เปิดผลกระทบ‘เซมิ ล็อกดาวน์’ – การประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ใน 6 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ที่ออกมาและมีผลเมื่อวันที่ 1 พ.ค. รวม 3 มาตรการหลัก และ 5 มาตรการย่อย

อาทิ การห้ามนั่งกินอาหารในร้าน การปิดสถานบริการบางส่วน และการจำกัดเวลาเปิด-ปิด จุดขายสินค้า อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาด โต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น.

ร้านซึ่งตามปกติเปิดตลอด 24 ช.ม. ให้เริ่มเปิดได้เวลา 04.00 น.

ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่คล้ายกัน ให้เปิดได้ตามปกติ จนถึง 21.00 น.

กระทบหนักสุดไม่พ้นภาคเอกชน ที่ยักแย่ยักยันมานานตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่เกิดระบาดรอบแรก พอจะดีขึ้นก็เจอการระบาดรอบ 2-3 ซ้ำเข้าไปอีก

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า การยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคการระบาดของโควิด-19 รัฐบาลคงรู้ว่าการระบาดรอบนี้หนักมาก จนต้องหยุดการเคลื่อนไหว ไม่ให้มีการระบาดของเชื้อเพิ่ม

หากจำเป็นต้องเข้มงวดเพื่อให้เชื้อหยุดไม่กระจายออกไปอีก หากหยุดแล้วสามารถควบคุมได้สมาคมโรงแรมก็ยินดี เพราะนั่นหมายถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

“ส่วนโรงแรมการระบาดรอบนี้ถือว่าสาหัส ซ้ำเติมมากไม่ใช่ว่ากลัวล้มตายแต่กลัวว่าจะไม่ฟื้น หากรัฐบาลปล่อยให้การระบาด ยังมีและไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ระยะเวลา 1 ปีเศษโรงแรมแย่ที่สุดแล้ว หลายโรงแรมเพิ่งจะมีรายได้กระเตื้องขึ้นมาเมื่อ มี.ค.2564 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 30% มาถึงวันนี้เรียกว่าที่สุดของที่สุดอัตราการเข้าพักเหลือ ไม่ถึง 5%”

นางมาริสากล่าวอีกว่า วันนี้ไม่ใช่เฉพาะโรงแรม คนไทยเริ่มไม่ไหวแล้ว ล่าสุดสมาคมโรงแรมสำรวจชีพจรของสมาชิก พบจำนวนมากปิดๆ เปิดๆ เพราะหลายโรงแรมไม่มีลูกค้าเลย บางโรงแรมให้ปิดกิจการไปก่อน รอเปิดใหม่ประมาณ ต.ค.

สมาคมโรงแรมไทยย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ รัฐบาลควรเร่งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนคนไทยให้เร็วที่สุด เพราะวัคซีนคือความหวังเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้

เพื่อให้ภาคธุรกิจ ท่องเที่ยวและโรงแรมยังมีลมหายใจ และไม่เกิดการเลิกจ้างงานกันอีกระลอกใหญ่เหมือนที่ผ่านมา

ขณะที่ นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า การงดนั่งรับประทานอาหารในร้านและให้ซื้อกลับบ้านถึงเวลา 21.00 น. เป็นเวลา 14 วัน สร้างผลกระทบให้ร้านอาหารใน 6 จังหวัด ขาดรายได้รวมวันละ 1,000 ล้านบาท รวม 14 วัน เป็น 14,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หารือกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สมาคมภัตตาคารไทย ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงผลกระทบที่ได้รับ รวมทั้งมาตรการที่จะทำให้รัฐบาลมั่นใจได้ว่าคนที่เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารจะไม่ได้รับการติดเชื้อ เพราะในที่ประชุม ศบค.มีสถิติที่กระทรวงสาธารณสุขสำรวจจากผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก

พบว่ามาจากการนัดพบเข้าไปรับประทานอาหารในร้านและพูดคุยกัน ซึ่งทางสมาคมจะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ในสัปดาห์หน้าว่าร้านอาหารที่ได้รับตรามาตรฐาน SHA มีมาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างดี และเมื่อครบ 14 วันแล้วจะจัดโต๊ะนั่งแบบเว้นระยะห่าง และให้มีฉากกั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

รวมทั้งให้ร้านอาหารยกระดับตัวเองเพื่อให้ได้รับตรามาตรฐาน SHA เพื่อความสบายใจและปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ นอกจากนั้นต้องขอให้รัฐบาลเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งเรื่อง ขอเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน และลดเงินนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมด้วย

ด้าน น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ห้างและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมขานรับนโยบายรัฐ งดรับประทานอาหารในร้าน จึงช่วยเหลือร้านอาหารพันธมิตรกว่า 300 ร้านภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา

ด้วยการรวบรวมบริการฟู้ด เดลิเวอรี่ และซื้อกลับของทุกร้าน ผ่าน 2 บริการสั่งอาหารทางโทรศัพท์ บริการโทร.สั่งอาหารล่วงหน้า ภายในกูร์เมต์ อีทส์ และฟู้ดฮอลล์ ผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ทุกสาขา

บริการสั่งอาหารพร้อมทาน จาก กูร์เมต์ อีทส์, ฟู้ดฮอลล์ และกูร์เมต์ มาร์เก็ต ผ่านแอพพลิเคชั่น ได้แก่ ไลน์แมน, โกเจ็ก, โรบินฮู้ด, แฮปปี้เฟรช และแพนด้ามาร์ท ซึ่งมีเมนูอาหารจากร้านดังกว่า 100 ร้าน 400 เมนู พร้อมประชาสัมพันธ์ไปในทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออนไลฟ์ เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขายและยอดขายให้กับร้านค้าในภาวะวิกฤตเช่นนี้

ด้านห้างค้าปลีกโลตัส ระบุว่า มาตรการดังกล่าวอาจ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และรายได้ของพนักงานในร้านอาหาร ดังนั้น โลตัสจึงริเริ่มโครงการจ้างงานพนักงานร้านอาหารในพื้นที่ศูนย์การค้าโลตัส ในทั้ง 6 จังหวัดสีแดงเข้ม เพื่อปฏิบัติงานในไฮเปอร์มาร์เก็ตเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือพนักงานร้านอาหารที่ได้รับผล กระทบให้สามารถมีรายได้ยังชีพ

โครงการจ้างงานนี้ครอบคลุมพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และสมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2564 เป็นต้นไป

นอกจากช่วยเหลือพนักงานร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบแล้ว เตรียมความพร้อมรับมือความต้องการซื้อสินค้าที่คาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนต้องปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้าน โดยเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อสินค้าที่จำเป็น โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารแห้ง

รวมถึงจัดให้มีสินค้าอาหารสดเพิ่มที่ร้านขนาดเล็ก โลตัส เอ็กซ์เพรส และโก เฟรช อาทิ เนื้อสัตว์และอาหารทะเลแบบตักชั่งกิโล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถ ซื้อสินค้าอาหารสดสำหรับประกอบอาหารได้โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขาใหญ่

ส่วน นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาเหมือน Semi Lockdown (กึ่งล็อกดาวน์) เพื่อชะลอการเดินทางเคลื่อนที่ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ

การ Semi Lockdown จะชะลอจำนวนผู้ติดเชื้อหรือหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้หรือไม่ คงตอบยาก ทุกฝ่ายคงต้องติดตามผล อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อประเมินความสมดุลทางเศรษฐกิจกับการควบคุมโรคว่าได้ผลหรือไม่ ถ้าเอาไม่อยู่ รัฐบาลอาจเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศเต็มรูปแบบก็ได้

การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแน่นอน แต่ก็ขึ้น อยู่กับมาตรการควบคุมของภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องการจัดหาวัคซีนที่รวดเร็วและเพียงพอเพื่อกระจายฉีดให้กับประชาชนในประเทศอย่างทั่วถึงอย่างน้อย 70-80% ของประชากรทั้งประเทศ เชื่อว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมโรคจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้เร็วแค่ไหน เบื้องต้นประเมินว่าจะกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงเดือนละ 0.5%

หากต้องใช้เวลาในการควบคุมการแพร่ระบาดนานกว่า 1 เดือน รัฐบาลอาจจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติมสำหรับดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ข้างหน้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้

รัฐบาลอาจต้องเตรียมแพ็กเกจกู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 5 แสนล้านบาท เพิ่มเติมจากที่เหลือ 2.4-2.5 แสนล้านบาท จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท หากสามารถควบคุมการระบาดได้ภายใน 1 เดือน

แต่ถ้าใช้เวลานานกว่า 1 เดือน รัฐบาลอาจต้องกู้เพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน