ช่วงจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

สร้างถาวรวัตถุไว้มากมาย เช่น พระอุโบสถศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฏิ หอระฆัง เป็นต้น ทั้งเอาใจใส่บูรณปฏิสังขรณ์ตลอดมา จึงทำให้วัดบางแพรกใต้คืนสภาพจากความเสื่อมโทรมจนเจริญขึ้นเท่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ท่านเป็นพระอุปัชฌายะ บวชคนมาตั้งแต่บิดาจนถึงบุตรหลาน เหลน นับอยู่ในเกณฑ์ยาว ถึง 3-4 ชั้น แม้ในยามที่ท่านชราภาพ ท่านก็สงเคราะห์คนอื่นตลอดมา ใครไปหาไม่มีผิดหวังต้องการอะไรให้ทันที

ในเทศกาลออกพรรษาจะมีลูกศิษย์ของท่านมาให้ท่านช่วยลงกระหม่อม ท่านจะใช้ดินสอพองที่ได้ทำไว้มาลงให้ เรื่องวัตถุมงคลของท่านก็มีผ้าประเจียด เสื้อยันต์ ตะกรุด พิสมร ซึ่งผู้ที่อยากได้จะนำวัสดุมาขอให้ท่านทำให้ ปัจจุบันหาดูได้ยากมากครับ ท่านเคยสร้างพระเครื่องเนื้อดินสอพองผสมผงวิเศษและใบแคอัดพิมพ์ ในคราวสงครามเอเชียบูรพา ปัจจุบันก็หาชมยากเช่นกันครับ ในปี พ.ศ.2488 ลูกศิษย์ได้ขออนุญาตท่านสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นเป็นรุ่นแรกในการทำบุญฉลองอายุครบ 85 ปี ปัจจุบันเป็นที่นิยม กันมาก สนนราคาสูงและหายาก

ในปี พ.ศ.2490 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูนนทวุฒาจารย์ ในปี พ.ศ.2496 วัดลานนาบุญได้จัดสร้างเหรียญรูปหลวงปู่ช่วงออกเป็นที่ระลึกในการจำลองพระคันธารราษฎร์ ปี พ.ศ.2497 วัดบางแพรกเหนือได้มีการยกเครื่องบนก่อสร้างพระอุโบสถในการนี้คณะกรรมการวัดผู้ดำเนินการได้ ขออนุญาตสร้างรูปท่านมาอีกรุ่นหนึ่ง เป็นรูปอาร์มเหมือนเหรียญรุ่นแรก แต่ย่อขนาดลง

เหรียญรุ่นสุดท้ายเป็นแบบรูปสามเหลี่ยมสองหน้า ด้านหนึ่งเป็นรูปพระพุทธโสธร ด้านหนึ่งเป็นรูปหลวงปู่ช่วง สร้างในปี พ.ศ. 2497 แต่ทว่ายังไม่ได้ออกมาแจก จนกระทั่งท่านมรณภาพในปีต่อมาจึงนำมาแจกเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงของท่าน

มรณภาพในปี พ.ศ.2498 สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74

ในวันนี้ผมนำรูปเหรียญหลวงปู่ช่วง ออกที่วัดลานนาบุญ ปี พ.ศ.2496 เป็นเหรียญรูปเสมา ซึ่งสนนราคายังไม่สูงนักมาให้ชมครับ

ด้วยความจริงใจ

แทน ท่าพระจันทร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน