หมอห่วงกลุ่มเสี่ยงทรุดตรุษจีน – นพ.ธเนศ เดชศักดิพล อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า การสูบบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่ ถือเป็นปัจจัยสำคัญหลักในการเกิดโรคมะเร็งปอด แต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะมีการจุดธูป จุดประทัดและเผากระดาษเงิน กระดาษทองกันจำนวนมาก ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงเทียบเท่ากับควันบุหรี่เช่นกัน เนื่องจากการเผาไหม้ของควันธูป ประทัด และกระดาษจะทำให้เกิดอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ประกอบกับในธูปยังพบสารก่อมะเร็งมากถึง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซิน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ผู้ที่ได้รับสัมผัสเป็นเวลานานจึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้ยังมีสารที่เป็นมลพิษอื่นๆ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ผู้ที่สูดดมเข้าไปจะเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เกิดการจาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก ปวดศีรษะ หรือแม้แต่ควันธูปเข้าตาก็อาจทำให้แสบตา น้ำตาไหลได้

“ถึงแม้งานวิจัยทั่วไปจะระบุไว้ ว่าต้องมีการสัมผัสหรือสูดดมเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน 10 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม หรือระบบการระบายอากาศในสถานที่จุดธูป ประทัด และเผากระดาษ หากระบบการถ่ายเทอากาศไม่ดี ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง” นพ.ธเนศกล่าว

นพ.ธเนศกล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เมื่อมีการจุดธูป ประทัด หรือเผากระดาษ ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคปอด โรคถุงลมโป่งพอง หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เพราะบุคคลกลุ่มนี้มีกลไกการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายไม่เหมือนปกติ ทำให้มีโอกาสเกิดอาการผิดปกติได้มากกว่าในกลุ่มคนที่มีสุขภาพดี

“การทำพิธีต่างๆ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาเนิ่นนาน เพราะฉะนั้นอยากจะแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการจุดธูปในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หันมาใช้ธูปที่มีขนาดสั้นลง ดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น ก็จะช่วยลดโอกาสสัมผัสหรือสูดดมในระยะเวลานานได้ นอกจากนี้ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการรับฝุ่นควันโดยตรง” นพ.ธเนศกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน