คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
พัฒนาการ ม็อบ – สถานการณ์ #ม็อบ 9 มีนาคม สมควรให้ความสนใจ ติดตามอย่างเป็นพิเศษ
ไม่ว่าในที่สุดแล้วการนัดหมาย “ชุมนุม” การนัดหมาย “แสดงออก” ไม่ว่าจะมาจาก “ราษฎร” ไม่ว่าจะมาจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไม่ว่าจะมาจากนักเรียนเลว
ไม่ว่าจะมาจาก “ม็อบเฟสต์” จะปรากฏออกมาอย่างไร
จะมีสภาพการณ์เหมือนกับที่ #ม็อบ 28 กุมภาพันธ์ประสบหน้ากรมทหารราบที่ 1 เหมือนกับที่ #ม็อบ 6 มีนาคม ประสบหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาฯ หรือไม่
นั่นย่อมเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามและ เฝ้ามอง
ต้องยอมรับว่าปรากฏการณ์จาก #ม็อบ 28 กุมภาพันธ์ กำลังกลายเป็น “ตัวอย่าง”
#ม็อบ 28 กุมภาพันธ์ มีความแตกต่างไปจากสถานการณ์ “การชุมนุม” อื่นๆ ในอดีตก่อนหน้านี้อย่างเกือบจะสิ้นเชิง
เพราะยืนยันว่าเป็นม็อบซึ่ง “ไม่มีแกนนำ”
เป็นความแตกต่างไม่เพียงแต่เมื่อเปรียบเทียบกับที่ “เยาวชนปลดแอก” เคยชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 เท่านั้น
หากแตกต่างแม้กระทั่ง #ม็อบ 7 มีนาคม
เมื่อมาถึงคำประกาศของ#ม็อบ 9 มีนาคม ยิ่งเป็นความแตกต่างอันน่าใจหาย
เพราะมีความเด่นชัดอย่างยิ่งว่า ภาวะ “ไร้แกนนำ” รับรู้กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากไม่ว่ารุ้ง ไม่ว่าไมค์ ไม่ว่าไผ่ ล้วนเดินตามรอยอานนท์ ตามรอยเพนกวิน ตามรอยหมอลำแบงค์
คนอื่นๆ อย่าง “ครูใหญ่” ก็มีชนักติดหลัง
คำประกาศ “ไร้แกนนำ” อย่างที่เคยเห็นเมื่อ นัดหมาย #ม็อบ 28 กุมภาพันธ์ และ #ม็อบ 6 มีนาคม จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่พ้นในสถานการณ์ #ม็อบ 9 มีนาคม
เพราะจุดเด่นของการม็อบครั้งนี้คือ “สีดำ”
ต้องยอมรับว่าการทดลองสร้าง “ม็อบไร้แกนนำ” เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นั้น “ท้าทาย”
พลันที่สามารถขับเคลื่อนผ่านวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และสร้างปรากฏการณ์ “ซ้ำ” ได้อีกจากสถานการณ์ของ #ม็อบ 6 มีนาคม ก็เท่ากับเป็นการสร้างความมั่นใจ
ตรงนี้เองที่ก่อให้เกิดสถานการณ์ #ม็อบ 9 มีนาคมโดยอัตโนมัติ