คอลัมน์ เสาร์สด

คิม ท้าฝีมือร่ายบทแฝด คืนจอคู่ เจมส์ ใน สองเสน่หา – นํากลับมาปัดฝุ่นทำละครอีกครั้ง สำหรับ “สองเสน่หา” จากปลายปากกาของ กันยามาส โดยผู้จัด ‘เจ็ท’ ณัฐพงศ์ เหมือน ประสิทธิเวช แห่งค่ายเมคเกอร์ กรุ๊ป

คว้านางเอก ‘คิม’ คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริมา รับบทท้าฝีมือกับบทแฝด ‘เดือนหยาด’ และ ‘พิลาสลักษณ์’ ประกบคู่พระเอกตี๋ ‘เจมส์ มาร์’ ที่รับบท ‘วาริธ’

ร่วมด้วยนักแสดง อาทิ กอล์ฟ พิชญะ (ปรมินทร์), น้ำชา ชีรณัฐ (คริส), เกี๊ยก วัทธิกร(ปิยะบุตร), น้ำหนึ่ง สุทธิเดชานัย (บุษบา), กบ ทรงสิทธิ์ (ทรงชัย), หนุ่ม คงกะพัน (เชื้อชาติ), ก้อย ปรารถนา (ป้าจันทร์), ปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช (แว้ว), ‘ปาล์ม ศุภชัย (อ้น), ป๊อก โฆษวิส (อิทธิ) ฯลฯ ผลงานการกำกับฯ ของ ชนะ คราประยูร ทั้งนี้ ผู้จัด ‘เจ็ท ณัฐพงศ์’ เผยถึงการเลือกเรื่อง “สองเสน่หา” ละครรีเมกเมื่อ 16 ปีก่อนมาทำละครอีกครั้งว่า “เหตุผลหนึ่งด้วยมัน นานแล้ว และเชื่อว่าหลายคนที่เป็นเจนฯ ใหม่ไม่เคยดู แล้วเรื่องน่าสนใจก็อยากเอากลับมาทำ อยากเอามาเล่าในแบบของเรา”

เวอร์ชั่นเก่า ‘อั้ม พัชราภา’ เล่นไว้ดีมาก กลัวถูกเปรียบเทียบไหม “ไม่กลัวครับ ผมไม่ได้ก๊อบปี้มาเล่าใหม่ แต่เอานิยายมาแล้วตีความใหม่ เล่าใหม่ในโทนใหม่ ไม่มีอะไรใกล้เคียงกันเลย เวอร์ชั่นที่แล้วมีคอมเมดี้อยู่เยอะ แต่ของผมจะดราม่าจัด คนละรสชาติกัน”

เรื่องนี้ได้ ‘คิม คิมเบอร์ลี่’ มาเล่น ซึ่งคิมเล่นละคร รีเมกต่างช่องครั้งนี้ครั้งที่ 4 จาก บ่วงหงส์ คมแฝก ดั่งดวงหฤทัย และ สองเสน่หา มั่นใจฝีมือน้องมากน้อยแค่ไหน ผู้จัดเผยว่า “เขาเป็นคนเก่งอยู่แล้ว ในเรื่องการแสดง ผมไม่เคยห่วง การทำการบ้าน การใส่ใจรายละเอียด ฝีมือ ผมมั่นใจในตัวเขาว่าเขาจะทำงานออกมาให้เราได้แบบเต็มหรือเกินร้อย แล้วพอคิมมาเล่นก็ได้ดั่งใจมาก กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง คิมเก่งขึ้นเยอะมาก เหมือนไปท่องยุทธจักรไปฝึกฝีมือมา”

เชื่อว่าคนดูจะทั้งรักทั้งเกลียด ‘คิม’ กับบทบาทฝาแฝดนี้ “ใช่ครับ ตัวพี่ตัวน้องไม่เหมือนกันเลย แล้วตรงนี้คือเหนื่อยมาก การทำละครแฝด ไม่เหมือนซีจีที่เขียนขึ้นมาใหม่ การเขียนซีจีขึ้นมาสักตัวยังง่ายกว่าทำแฝดอีก เพราะไม่ซับซ้อน มันคือการปั้นขึ้นมาใหม่ แต่การทำแฝดคือการที่ต้อง ถ่ายคน 2 3 4 รอบ แล้วเราเป็นแฝดคนละขั้ว การจะทำให้ต่างกันคือพอถ่ายตัวหนึ่งเสร็จ ต้องเปลี่ยนไปเป็นอีกตัว ไม่ได้เปลี่ยนแค่หน้า ผม เสื้อผ้า แต่ต้องเปลี่ยนทั้งแอตติจูด เสียง อากัปกิริยาการเดินทุกอย่าง แล้วก็กลับไปเป็นตัวเดิม แล้วกลับไปเป็นตัวใหม่ ฉากหนึ่งกว่าจะได้มีถ่ายครึ่งวันถึงหนึ่งวัน คิมล้างหน้าจนบางทีหน้าช้ำ แล้วต้องจูนสติไปเป็นตัวนั้นกลับมาเป็นตัวนี้ เหนื่อยครับ เสียเวลามากในการทำงานละครแฝด แล้วมีช่วง โควิดเข้ามาอีก ซึ่งเราต้องเซฟให้นักแสดง คือจะมีสแตนด์อินที่ต้องเล่นเป็นอีกตัวหนึ่ง ปกติเราจะมีชุดที่สับเปลี่ยนกันได้ พอมีโควิด เข้ามา เราจะไม่ใช้เสื้อผ้าสลับกันไปสลับกันมา เท่ากับต้องดับเบิ้ล ค่าใช้จ่ายขึ้นมาอีกเพื่อความปลอดภัย”

เรื่องนี้ ‘คิม’ กลับมาโคจรพบคู่จิ้น ‘เจมส์ มาร์’ “ก็เป็นด้วยเรื่อง คาแร็กเตอร์ แล้วเราก็มองเห็นเจมส์ด้วย พอดีเพิ่งจบละคร สายธารหัวใจ ด้วยกันมา อีกอย่างอยากทำเรื่องนี้ให้เจมส์ดูโตขึ้น เพราะหลายคนยังติดความเป็นตี๋น้อยของเขาอยู่ แต่มาเรื่องนี้เขาจะเป็นหนุ่มขึ้น หล่อขึ้น สุขุมขึ้น ในเรื่องเจมส์รับบท วาริธ ผู้บริหารสื่อแม็กกาซีน ตอนหลังผันมาเป็นสื่อออนไลน์ ตอนแรกเขาเป็นทนาย หลังอกหักจากแฟนเก่าก็อยากดึงตัวเองออกมาจากจุดเดิม เลยมา ช่วยคุณอาบริหารบริษัท จนได้เป็นผู้จัดละครทำให้มีโอกาสเจอเดือนหยาดและพิลาสลักษณ์ เรื่องนี้เจมส์จะดูโตขึ้นมาก เพราะเคยแต่งงานมาแล้ว”

‘คิม-เจมส์’ โคจรเจอกัน เคมียังได้อยู่ไหม หรือดีขึ้นกว่าเดิม ผู้จัดเผยว่า “เคมียังได้อยู่และดีขึ้นกว่าเดิม เรื่องนี้มีอะไรให้เขาเล่นกันได้เยอะ เจมส์ต้องเล่นกับทั้งเดือนหยาดตัวร้าย และพิลาสลักษณ์ตัวดี มีหลายทางให้เล่น มันเลยสนุก”

เสน่ห์ของละครเรื่องนี้อยู่ตรงไหน “อยู่ที่ความดุเดือด ความดาร์ก เส้นทางทางเลือกของตัวละคร ทุกคนมีทางเลือกเสมอ เดือนหยาดกับพิลาสลักษณ์เกิดมาพร้อมกันเวลาเดียวกันราศีเดียวกัน แต่ทำไมชีวิตต่างกันขนาดนี้ เราจะไม่โทษดวงว่าดวงไม่ดีไม่มีทางเลือกถึงไปทำแบบนั้น จริงๆ เราเกิดมาพื้นฐานชีวิตเท่ากัน แต่คนหนึ่งเลือกไปทางหนึ่ง อีกคนเลือกจะไปอีกทาง ไม่สามารถพูดได้ว่าฉันไม่มีทางเลือกเลยต้องทำ อย่างนี้ ทุกคนมีทางเลือกเสมอ อยู่ที่จะเลือกทางไหน นี่คือธีมที่อยากพูดอยากเล่า”

ติดตามชมละคร “สองเสน่หา” ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ เวลา 20.20 น . ทางช่อง 3

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน