พท.จี้ตัดงบกลาโหม-เลิกจัดซื้ออาวุธ
ซัด‘บิ๊กตู่’ทำประเทศถดถอย

วันที่ 23 เม.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่ครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งจัดงบแบบขาดดุล 7 แสนล้านบาท มีหลายประเด็นที่น่ากังวล แสดงว่าไทยกำลังถดถอยอย่างหนัก โดยงบปี 2565 ลดลงจากงบปี 2564 ถึง 185,962.5 ล้านบาท ปกติงบประมาณรายจ่ายของประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ควรเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อรัฐบาลจะได้นำเงินไปพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะหลังวิกฤตโควิด ยิ่งต้องการเงินทุนฟื้นฟูประเทศเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้งบลงทุนมีเพียง 624,399.9 ล้านบาท ต่ำกว่าการกู้เงินชดเชยการขาดดุล 700,000 ล้านบาท แสดงว่ารัฐบาลไม่ได้กู้เงินมาเพื่อลงทุนทั้งหมด แต่กู้มาเพื่อใช้จ่ายด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของความถดถอย

นายพิชัยกล่าวว่า หากรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจได้ดี เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับหลายประเทศที่จะฟื้นตัวได้สูง และจะจัดเก็บรายได้ได้สูงขึ้น ซึ่งจะไม่ต้องมาลดงบประมาณ หรือกู้เงินเกินการลงทุนเพื่อมาใช้จ่ายเหมือนที่ไทยกำลังทำ ในรายละเอียดงบประมาณ ยังมีหลายประเด็นที่ควรแก้ไข เช่น สำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดูแลรับผิดชอบเรื่องบัตรทอง ถูกปรับลดงบ 1,815 ล้านบาท ทั้งที่จะมีประชาชนเข้ามาใช้บัตรทองเพิ่มขึ้น 137,000 คน และสถานการณ์การระบาดของโควิด อาจต้องใช้งบเพิ่มขึ้น

“งบกระทรวงกลาโหมแม้จะลดลง 11,000 ล้านบาท แต่ก็ยังลดน้อยไป เพราะภาวะเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในด้านนี้ จึงควรตัดงบกลาโหมลงอีกมาก และยกเลิกการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมด เพื่อนำเงินไปใช้ด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะจัดหาวัคซีนเพื่อมากระจายฉีดให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ซึ่งจะทำให้ไทยได้เปิดประเทศรับการท่องเที่ยวและเปิดรับการค้าการลงทุน ทำให้ประเทศมี รายได้เพิ่มขึ้น และรัฐบาลจะได้ไม่ต้องปรับลดงบอีก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน