บอร์ดอีวีตั้งเป้า 10 ปี-รถไฟฟ้าวิ่งเกลื่อน
ทั้งเก๋งกระบะและจยย.‘1.4 ล้านคัน’-ที่ชาร์จ 1.2 หมื่นหัว

‘สุพัฒนพงษ์’ นั่งหัวโต๊ะถกบอร์ดอีวี ย้ำแนวทาง 3 ระยะส่งเสริมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าภายในปี 2573 ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกชนิดอย่างน้อย 30% ของทั้งระบบ เป็นรถเก๋ง-กระบะ 725,000 คัน จักรยานยนต์ 675,000 คัน ติดตั้งระบบชาร์จเร็ว 12,000 หัวจ่าย

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เปิดเผยในโอกาสร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ครั้งที่ 2/2564 ว่าที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศเพื่อก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก

มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนำแนวทางต่างๆ กลับไปศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ของมาตรการส่งเสริมต่างๆ ทั้งแนวทางที่เป็นมาตรการด้านภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เพื่อนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

เบื้องต้นกำหนดแนวทางส่งเสริม 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ระยะเร่งด่วน ปี 2564-65 นำร่องส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับทั่วประเทศ

ระยะที่ 2 ปี 2566-68 พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มีเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะ 225,000 คัน รถจักรยานยนต์ 360,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 18,000 คัน ภายในปี 2568 รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่เพื่อตอบสนองการผลิตในประเทศ

ระยะที่ 3 ปี 2569-73 ขับเคลื่อนแผนและมาตรการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อให้บรรลุตามนโยบาย 30/30 ซึ่งมีเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์นั่งและรถกระบะทั้งสิ้น 725,000 คัน ประเภทรถจักรยานยนต์จะมีการผลิตทั้งสิ้น 675,000 คัน คิดเป็น 30% ของการผลิตในปี 2573 และรวมถึงการผลิตแบตเตอรี่เพื่อตอบสนองการผลิตในประเทศ

“ขณะนี้หลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐและประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป กำหนดเป้าหมายและมาตรการที่ชัดเจนส่งเสริมรถอีวี ส่วนประเทศไทยตั้งเป้าหมายผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์อย่างน้อย 30% ของการผลิต ในปีพ.ศ.2573 (ค.ศ.2030) ที่ตั้งเป้ามีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและการใช้ในประเทศ ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถกระบะทั้งสิ้น 725,000 คัน รถจักรยานยนต์ 675,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุกมี 34,000 คัน”

นอกจากนี้ที่ประชุมยังกำหนดเป้าหมายติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะกระจายทั่วประเทศภายในปี 2573 สำหรับรถยนต์นั่งและรถกระบะในลักษณะการชาร์จแบบเร็ว 12,000 หัวจ่าย และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างและบริการรับส่งสินค้าเดลิเวอรี่ 1,450 แห่ง พร้อมกำหนดมาตรการส่งเสริมทางการเงินและภาษี กำหนดมาตรฐานเพื่อความปลอดภัย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน