เที่ยวเกาะพยาม-ระนองเกาะพยาม เป็นเกาะใหญ่อันดับสองรองจากเกาะช้าง ของ จ.ระนอง

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระนอง ระบุประวัติความเป็นมาหรือเรื่องเล่าว่า พ.ศ.2458 ท่านเจ้าเมืองระนองขณะนั้น (พระยาระนอง) ได้ออกสำรวจพื้นที่หมู่เกาะต่างๆ รวมถึง เกาะพยาม ปรากฏว่าชาวอังกฤษได้เข้ามายึดพื้นที่ เพราะคิดว่า เป็นเขตพื้นที่พม่า เนื่องจากขณะนั้นพม่าเป็น เมืองขึ้นของอังกฤษเจ้าเมืองระนองจึงขอให้ชาวอังกฤษออกจากพื้นที่ เพราะเป็นการรุกล้ำเขตแดนไทย

เมื่อชาวอังกฤษออกจากพื้นที่ จึงให้นายสาด กล้าศึก ที่ติดตามท่านเจ้าเมืองระนองไปด้วยนำพรรคพวกเข้ามาอยู่แทนชาวอังกฤษและได้พัฒนา พื้นที่เรื่อยมา

เกาะพยามได้รับการตั้งชื่อจากท่าน เจ้าเมืองระนอง เพราะท่านและคณะสำรวจพื้นที่รอบเกาะกินเวลาหนึ่งยาม จึงตั้งชื่อว่า “เกาะยาม” เนื่องจากการ เดินทางของชาวบ้านไปมาลำบากจึงเรียก และขอเพิ่มชื่อว่า “เกาะพยายาม”

แต่ในภาษาใต้นิยมพูดห้วนๆ สั้นๆ จึงกร่อนเสียงเป็น “เกาะพยาม” มาจน ทุกวันนี้

เป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ หรือกาหยู ที่มีชื่อเสียงมากของระนอง บนเกาะมีพื้นที่ประมาณ 35 ตารางกิโลเมตร

เริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบกเป้ชาว ต่างชาติเมื่อ 20 ปีก่อน และตามมาด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่แสวงหาความเงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์

ช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แม้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะหายไป แต่นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวระนองยังคงมาเยี่ยมเยือนเกาะแห่งนี้

ปัจจุบันการเดินทางไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อมาถึง จ.ระนอง ก็ตรงมายังท่าเรืออเนกประสงค์เทศบาลตำบลปากน้ำระนอง ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองระนองไม่ไกลนัก ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น

จากนั้นนั่งเรือโดยสารสปีดโบ๊ต ในราคาคนละ 350 บาท ใช้เวลาเพียง 40 นาที ก็มาถึงท่าเทียบเรือเกาะพยาม

บนเกาะมีมาตรการดูแลความปลอดภัย และสร้างความ เชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวตามวิถีชีวิตใหม่นิวนอร์มัล ทั้งเสียงเตือนตามสายอัตโนมัติ ให้สวมใส่แมสก์ มีอสม. และฝ่ายปกครองมาช่วยคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การล้างมือ และการเช็กอินแอพพลิเคชั่นไทยชนะ

จากนั้นสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ในราคาคันละ 150 บาท เพื่อเดินทางไป เช็กอินได้ถึงรีสอร์ตหรือบังกะโล ที่สามารถเลือกพักในราคาตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป ต่างกันที่ทำเลที่ตั้งและมาตรฐานของแต่ละผู้ประกอบการ รับรองว่ามีราคาถูกกว่าทุกปีที่ผ่านมา

ใครจะเลือกสนุกสนานกับการว่ายน้ำในสระที่พักริมทะเล หรือจะไปเที่ยวชมตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้รอบเกาะ โดยเฉพาะอ่าวต่างๆ ซึ่งเส้นทางของอ่าวจะตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก

ไฮไลต์เริ่มจากอ่าวแม่หม้าย คือประตูบานใหญ่สู่เกาะพยาม หน้าอ่าวมีสะพาน ท่าเทียบเรือ เมื่อเดินเข้าถึงฝั่งมีป้ายต้อนรับผู้มาเยือน มีเรือประมงของชาวบ้านจอดเรียงรายทั้ง 2 ฟากของสะพาน เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการค้าของเกาะพยาม มีเรือเช่าเที่ยวรอบเกาะไป ดำน้ำเกาะขามซึ่งอยู่ใกล้กัน

นอกจากนี้ยังมีวัดเกาะพยาม ที่มีสะพานทางเดินไปสู่โบสถ์กลางน้ำ บนหลังคาโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ มองเห็นสวยเด่นเป็นสง่า มาแต่ไกล บริเวณวัดสังเกตดีๆ จะมีระบบนิเวศของสัตว์เล็กตามชายหาดและกล้วยไม้บางชนิดเกาะตามต้นไม้ใหญ่

หากใครชอบดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ต้องมาที่อ่าวนี้ เพราะอ่าวหันหน้าเข้าทิศตะวันออก ช่วงบ่ายทะเลและท้องฟ้าฝั่งนี้จะเป็นสีเข้ม ส่วนที่เป็นหาดทรายจะเป็นสีส้ม ดูแปลกตาสวยงาม

อ่าวใหญ่ด้านทิศตะวันตก ชายหาดที่ทอดยาวเป็นกิโลเมตร เหมาะสำหรับการเล่นวินด์เซิร์ฟ กระดานโต้คลื่น ที่มีให้บริการเช่า หรือเลือกถ่ายภาพนกเงือก ซึ่งมีดาษดื่นให้เห็นกันทั้งเกาะ หรือจะนั่งทอดอารมณ์ชมแสงพระอาทิตย์ตกน้ำกลางทะเลอันดามัน ที่สาดสีทอง สว่างไสวก่อนพลบค่ำ รับรองสุดแสน โรแมนติก

ชายหาดถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนโดย ลำคลองเล็กๆ ชายหาดตอนเหนือมี ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร หาดทรายอ่าวใหญ่จะเป็นสีดำผสมขาว ดังนั้น น้ำทะเลจะทั้งใสและขุ่น เวลาน้ำลงจะเห็นริ้วทรายแปลกตา อ่าวใหญ่ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดของ เกาะพยาม

อ่าวเขาควาย พื้นที่อ่าวเขาควายแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คืออ่าวเขาควายเหนือ-ใต้ มีหาดทรายเป็น 2 สี คือช่วงหนึ่งเป็นสีขาวเนียน อีกช่วงหนึ่งเป็นสีอมชมพู เพราะมีหอยทับทิมตัวเป็นๆ และเศษซากอยู่ที่บริเวณชายหาดเป็นจำนวนมาก

ลักษณะเป็นอ่าวที่หาดทรายโอบโค้งเข้ามาหากันคล้ายกับ เขาควาย ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่ ทรายละเอียด อ่อนนุ่ม และมีหินทะลุ โขดหินที่เป็นรูปหัวใจ มีลักษณะเป็นภูเขาหินลูกเล็กๆ ตรงปลายถูกน้ำกัดเซาะเป็นช่องโพรงขาดให้เราสามารถเดินมุดลอดผ่านไป-มาได้ เป็นจุดเช็กอินยอดฮิต และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดของเกาะพยาม

สุดท้าย อ่าวกวางปีบ อยู่ด้านทิศเหนือของเกาะพยาม เป็นไพรเวต บีช ที่เดินทางเข้าถึงยากลำบากนิดหนึ่ง เพราะต้อง ขับรถจักรยานยนต์ด้วยความชำนาญ แบบไต่เนิน แต่คุ้มค่ากับชายหาดแบบไพรเวต บีช สำหรับนอนอาบแดด และมีปะการังน้ำตื้น ยามห้วงน้ำลงสูงสุด ของต้นเดือนข้างขึ้นและข้างแรม

ช่วงเวลาที่เหมาะในการมาท่องเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี แต่เวลาที่ดีเป็นช่วงระหว่างเดือน ต.ค.-เม.ย.

เกาะพยามยังมีเสน่ห์อีกมากมายที่ต้องมาค้นหาด้วยตัวเอง

จ.ส.อ.กฤษดา เอกวานิช

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน