พรีวิว‘ฮาวาล เอช6 ไฮบริด’ – ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา ค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ จากแดนมังกร นำรถยนต์แบรนด์ และรุ่น ที่จะนำมาทำตลาดในบ้านเรา แต่ก็ได้แค่เพียงเมียงๆ มองๆ สัมผัสแบบผิวๆ

ล่าสุด ‘กิ๋ง’ ศุภรางศ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการ สื่อสารองค์กร พร้อมด้วย ‘ตุ๊ก’ พุทธชาด แสนสะสม ผู้จัดการฝ่ายประสานงานสื่อมวลชน จัดรอบ พรีวิว ให้กับ ‘ฮาวาล เอช 6 ไฮบริด’ (HAVAL H6 Hybrid) รถรุ่นแรกที่เริ่มเข้าทำตลาดของค่ายนี้ในบ้านเรา ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

แบรนด์ฮาวาล ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีหลากหลายรุ่น รองรับทุกไลฟ์สไตล์ เป็นรถ SUV ที่ขายดีอันดับ 1 ในประเทศจีน เป็นระยะเวลา 11 ปี ติดต่อกัน

‘ฮาวาล เอช 6’ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ใช้เทคโนโลยี ไฮบริด ตอกย้ำกลยุทธ์ xEV Leader การเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

ดีไซน์ภายนอกกระจังหน้าขนาดใหญ่ต่อเนื่องถึงกันชนหน้า ให้ความรู้สึกหรูหรา และดุดัน ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน

หลังคาพาโนรามิก ซันรูปขนาดใหญ่ ให้ได้ใช้งานครบทั้งเบาะหน้า และเบาะหลัง ไฟท้าย LED ต่อเนื่องเป็นแถบแนวนอนยาว ให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับ

มิติตัวรถกว้าง 1,866 ม.ม. ยาว 4,653 ม.ม. และสูง 1,724 ม.ม. ใหญ่โตชนิดขึ้นไปซดหมัดกับรถเซ็กเมนต์ C-SUV ได้สบายๆ

ภายในสีทูโทน ให้อารมณ์คล้ายยานอวกาศ ตกแต่งด้วยสีที่แตกต่าง สีโรสโกลด์ หรือถ้าคนอายุ 40 ปีอัพรู้จักในนามของสีนาค ที่พวงมาลัย แผงคอนโซลหน้า และแผงประตูข้าง

แผงหน้าปัดดิจิตอลแบบลอยตัว รองรับภาษาไทย แสดงข้อมูลที่จำเป็น หน้าจออินโฟเทนเมนต์ ขนาดใหญ่ พร้อมแสดงภาพจากกล้องรอบคัน 360 องศา

เกียร์แบบมือหมุน มี 3 โหมด เข้าใจง่าย หมุนเข้าหาตัวเป็นเกียร์ D หมุนออกจากตัว เป็นเกียร์ R ตรงกลางเป็นเกียร์ N

ส่วนถ้าจะเข้าเกียร์ P ให้กดปุ่มตรงกลาง เบรกมือเป็นแบบไฟฟ้า ใช้งานง่ายแค่นิ้วชี้ดึงขึ้นเบาๆ

ด้านหน้าคอนโซลกลาง มีที่วางโทรศัพท์เพื่อชาร์จแบบไร้สาย รวมถึงช่องเสียบ USB เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า ทั้งฝั่งคนขับ และผู้โดยสาร

แต่พิเศษหน่อย ตรงเบาะผู้โดยสาร มีปุ่มให้ปรับอีกจุด ด้านข้างพนักพิง เหตุผลคือให้ผู้ที่อยู่เบาะหลังฝั่งผู้โดยสาร ปรับเลื่อน พับ เอน เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา ไม่ต้องเอื้อมให้ลำบาก

เบาะนั่งหลังปรับพับเรียบได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อีกเกือบเท่าตัว

เทคโนโลยีการขับขี่ ด้วย GWM LEMON Hybrid มีโหมดให้เลือกขับ ทั้งโหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดถนนลื่น

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ดูจากสเป๊ก ขึ้นเขาลงห้วยไม่น่าจะใช่อุปสรรคสักเท่าใดนัก

เสียงเครื่องยนต์แม้อยู่ในห้องอับทึบ ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ ค่อนข้างดี และยิ่งเมื่อสลับไปใช้ไฟฟ้า เงียบสนิท จนต้องเหลือบดูว่ายังทำงานอยู่หรือไม่

แต่ที่ต้องมีคำถามอย่างมากในวันเปิดตัวคือระบบเกียร์ไฮบริด ที่เคลมว่าเป็นรุ่นแรกที่มี 2 เกียร์ ที่เครื่องยนต์ และที่มอเตอร์ขับเคลื่อน นัยว่ารองรับการขับขี่หลากหลายรูปแบบ และความประหยัดที่ มากขึ้น

แต่ก็ยังงงๆ อยู่ว่าทำงานอย่างไร ได้คำตอบจากวิศวกรเกรท วอลล์มอเตอร์ ว่าเป็นอย่างไร จะรีบนำมาแถลงไขให้แฟนานุแฟนได้รับทราบ เพื่อคลายความฉงนในบัดดล

ขณะที่ระบบความปลอดภัยจัดมาให้แบบจุกๆ กับระบบ LIFE+ เริ่มจาก L ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเข้าซอง ขนานขอบทาง หรือแนวเฉียง

ระบบเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง ตรงนี้ถ้าใครขับรถเล็ก น่าจะมีประสบการณ์เวลาแซงรถบรรทุก ที่เหมือนจะถูกดูดเข้าไปใต้ท้องรถ ระบบนี้จะช่วยรักษาระยะห่าง ไม่ให้เข้าไปใกล้จนเกินไป เวลาแซง เพิ่มความปลอดภัยขึ้นอย่างมาก

เป็นข้อมูลเบื้องต้น ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่ผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยืนยันว่าภายในไตรมาส 2 ก็คือไม่เกินเดือนมิ.ย.นี้อย่างแน่นอน

ส่วนราคาถ้าตั้งไว้ไม่แรงจนไปเบียดเจ้าตลาด น่าจะสร้างยอดขายได้ไม่ยาก

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน