‘ไมค์’ทำงานมีความสุข‘ปุ๊กลุก’เหมือนกระจกสะท้อน – มาจับคู่จิ้นโกยเรตติ้งให้ช่อง 7 HD อีกครั้ง ในละคร “คู่แค้นแสนรัก” สำหรับพระเอก ‘ไมค์’ ภัทรเดช สงวนความดี กับนางเอกคู่จิ้น ‘มุก’ มุกดา นรินทร์รักษ์ หลังเคยทำแฟนๆ ฟินในละคร “มธุรสโลกันตร์”

วันนี้โอกาสดี ได้พูดคุยกับไมค์ ทั้งเรื่องงานและความรักที่คบกับนางเอกสาว ‘ปุ๊กลุก’ ฝนทิพย์ วัชรตระกูล โดยนัดกันที่ “BongCha” ร้านคาเฟ่ชานมไข่มุกของพระเอกหนุ่ม

ละคร “คู่แค้นแสนรัก” เป็นยังไงบ้าง?

ไมค์ – “เป็นละครที่เราตั้งใจมากๆ ส่วนตัวเล่นละครรีเมกมาหลายเรื่อง จริงๆ ผมไม่ได้กังวล นักแสดงแต่ละคนมีเสน่ห์ต่างกัน บทก็เปลี่ยนไปตามยุคเราต้องมาดูว่า เสน่ห์ของเวอร์ชั่นที่แล้วคืออะไร แล้วของเราเสน่ห์คืออะไร”

มองว่าเสน่ห์ของเราคืออะไร?

ไมค์ – “ความเป็นตัวเรา (หัวเราะ) ความเจ้าชู้ในแบบเรา เพราะผมรับบทเป็นสงกรานต์เปิดทีเซอร์มาคำแรกเลย ‘นายสงกรานต์ใช้ผู้หญิงเปลืองอย่างกับกระดาษ’ แสดงว่าเจ้าชู้มากในเรื่อง ต้องศึกษา เพราะเป็นอะไรที่ไกลตัวมาก บอกเลย (หัวเราะ)”

เป็นการโคจรมาเจอกับคู่จิ้นในตำนานอย่าง น้องมุกดา อีกครั้ง?

ไมค์ – “ดีใจครับ เพราะทำงานด้วยกันมาค่อนข้างรู้ใจเรื่องการแสดง วิธีการทำงาน พอมาเรื่องนี้เวลาเข้าฉากลื่นไหล ไม่ต้องจูนเยอะ”

แต่คนยังติดภาพความเป็นเสือผากับน้ำผึ้ง จากเรื่องที่แล้ว มธุรสโลกันตร์?

ไมค์ – “ผมว่าเรื่องนี้คนดูจะชอบ เพราะเรื่องที่แล้วผมไปกระทำเขาเยอะมาก ฉุดกระชากลากถู แต่เรื่องนี้ตรงกันข้าม เขามาเอาคืน มาหลอกให้รัก มาด้วยความแค้น เราไปหลอกเขาไว้ แต่ทุกอย่างมีเหตุผลสิ่งที่เราทำไม่ได้อยากทำร้อยเปอร์เซ็นต์ สุดท้ายเขาแค้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยเข้ามาในครอบครัวเรา มาทำให้เราหลงรักมาทำร้ายครอบครัวเราอย่างสาสม แต่สุดท้ายก็มารักกันด้วยความใกล้ชิด คือความใกล้ชิดในความไม่ชอบ ผมว่าก็เป็นอะไรที่ฟินอีกแบบหนึ่ง”

จะได้เห็นเคมีของไมค์กับมุกดา ในอีกมิติหนึ่ง?

ไมค์ – “ใช่ครับ เป็นความไม่ชอบกันของพระนาง แต่สุดท้ายความใกล้ชิดทำให้เราหลงรักกัน มันดีมาก มันอยู่บนโซฟา เรื่องที่แล้วมันในกระท่อมไง แต่เรื่องนี้บนโซฟาจะรองรับนุ่มๆ หน่อย (ยิ้ม)”

เลิฟซีนเยอะเท่าเรื่องนั้นไหม?

ไมค์ – “อาจไม่เยอะเท่า แต่ฟินไม่ต่าง ความฟินความจิ้นไม่จำเป็นต้องจูบกัน แค่ความใกล้ชิด กัดๆ กันมันก็ยังฟินได้เลย แต่จูบมีแน่นอน เป็นการจูบอีกแบบหนึ่ง เรื่องนั้นเสือผาจูบแบบโจร เรื่องนี้จูบแบบคาสโนว่า จะมีศิลปะในการประกบ”

ไหนว่าคาแร็กเตอร์ไกลตัว แต่เล่าเหมือนมาจากอินเนอร์ข้างใน?

ไมค์ – “ผมเล่นจนมันเป็นผมแล้วไง (ยิ้ม) จริงๆ ผมไม่ได้เป็น ผมพูดถึงละครนะเนี่ย”

เราถือเป็นพระเอกแม่เหล็กคนหนึ่งของช่อง เป็นความคาดหวังของช่องให้มาโกยเรตติ้ง ยิ่งเป็นไมค์กับมุกดาด้วย กดดันไหม?

ไมค์ – “ไม่กดดันหรอก อย่าไปกดดัน ทำงานให้มีความสุข ทำงานให้ดีที่สุดแค่นั้นพอ ความเชื่อผมเวลาทำงานทุกเรื่องที่ผ่านมา ผมจะไม่ค่อยเครียด เพราะผมเชื่อว่าศิลปะในการแสดงเราต้องมีความสุข การมากองต้องมีความสุข ต้องเป็นตัวละครที่เรารัก เราอยากจะเล่นมัน”

เชื่อมั่นว่าความเป็นคู่จิ้นไมค์มุกดาจะกลับมา เพราะที่ผ่านมาเขาไปมีคู่จิ้นใหม่กับ ‘เข้ม หัสวีร์’?

ไมค์ – “ไม่ๆ ไม่จำเป็น คือมันเป็นความชอบ ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นตัวละคร แล้วก็เรื่องจินตนาการของคนดู ผมทำงานเต็มที่ น้องก็ทำงานเต็มที่ ถ้าคนดูจะรักเขาก็รักตัวละครของเราเวลาเราอยู่ด้วยกัน ส่วนข้างนอกเขาก็รักในความเป็นพี่น้อง ต่างคนต่างมีเคมีอิสระ เล่นกับใครจิ้นได้หมดอยู่แล้ว เราเชื่อในตัวละครมากกว่า เราทำให้ดีที่สุด”

มาเล่นเป็นคาสโนว่าแบบนี้ กลัวคนดูติดภาพไหม?

ไมค์ – “ก็กลัวอยู่ (หัวเราะ) ตั้งใจมากเลย เป็นบทที่มีสีสันอีกแบบได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ เช่น ได้คิดแบบตัวละครอีกแบบหนึ่งที่ไม่เคยคิดทะเล้นเป็นความคิดของคนเจ้าชู้อีกแบบ ถ้าคนไม่เจ้าชู้จะบอก ไม่ได้ มันผิด แต่คนเจ้าชู้จะบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เขาก็รู้ๆ กันอยู่อะไรอย่างนี้ มันเป็นความกรุ้มกริ่มที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน”

หลังจบเรื่องนี้มีละครเรื่องอื่นอีกไหม?

ไมค์ – “ตอนนี้ยังครับ ผู้ใหญ่กำลังพิจารณาบทที่เหมาะสม ไม่ใช่เลือกมากหรือเรื่องมาก มันเกี่ยวกับวิธีการทำงาน เราทำงาน เงินก็อยากได้ ชื่อเสียงก็อยากมี แต่สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือความสุขระหว่างการ เดินทาง ผมทำงานไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้ง แต่ทำสิ่งที่มีความสุข แล้วสิ่งที่มีความสุขคือตัวละครที่เราอยากจะเป็น เรารักตัวละครตัวนี้ นั่นคือหัวใจการทำงาน ผมเลยอาจมีผลงานน้อยหน่อย แต่มันคือความสุข”

สัญญากับช่อง 7 เหลือเยอะไหม มีแว้บในหัวบ้างหรือเปล่าที่อยากจะเป็นพระเอกฟรีแลนซ์?

ไมค์ – “เรื่องต่อสัญญากำลังคุยอยู่ ส่วนฟรีแลนซ์ อายุก็อยู่ในจุดที่พอจะคิดได้ในหลายๆ มุม แต่ผมยังไม่คิดอะไรเลยตอนนี้ นอกเหนือจากนักแสดงก็ยังมีสิ่งที่ผมอยากทำในวงการบันเทิง คืองานเบื้องหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปทำเบื้องหลังแล้วผมไม่ทำเบื้องหน้า งานที่ผมรักที่สุดคือเบื้องหน้าคือการเป็นผมนี่แหละ แต่งานที่ผมอยากทำคือเบื้องหลัง อย่างการเป็นผู้จัดละคร ตอนนี้ผมก็อายุ 30 แล้ว”

ถือว่าคิดเร็วเหมือนกันกับการเป็นผู้จัด?

ไมค์ – “ทำไมต้องปล่อยไปตามแรงโน้มถ่วงทุกอย่างในชีวิต ทำไมต้องตามหลักการ ผมคิดแต่ผมไม่ได้บอกว่าจะมีโอกาสทำหรือเปล่า ผมแค่อยากทำ 7-8 ปีที่ทำงานมาเห็นข้อดีและนำมาพัฒนาในทางของเรา เราดูละครเยอะ อยากเห็นอะไรในละครในฐานะผู้เสพ ถ้ามีโอกาส อยากทำให้คนดูได้เห็นหลายๆ มุมที่เขาควรจะเห็น อาจจะเป็นผู้จัดและพระเอกเองควบไปด้วย”

เริ่มมีคุยกับช่อง?

ไมค์ – “ก็มีคุยครับ เดี๋ยวต้องเข้าไปคุยเรื่องนี้ด้วย คุย 2 เรื่องเลย ผมกับผู้ใหญ่ช่อง 7 อยู่กันแบบครอบครัว เวลาลูกๆ มีปัญหาก็ปรึกษาผมเป็นลูกที่จะพูดในความต้องการต้องแชร์กัน ผู้ใหญ่น่ารักมาก มาคุยกันนัดกันไปคุย ก็คุยทั้งโปรเจ็กต์จะทำละครและเรื่องสัญญาด้วย ทำไปเถอะ อยากทำอะไรก็ทำกับชีวิต ทุกวันนี้มีปัจจัยเสี่ยงเยอะแยะที่ทำให้คนเราตายแล้ว เดี๋ยวไม่ทำ อยากทำอะไรก็ทำ ไปรอเวลาทำไม ผมคิดว่าทำไมผมต้องไปรอทำตอนที่ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไร ทำไมผมไม่ทำในวันที่ผมมีไฟ”

ทำแล้วเชิญปุ๊กลุก (ฝนทิพย์) มาเป็นนางเอกของเรา?

ไมค์ – “ไม่ค่อยอยากทำกับเขาหรอก เหนื่อย (หัวเราะ) เขาเป็นคนตั้งใจทำงานมากแล้วเขาละเอียดมาก บทเขามีขีดๆ อะไรนักหนา เราไปอ่านแล้วปวดหัวเลย คุณคิดเยอะขนาดนี้เลยหรอ บางทีความลึกเกินไปแต่มันก็เป็นข้อดีให้เขามีวันนี้แหละ”

มาถึงเรื่องความรักดูเริ่มชัดเจนขึ้น?

ไมค์ – “แน่นอนมันพัฒนาขึ้น วันนี้เรามีอายุมากขึ้น มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนขึ้นเราก็เดินไปหาเป้าหมายด้วยกัน ระหว่างทางที่จะไปถึงเป้าหมาย ถ้ายังมีปณิธานเดียวกันอยู่มันก็ถึงวันนั้นแน่นอน นั่นคือความคาดหวัง แต่อนาคตเราไม่รู้”

คู่เราเป็นคู่ที่หวานเรื่อยๆ เนอะ?

ไมค์ – “เป็นอะไรที่ไม่หวือหวา เพราะเราคุยกันว่าใช้เวลา ศึกษากันไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้ความสำคัญกับคำจำกัดความ เพราะเราไม่รู้อนาคต ถ้าวันนี้เราบอกเราเป็นแฟนกัน ไม่แน่เรารู้จักกันไปเรื่อยๆ อาจจะมีบางอย่างที่รับกันไม่ได้ แล้วเลิกกัน ผมเลยคิดว่าอย่าไปใช้สถานะมาจำกัดอะไร เอาไว้วันไหนมั่นใจแล้ว ถึงเวลาแล้วมันก็วันนั้นแหละ”

กี่ปีแล้วที่อยู่ในสถานะแบบนี้?

ไมค์ – “หลัง นายฮ้อยทมิฬ ปี 2017 ได้ น่าจะมี 4 ปีแล้ว”

ปุ๊กลุกรู้ใจเราค่อนข้าง 100% ไหม?

ไมค์ – “100% ไหม ไม่รู้สิ…ก็รู้นะ ถือว่ารู้ใจ แต่ไม่ได้ตามใจ ทุกเรื่อง เขาก็มีความเป็นตัวเอง คนเราต้องค่อยๆ ไปด้วยกัน แต่ดีนะ แชร์กันได้ทุกเรื่องเลย”

ดีจนกลัวการใช้คำว่าแฟนเหรอ กลัวมันไม่เซฟโซนเหรอ?

ไมค์ – “โตมาทุกวันนี้เคยมีความรักมารู้ว่าอะไรคืออะไรไม่อยากเป็นเหมือนที่ ผ่านมา ที่ต้องรีบแล้วมองไม่เห็นข้อเสียของกัน เราอยู่อย่างนี้ได้ใช้ เวลาศึกษา ใช้เวลาอยู่ ด้วยกัน จะเห็นตัวตนของกัน ไม่อยาก ผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา”

ทุกวันนี้ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่แฟน แล้วเป็นอะไร?

ไมค์ – “เป็นคนที่อยู่เคียงข้างกัน”

เวลาพูดถึงเขา สายตารู้สึกได้ถึงความรักเลยเนอะ?

ไมค์ – “มันดีที่ มีกัน โชคดีไลฟ์สไตล์ตรงกัน มีแนวคิดคล้ายๆ กัน มันใช่ไปหมด ณ ตอนนี้เป็นแบบนี้ แต่หลายอย่างก็ต้องปรับตัว เพราะมีนิสัยที่ติดตัวมา เรื่องความเป็นเรา”

ความเป็นเราอะไรที่เขาหงุดหงิดใจ?

ไมค์ – “ผมเป็นคนละเมียดในการทำทุกสิ่งบางอย่างต้องคิดเร็วกว่านี้ แต่ผมมีวิธีคิด ที่ละเอียด เขาก็บอกว่าไม่ได้ ช้าไป อย่างนี้จะทันชาวบ้านเหรอ ผมก็ฟังเขา ขณะเดียวกันเขาก็ทำอะไรเร็ว เร็วจนบางครั้งเร็วไป”

เหมือนเป็นกระจกมองซึ่งกันและกัน?

ไมค์ – “มีทั้งความเข้ากันและไม่เข้ากัน มีทั้งความเหมือนและไม่เหมือน แต่ความ ไม่เหมือนมันทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น อันนี้เร็วไป อันนี้ช้าไป เราต้องหาตรงกลาง”

ถามข้ามสเต็ปหน่อย อยากมีลูกไหม?

ไมค์ – “ผมไม่อยากมีลูกนะ ถ้าผมมีแฟนแล้วอยากพากันไปเที่ยวรอบโลก”

แล้วเคยถามปุ๊กลุกไหม?

ไมค์ “ไม่เคย แต่เขาคงไม่อยากมีหรอก เป็นคนชอบเที่ยวเหมือนกัน ถ้ามีลูกก็ไม่ได้ไปไหน”

นิยามความรัก?

ไมค์ – “ความรักของผมคือไม่หวังผลตอบแทน จริงๆ เราใช้ชีวิตด้วยความรักอยู่แล้วเรารักตัวเอง เรารักคนอื่น เราใช้ชีวิตด้วย การให้ ให้อภัย ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน มันต้องทำให้ได้จริงๆ”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน