อาลัย‘พระธรรมรัตนากร’อดีตอธิบดีสงฆ์วัดโพธิ์ – ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ที่ดำรงสถานะเพศบรรพชิต ใต้ร่มบวรพระพุทธศาสนา
วัตรปฏิบัติ พระธรรมรัตนากร (สีนวล ปัญญาวชิโร) ได้ประจักษ์ถึงผลงานและคุณสมบัติต่างๆ เป็นที่ยกย่องเชิดชูมากมาย ทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ตลอดจนเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตร เปี่ยมไปด้วยเมตตาคุณ
เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธาแก่สาธุชนอย่างอเนกอนันต์
ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
มีนามเดิมว่า สีนวล เรืองอำพันธ์ เกิดเมื่อ วันที่ 29 มิ.ย. 2482 ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 4 ต.ไผ่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง บิดา-มารดา ชื่อ นายฟุ้ง และ นางทุเรียน เรืองอำพันธ์
ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนวัดต้นทอง
อายุ 13 ปี บรรพชา เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2495 ที่วัดตันทอง ต.ไผ่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง มีพระครูขันตยาภรณ์ วัดไผ่วง เป็นพระอุปัชฌาย์
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้ นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก สำนักเรียนวัดโบสถ์ วรดิตถ์ ต.ป่าโมก จ.อ่างทอง พ.ศ.2501 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค
เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2502 ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์ ต.ป่าโมก จ.อ่างทอง มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ) เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมวโรดม วัดพระเชตุพนฯ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูปาโมกข์คณารักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิเศษ ชยสิทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมประโยคบาลีตั้งแต่ พ.ศ.2508 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค พ.ศ.2511 สอบเทียบได้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 พ.ศ.2512 สอบเทียบได้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พ.ศ.2515 สอบได้ชั้นประกาศนียบัตรการศึกษา (พ.กศ.)
อย่างไรก็ตาม ด้วยเห็นว่าวัดในต่างจังหวัดยังไม่พร้อมในด้านการศึกษาหลายด้าน จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวง ไปเรียนหนังสือที่สำนักเรียนวัดพระเชตุพนฯ เขตพระนคร
พ.ศ.2521 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ
พ.ศ.2548 มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพระพุทธศาสนามหาบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) สาขาธรรมนเทศ มีความสามารถพิเศษ ภาษาอังกฤษ และวิชาเลขานุการ
ต่อมารับเป็นธุระด้านการศึกษาของสำนักเรียนวัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักเรียน
สร้างความเจริญและเข้มแข็งในการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลีแก่พระภิกษุและสามเณรจนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2506 เป็นอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษา วัดโบสถ์วรดิตถ์ จ.อ่างทอง พ.ศ.2507 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ จ.อ่างทอง และเป็นพระกรรมวาจาจารย์
ครั้นเมื่อย้ายเข้ามาอยู่จำพรรษาที่วัดพระเชตุพนฯ พ.ศ.2521-2528 เป็นเลขานุการ เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2525 เป็นกรรมการอบรมศิษย์วัด และผู้ที่อาศัยภายในวัดพระเชตุพนฯ พ.ศ.2526 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ฝ่ายการศึกษาและฝ่ายเผยแผ่
พ.ศ.2539 เป็นพระอุปัชฌาย์ ประเภทวิสามัญ พ.ศ.2540 พ.ศ.2549 เป็นรอง เจ้าคณะภาค 15 พ.ศ.2557 เป็นเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวชิราภรณ์ พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวชิราภรณ์
พ.ศ.2557 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวีราภรณ์
วันที่ 28 ก.ค. 2562 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนากร
ช่วงบั้นปลายชีวิต มีอาการอาพาธด้วยโรคชรา ตราบจนวาระสุดท้าย มรณภาพด้วยอาการสงบเวลา 03.19 น. วันที่ 7 มี.ค. 2564 สิริอายุ 81 ปี 61 พรรษา
คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ มีกำหนดบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 100 วัน ที่ศาลาเลื่อนศักดิ์ เจียมอุดม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ