‘นิสสัน คิกส์’อี – เพาเวอร์ – ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบ้านเราได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่า ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังมีข้อกังวลในเรื่องสถานีชาร์จ ที่ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ต้องการ

ทำให้ ‘นิสสัน’ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ‘อี-เพาเวอร์’ เป็นรูปแบบหนึ่งของรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่ไม่ต้องพึ่งสถานีชาร์จ เพราะใช้เครื่องยนต์ที่ติดมากับรถทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บ ในแบตเตอรี่ ก่อนที่จะจ่ายไฟต่อให้ระบบ ขับเคลื่อน

เป็นที่มาของ ‘คิกส์’ รถยนต์ครอสโอเวอร์ บี-เซ็กเมนต์

ก่อนหน้านี้มีโอกาสหยิบยืมรถรุ่นนี้มาทดสอบเพื่อพิสูจน์ความ แตกต่างและสมรรถนะ เป็นตัวท็อป ‘VL’ สีทูโทน หลังคาดำ

รูปลักษณ์ขอบรรยายแบบคร่าวๆ กระจังหน้าแบบ V-motion ขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED ทรง บูมเมอแรง

ภายในตกแต่งแบบทูโทน ดำ-ส้ม พวงมาลัยทรงดีเชฟท้ายตัดเพิ่มพื้นที่หน้าขาพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน ด้านขวาเป็นระบบควบคุมความเร็วผันแปรตามรถคันหน้า

เรือนไมล์ด้านขวาเป็นมาตรความเร็วทรงกลม ด้านหน้าเป็นหน้าจอ TFT Digital Meter ขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบการขับขี่ และสถานะกำลังไฟในแบตเตอรี่

ระบบข้อมูลและความบันเทิง Nissan Connect เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อ Bluetooth USB AUX รองรับ Apple CarPlay

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร แถวเรียงแบบ DOHC 3 สูบ 12 วาล์วทำงานร่วมกับเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ EM57 AC3 Synchronous Motor แบตเตอรี่ 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) 4 โมดูล

ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction กำลังสูงสุด 129 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร

เข้าไปนั่งภายในอาจดูเล็กไปนิด แต่ไม่ถึงกับอึดอัด

ทัศนวิสัยที่ดีจากความโปร่งและใหญ่ของกระจก มองไปข้างหน้าได้กว้างไกลจากตัวรถที่สูงกว่าเก๋ง

ปุ่มกดสตาร์ตเครื่องยนต์ อยู่เหนือคันเกียร์อันจิ๋ว ข้างๆ ปุ่มปรับโหมดการขับขี่

เครื่องยนต์แทบไม่ได้ยินเสียง หรือแม้ตอนขับขี่เมื่อเครื่องยนต์ทำงานปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่เสียงก็ค่อนข้างเบามากๆ

อัตราเร่งตีนต้นพุ่งวาบอย่างรวดเร็วตามสไตล์รถไฟฟ้า

ความเร็วกลาง-ปลาย ก็ไหลแบบสุดๆ ความเร็วจาก 0-150 ก.ม./ ชั่วโมง ไหลลื่นมากๆ

การขับขี่มีให้เลือก 4 โหมด

เริ่มจาก S (Smart) mode, ECO mode, Normal mode และ EV mode

ความแตกต่างของแต่ละโหมดอธิบาย ง่ายๆ คือ S แรงสุด ส่วน ECO ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองลง โดย 2 โหมดนี้จะตัดเข้าเทคโนโลยีวัน-เพดัล (One-Pedal) อัตโนมัติ

ระบบนี้คล้ายๆ ออโต้ เบรก โฮล ที่เวลาถอนคันเร่งรถจะไหลไปข้างหน้าน้อยมากๆ คล้ายกับเราเหยียบเบรกเบาๆ ไปจนถึงจุดหยุดนิ่งได้เลย

ส่วน Normal รถจะไหลไปตามปกติหากต้องการชะลอหรือหยุดต้องแตะเบรก

และ EV จะใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ จนกว่าพลังงานในแบตเตอรี่จะเหลือต่ำเกินไป เครื่องยนต์จะทำงานชาร์จไฟอัตโนมัติ

การทดสอบหลักๆ ในทริปนี้ใช้ S โหมด เพราะนอกจากอัตราเร่งจะสะใจแล้วยังได้วัน-เพดัล มาช่วย

แต่ไม่ต้องกังวลว่ารถที่ตามหลังจะสวดชยันโตเพราะคิดว่าไฟเบรกเราไม่ขาด เวลารถชะลอ เพราะทันทีที่ถอนเท้าจากคันเร่ง ไฟเบรกจะติดเตือนรถคันหลังทันที

ช่วงล่างบนย่านความเร็ว 90-130 ก.ม./ชั่วโมง ทำได้ดีนิ่งได้ใจ แต่ถ้ามากกว่านั้นต้องจับพวงมาลัยให้กระชับขึ้นหน่อย

โดยระบบช่วงล่างด้านหน้า แบบแม็ก เฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกัน โคลง

ส่วนเสียงลมเริ่มเข้ามาเมื่อความเร็ว แตะ 120 ก.ม./ชั่วโมง และจะดังขึ้นตามความเร็ว

การเข้าโค้ง หรือกระชากเปลี่ยนเลนทำได้กระชับ แต่ถ้าความเร็วสูงอาจมีหวิวๆ บ้าง แต่ไม่ถึงกับน่ากลัว

การเร่งแซงเป็นอีกจุดเด่น เพราะกดแล้วพุ่งวาบตามใจนึก

ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ เพราะนิสสันรับประกันเบตเตอรี่ ลิเทียมไอออน สูงสุด 10 ปี หรือ 200,000 ก.ม. ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้ารับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 ก.ม.

สนนราคา ‘นิสสัน คิกส์’ รุ่น VL อยู่ที่ 1,049,000 บาท ขณะที่อีก 3 รุ่นย่อยที่เหลือราคา 889,000-999,000 บาท

สันติ จิรพรพนิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน