19ปีโลกมายา‘เชียร์’ทุกโอกาสมีคุณค่าเสมอ – ทําเอาคนหมั่นไส้ทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับนักแสดงสาว ‘เชียร์’ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ หลังวาดลวดลายร้ายครั้งแรกในชีวิตกับบท ‘วีนัส’ ไลฟ์โค้ชสาว ท้าฝีมือ ในละคร “เล่ห์ลวง” ทางช่องวัน 31

งานนี้เรียกว่างานแสดงก็ปัง งานธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “ชาเม่” ที่นั่งแท่นกรรมการบริหารบริษัท ชาร์มมิ่งเวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก็รุ่ง

ส่วนเรื่องหัวใจที่คบกับ ‘ไฮโซบิ๊ก’ ธนพนธ์ เบญจรงคกุล ก็สุดแสนแฮปปี้

วันนี้โอกาสดี สาวเชียร์ได้มาเปลือยหัวใจหมดเปลือก

บทบาทในเรื่อง “เล่ห์ลวง” เป็นอย่างไรบ้าง?

เชียร์ – “ในเรื่องรับบท วีนัส เป็นไลฟ์โค้ชมือทอง คาแร็กเตอร์เป็นที่สุดของความยาก ค่อนข้างซับซ้อน คิดแผนอยู่ตลอดเวลา ใช้เล่ห์ลวงคนอื่น ยากมาก แต่ก็เต็มที่ เป็นอีกหนึ่งขั้น ถ้าเราทำได้ก็เป็นความภูมิใจ พอเจอโจทย์หินรู้สึกเลยว่าอันนี้ท้าทาย ตัวละครนี้พื้นฐานความคิดไม่มีอะไรที่เป็นคนดีเลย โรคจิตมาก เรื่องที่ผ่านมาเล่นแต่บทนางเอกเป็นคนดี อยากเล่นเลย”

ทำการบ้านอย่างไร?

เชียร์ – “ทำการบ้านหนักมาก ใช่ เรามีความเป็นพิธีกร แต่การพูดในแบบไลฟ์โค้ช ต่างกันสิ้นเชิง จะพูดยังไง ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปในใจคนนะ ต้องเข้าไปให้เกิดศรัทธา ซึ่งเชียร์พยายามมองว่าวีนัสผ่านอะไรมาบ้าง คนคนนี้มีความทะเยอทะยานสูงมาก อยากมีอำนาจ อยากมีเงิน มีแค่นี้พอมั้ย ไม่พอ อยากจะไปต่อเชียร์เลยเอาจุดตรงนี้ของวีนัสเอามาพูดเพื่อให้คนอื่นอยากไปต่อเหมือนกัน ก่อนเล่นเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะเล่นละครอีกเรื่อง เพราะเชียร์มีลิมิตแต่พอเห็นเรื่องนี้ เห็นตัวละครตัวนี้ก็ต้องยอมให้ตัวเองเหนื่อยกว่าเดิม เพราะอยากเล่น มันยากนะกว่าจะได้เจอบทนี้ ไม่ได้มีมาบ่อยๆ เชื่อมั้ยบางซีนเล่นจบเชียร์กลัวตัวเองมากเลยก็เป็นที่สุดอีกบทบาทหนึ่งในชีวิตการแสดงค่ะ”

ร่วมงานกับ ‘ปุ๊กลุก ฝนทิพย์’ ด้วย?

เชียร์ – “โอ้โห เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ ปุ๊กลุกในละคร เขาแรงเยอะมาก จนต้องบอก ปุ๊กๆ นี่พี่เว้ยเฮ้ย แล้วเขาเป็นคนเล่นสุดตัว แต่สนุกนะแบบนี้ เพราะเราก็เป็นคนที่เล่นแล้วสุดตัวเหมือนกัน”

เรื่องนี้มีเลิฟซีนเยอะเหมือนกัน?

เชียร – “ใช่ (หัวเราะ) เล่นกับน้องไบรท์(นรภัทร วิไลพันธุ์) ถือเป็นเจนฯ ใหม่ ที่น่าสนใจ มีความเข้าใจ จริงๆ บทไบรท์ยากมากนะ เป็นอีกคนที่น่าจับตามอง ยอมรับว่าเกร็งเพราะไม่ค่อยได้เล่นบทแบบนี้ จะมีความเขิน ก็เล่นจริง ยอมสู้ เพราะรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้กั๊กไม่ได้ ถ้ากั๊กมันจะไม่สุด น่าจะเป็นครั้งเดียวที่เชียร์จะเล่นอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) เป็นคาแร็กเตอร์นึงที่เราเลือกเพื่อความหลากหลาย และเพื่อพัฒนาตัวเราในเรื่องการแสดง”

แฟนเราว่ายังไงบ้างกับบทเลิฟซีนที่เล่น?

เชียร์ – “ไม่ว่าเลย เขาค่อนข้างให้พื้นที่การทำงานเราเต็มที่มาก เราก็ชวนเขามากองเพื่อจะได้ให้เขาเห็นว่ามันคือวิธีการทำงานแบบนี้นะ บทบาทเป็นแบบนี้ แต่พอคัตจบ มันคือจบไง เพื่อให้เขาได้สบายใจด้วย”

ตั้งแต่ออกมาเป็นนักแสดงอิสระเป็น ไงบ้าง?

เชียร์ – “สมที่ตั้งใจ อยากออกมาหาเส้นทางของเราเอง ทั้งเรื่องการแสดง การทำงานพิธีกร ธุรกิจ อยู่ในอีกขั้นที่อยากเริ่มด้วยตัวเอง รู้สึกเกรงใจถ้ามีสังกัด ถ้าเราอยากทำอะไรเอง เราไม่รู้ว่าจะไปกระทบสังกัดมั้ย เลยรู้สึกว่าเราออกมากำหนดเส้นทางตัวเองดีกว่า ออกมาไม่เคยคิดว่าต้องปัง แค่รู้สึกว่าอยากทำอะไรมากกว่า แต่ก็เกินคาดจริงๆ ไม่เคยคิดว่าเล่นแบบนี้ได้ แต่เราเล่นได้ ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน”

นอกจากมีคู่จิ้นผู้ชาย ยังมีคู่จิ้นกับผู้หญิงด้วย อย่าง ‘พี่แอน สิเรียม’?

เชียร์ – “ใช่ แฟนๆ ที่น่ารัก (หัวเราะ) จิ้นไปด้วยดูแลกันไปด้วย รักและหวังดีเสมอ เป็นอีกคนที่รู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุย มีพี่ มีแม่ที่เราได้คุยและปรึกษา บางเรื่องที่เราไม่คิดจะคุยให้คนทั่วไปฟังเราก็คุยกับแม่”

อย่างพาร์ตนักธุรกิจก็ชัดเจนขึ้น?

เชียร์ – “ด้วยค่ะ จริงๆ เชียร์อยากค่อยๆ ลดฝั่งของวงการบันเทิงลง แล้วไปเติมเปอร์เซ็นต์เต็มตัวขึ้นกับธุรกิจชาเม่ แต่ปีนี้กับปีที่ผ่านมาหลังสถานการณ์โควิด มีการเลื่อนการทำงานต่างๆ ละครก็ถ่ายพร้อมกัน รายการอีก ภาพในวงการกับเวลาทำงาน ทำให้เวลาที่ไปให้ชาเม่น้อยลง แต่ก็ไม่ได้กระทบอะไร ทางชาเม่เติบโตมีทีมที่แข็งแกร่งขึ้น คุณการ์ตูน(อินทิรา เกตุวรสุนทร) เขาสร้างและมองทุกอย่างไว้ไกลมาก เราพยายามเป็นส่วนที่เสริม ชาเม่แข็งแกร่งในตัวแบรนด์เอง การ์ตูนเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ไม่ต้องมองความเป็นพาร์ตเนอร์ เป็นเพื่อนกัน เคยนั่งมองในแบบที่เป็นคนธรรมดาแล้วมองผู้หญิงคนนี้ เขาเก่งจริงๆ แล้วเราไม่เคยเจอผู้หญิงที่เก่งๆ ลักษณะแบบนี้ ตูนสวยหวาน อย่างเชียร์ยังมีความดุดัน มีพลัง แต่วิธีการมองของตูนเขามีพลังมาก สมาร์ต ฉลาดทุกสิ่งที่นุ่มนวลแต่ชัดเจนมีจริยธรรม ชื่นชมเพื่อนคนนี้มากๆ โควิดรอบสองมา ทุกธุรกิจมีผลกระทบหมด แต่ชาเม่กับสิ่งที่เราเจอ เชียร์ถึงชมตูนว่ามีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก การแก้ปัญหารองรับสถานการณ์ ที่เกิดการขยับขยาย ชาเม่มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ความมั่นคง การเติบโต เราเดินมาได้ถึงปีที่ 11 แล้ว มาจากผู้หญิงคนนี้เลย”

วางแผนงานในวงการไว้อย่างไร?

เชียร์ – “เริ่มว่าจะเฟดตั้งแต่ปีนี้ แต่ทุกอย่างเป็นจังหวะและโอกาสช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุ่มเทกับการแสดงเยอะมากจนร่างกายมีผลกระทบ ไม่เคยมีอาการชอร์ตจนตาเบลออ่านหนังสือไม่ได้ แต่ครั้งนี้เชียร์เป็น ตกใจมากนะ เราใช้ร่างกายหนักไปรึเปล่า รับบทที่ยากก็จริง อยากทำก็จริง แต่ร่างกายมันเครียดเกินขีดจำกัด แล้วก็มาคิดว่าหรือเราต้องหันกลับมาดูแล อยู่กับความเป็นจริง อาจต้องเพลาลงบ้าง พอเกิดแบบนี้ต้องคิดแล้ว เราอายุ 34 แล้ว ต้องค่อยเป็นค่อยไป คอยเบรกตัวเองจัดสรรเวลามากขึ้น บาลานซ์ชีวิตใหม่ เราทุ่มเทงานมากไปนิดนึง ใจไม่อยากเลิก เรารักอาชีพความเป็นนักแสดงมาก แต่ถ้าร่างกายเราพร้อมหรือมีโอกาสจะกลับมา ได้เล่นบทที่น่าสนใจเมื่อไหร่ก็อาจจะเป็นไปได้ ที่อาจจะไม่เห็นเชียร์หายไปไหน แล้วยิ่งมาเป็นผู้จัดละคร ตอนนี้ทำเรื่อง กระสือลำซิ่ง ให้ช่อง 8 เหมือนเป็นการเริ่ม ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลใหม่ของชีวิต ไม่เคยทำ เป็นโครงสร้างใหญ่และยาก แต่พยายาม ผ่านไปให้ได้”

ทำไมถึงลงเป็นผู้จัด หลายคนมองว่ายังเด็กมากเลย?

เชียร์ – “ยิ่งได้ทำอะไรที่ยากและเป็นโอกาสที่ดี เชียร์จะแพ้อะไรที่ยังไม่เคยได้ทำ แล้วเป็นโอกาสที่มีคุณค่า ไม่อยากปล่อย ก็เลยสู้ไปกับมัน แต่พอได้เริ่มทำแล้ว มันคนละเรื่องกับการเป็นนักแสดงเลย มันมีวิธีในการบริหารจัดการในแบบที่เราได้วิชามาจากชาเม่มาปรับใช้ การเป็นนักแสดงเราต้องสวมบทบาท แต่การเป็นผู้จัดเรามีอะไรบางอย่างที่เราสามารถใส่ลงไปได้ในความเป็นตัวตนของเรา ผ่านตัวละครต่างๆมันเป็นอีกขั้นที่เชียร์ว่าเราทำงานได้โตขึ้น ความโหด ความหิน กับ ผู้จัดเรื่องแรกไม่ง่าย เราต้องแสดงด้วย เชียร์ว่าการแบ่งเวลา หรือความรับผิดชอบที่มากขึ้น หล่อหลอมให้เราโตขึ้น”

ไม่คิดว่าตัวเองตัดสินใจผิด หลายคนคิดว่าฉันเป็นนักแสดง ดีกว่า?

เชียร์ – “ทุกโอกาสมีคุณค่าเสมอ ก็เคยคิดว่าเหนื่อยไปมั้ย งานแสดงก็แบก 3 เรื่อง ทั้งเล่ห์ลวง กระสือลำซิ่ง บุพเพร้อยร้าย แต่เมื่อโอกาสที่มีคุณค่ามาถึงแล้ว คำว่าโอกาสไม่ได้มีกับทุกคน เมื่อเราได้รับ ทำไมไม่รักษาไว้ อยากจะรักษาและตั้งใจกับมันดูสักครั้ง”

มาถึงพาร์ตชีวิตคู่บ้าง ดูชัดเจนมากขึ้น เมื่อก่อนไม่เคยเปิด?

เชียร์ – “ค่ะ เชียร์เป็นคนไม่ชอบพูดถึง เพราะไม่มีอะไรแน่นอน ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอด วันนี้รักกัน พรุ่งนี้อาจเลิกกันก็ได้ เชียร์แค่รู้สึกว่าเรามุ่งที่จะมาอยู่จุดของวงการนี้ด้วยคำว่านักแสดง พิธีกรไม่ได้มาอยู่ด้วยคำว่าเป็นดาราที่มีข่าวนั้นนี้ เรารู้สึกเขิน เรื่องส่วนตัวบางอย่างเป็นประเด็นที่ติดตัว และคนพูดถึงไปอย่างนั้น เรามาอยู่ที่นี่ด้วยการทำงานมากกว่า เลยไม่อยากพูดถึงเรื่องความรัก ตัวคุณบิ๊กเอง ณ เวลานี้เราชัดเจนในชีวิตจริงว่าเรามีใคร ด้วยอายุ บทบาทชีวิตก็ต้องเปลี่ยนไป พอมั่นใจ รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วเราถึงพูด”

อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าผู้ชายคนนี้พูดถึงได้แล้ว?

เชียร์ – “ดูจากสิ่งที่มีมา ความสม่ำเสมอ เชียร์ชอบที่บิ๊กมีความสม่ำเสมอมาก เป็นคนเรียบง่าย เราไม่มีอะไรซับซ้อน มันจะอยู่เรื่อยๆ ไปอย่างนี้ เป็นอะไรที่จับต้องได้ พูดถึงได้ อะไรที่เรียบง่ายที่สุดคือดีที่สุด อะไรที่ไม่ซับซ้อนคือดีที่สุด เช่นกัน”

มีคุยแผนชีวิตไหม?

เชียร์ – “เราคบเป็นแฟน 2 ปี รู้จักกันก่อนหน้านั้น 3 ปี ก็เกือบ 5 ปีแล้ว เชียร์อายุ 34 ตอนนี้ภาพที่มองออกเป็นเรื่องงานด้วยซ้ำ 35-36 งานน่าจะเป็นแบบนี้ พอเรามีเรื่องความรัก เรื่องชีวิตคู่เข้ามาก็ต้องมองความเป็นจริงด้วยว่าถ้ายังดีแบบนี้อยู่ มองกันว่าถ้าเราแต่งงานประมาณนี้ เริ่มต้นมีชีวิตคู่จริงจังประมาณไหนดี คุยกันแต่ไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น เชียร์มีข้อเสีย คือเป็นคนค่อนข้างให้เวลากับเรื่องงาน เวลาคิดภาพอะไรจะคิดเรื่องงานก่อนเสมอ เชียร์ถึงไม่เคยเห็นภาพตัวเองว่าเราจะแต่งงานหรือมีลูกอายุเท่าไหร่ ยังไม่เคยมองภาพตัวเองใส่ชุดเจ้าสาวเลยด้วยซ้ำค่ะ”

มองวงการบันเทิงยังไง?

เชียร์ – “วงการนี้สอนอะไรมากๆ ไม่มีอะไรจีรัง เราเลือกที่จะให้คุณค่า เก็บอะไรกลับมาในชีวิตเราให้มากที่สุด ทำไมเชียร์ถึงชอบทำ เห็นคุณค่าของความเป็นครูที่วงการให้เรามา วงการนี้ให้อะไร หลายอย่าง ให้ชีวิตเรา ให้ชีวิตครอบครัวเรา เราหาเลี้ยงจากวงการนี้ สิ่งที่มีคุณค่าอยู่ที่ เราจะเอาไปต่อยอดอะไรต่อ ที่สำคัญคือให้เกียรติ เชียร์ว่าการให้เกียรติทุกคนที่ให้การสนับสนุนเรา แฟนคลับ ที่ให้กำลังใจเรามา ไม่มีอาชีพไหนที่คนจะพร้อมให้ กำลังใจ เอาป้ายไฟ มาตั้ง ทุกอาชีพมี ขั้นของการประสบความสำเร็จ แต่ขั้นของความสุขวงการบันเทิงเป็นอะไรที่พิเศษและแตกต่าง”

อยากบอกอะไรกับน้องๆ ที่เข้ามาใหม่?

เชียร์ – “เชียร์ไม่เคยคิดว่าจะอยู่จนวันนี้ (หัวเราะ) จาก Miss Teen Thailand 2002 นี่เข้าปีที่ 19 แล้ว สำหรับน้องๆ เชียร์ว่าให้เกียรติ ให้คุณค่ากับสิ่งที่คนอื่นทำให้ รักษาไว้ให้ดีที่สุด ทุกอย่างที่ทำออกมา ทุกคนจะเห็นเองว่ามันมีพลังที่ดีออกมา คนที่มาชื่นชอบไม่แปลกที่ เขาจะสนับสนุนกันต่อ เชียร์ว่าทุกอย่างถ้าเราใส่คุณค่า ให้เกียรติ กันและกัน มองทุกอย่างเป็นทีม เขาสนับสนุนเรา เราสนับสนุนเขา ขอบคุณกับสิ่งที่เราได้รับ ขอบคุณคนอื่นด้วยความเต็มที่ของงานที่เราจะใส่กลับไปให้ เชียร์ว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยค่ะ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน