คอลัมน์ สตาร์ต่างแดน

เจสัน สเตแธม โชว์ฟอร์มบู๊ดุดัน งานหนังแอ๊กชั่น WRATH OF MAN – หนุ่มนักบู๊ เจสัน สเตแธม เตรียมเปิด ฉากความมันส์ครั้งใหม่ในภาพยนตร์ WRATH OF MAN (คนคลั่งแค้น ปล้นผ่า นรก) ผลงานอาชญากรรมระทึกขวัญเรื่องใหม่ของผู้กำกับฯ กาย ริตชี่

โดยหลังจากภาพยนตร์ Lock, Stock and Two Smoking Barrels (1998) หนังเรื่องแรกของทั้งสองได้สร้างนิยามใหม่ให้แก่ภาพยนตร์แอ๊กชั่น และแจ้งเกิด เจสัน สเตแธม สู่การเป็นนักแสดงดาวรุ่งมากเสน่ห์ที่น่าจับตามองแห่งยุค อีกทั้งยังส่งให้ กาย ริตชี่ ขึ้นแท่นผู้กำกับฯ มากวิสัยทัศน์ที่มีสไตล์การทำหนังอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์

แม้ว่าทั้งคู่จะยังคงทำงานร่วมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่นับจากเรื่อง Revolver ในปี 2005 ผลงานบนจอของทั้งสองก็แตกต่างไปคนละทางมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดในปี 2021 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 15 ปีที่ซูเปอร์สตาร์ ขาบู๊ เจสัน สเตแธม และ กาย ริตชี่ ผู้กำกับฯ มากวิสัยทัศน์กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

WRATH OF MAN (คนคลั่งแค้น ปล้นผ่า นรก) ดัดแปลงจากภาพยนตร์ฝรั่งเศสระทึกขวัญเรื่อง Le Convoyeur (2004)

หลังการซุ่มโจมตีอย่างรุนแรงต่อรถหุ้มเกราะคันหนึ่ง บริษัท ฟอร์ติโก้ ซีเคียวริตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส ได้ว่าจ้างพนักงานใหม่ผู้ลึกลับนาม แพทริก ฮิลล์ (เจสัน สเตแธม) ที่กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เอช

ในขณะที่เขาเรียนรู้งานจากคู่หู บุลเลต (ฮอลต แม็กคัลลานีย์) ในตอนแรกเอชดูเหมือน จะเป็นคนเงียบๆ เอาแต่ก้มหน้าทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่เมื่อเขาและบุลเลตกลายเป็นเป้าหมายของการโจรกรรม ทักษะที่น่ากลัวของเอชก็ถูกเปิดเผย

เขาไม่เพียงแต่เป็นนักแม่นปืนผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจในการต่อสู้แบบประชิดตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่กล้าหาญไร้ความปรานีและเป็นตัวอันตรายอีกด้วย

เขามาพร้อมความแค้นที่กำลังรอวันสะสาง ในขณะที่การเล่าเรื่องดำเนินไป ความลับก็ถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ นำไปสู่การเผชิญหน้าสุดอันตรายระหว่างเอชกับกลุ่มศัตรู

สำหรับเจสันเองได้บอกว่าเขาถูกจุดประกายกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความลึกลับที่แฝงในตัวละครที่เขาแสดง และวิธีการเล่าเรื่องที่เผยให้เห็นถึงแรงจูงใจที่แท้จริงของเอชอย่างช้าๆ

“มันน่าทึ่งมากเนื่องจากเดิมพันที่อยู่ในมือ เอชถูกบังคับให้หลอกล่อผู้คนด้วยวิธีการบางอย่าง เพื่อให้รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นใคร แต่สุดท้ายใครบางคนจะต้องชดใช้”

ตั้งแต่เริ่มต้น กาย ริตชี่ ตระหนักว่ามีนักแสดงเพียงคนเดียวที่สมบูรณ์แบบสำหรับบทเอช และนั่นก็คือเจสัน “ผมสนใจเจสันในฐานะนักแสดงมาโดยตลอด จริงๆ แล้วผมเป็นคนแรกที่เลือกเขาเป็นนักแสดงใน Lock, Stock and Two Smoking Barrels ผมคิดเสมอว่าเขาควรจะเป็นดาราภาพยนตร์ และผมดีใจมากที่ได้เห็นเขากลายมาเป็นดาราผู้ประสบความสําเร็จ”

“เขาอยู่ระหว่างการเดินทางของเขา ผมก็อยู่ในส่วนของผม แต่มันรู้สึกเหมือนว่าเราควรกลับมารวมตัวกันอีกครั้งและผมคิดว่านี่จะเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบสำหรับเจสันและผมที่จะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้มันไม่ตลกเลย มันรุนแรงและดุดันมาก เราเล่นกับเนื้อหาของการแก้แค้น ครอบครัว บาปของผู้เป็นพ่อซึ่งมาลงที่ลูกชาย”

เมื่อพิจารณาถึงความเข้มข้นของเนื้อหา เจสันและกายจึงเห็นพ้องต้องกันว่าความดุดันบนหน้าจอควรมีความรุนแรงและเห็นภาพชัดเจน แนวทางนี้เป็นจุดเริ่มต้นของผู้สร้างภาพยนตร์และเป็นสิ่งที่นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดในท้ายที่สุด

“กายต้องการให้รู้สึกสมจริงและไม่ให้ผมเคลื่อนไหวอย่างเท่และลื่นไหลจนเกินไป” เจสันอธิบาย “วิธีการของเขาในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวคือการใช้วิธีแบบพื้นฐาน โดยในแต่ละวันคุณเข้าไปในโลกของเรื่องราวและคิดออกมาว่าตัวละครกำลังจะทำอะไรในสถานการณ์ที่เขาเป็นอยู่ ในขณะที่ความตึงเครียดก่อตัวขึ้น”

“วิธีนี้ช่วยสร้างความรู้สึกเหมือนจริงตามที่เราต้องการ ในปัจจุบันยากมากที่ผู้กำกับฯ จะทำเช่นนี้ เว้นแต่คุณจะมั่นใจมากจนรู้ว่าต้องการจับภาพผ่านเลนส์ของกล้องอย่างไร และกายก็ทำเช่นนั้น”

หนังเรื่องนี้ท้าทายให้เจสันแสดงให้เห็นถึง ตัวละครที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ในบทพ่อผู้ต้องเผชิญกับความเศร้าโศก และนำทางไปสู่โลกแห่งอาชญากรได้อย่างไร้ ที่ติ

“เขาเป็นคนเย็นชา ฉลาด มีสมาธิและเต็มไปด้วยแรงผลักดัน เป็นตัวละครผู้ซึ่งจมดิ่งสู่ความหมกมุ่นแห่งการแก้แค้นในขณะค้นหา ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการฆาตกรรมลูกชายของเขา เขาเป็นคนซับซ้อน เหนือกว่า สิ่งใดก็คือความเป็นพ่อ”

ในชีวิตจริงเจสันกับภรรยานักแสดงคนสวย โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวต์ลีย์ มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อ แจ๊ก ซึ่งเจสันกล่าวว่า “แม้ว่าผมจะกลายเป็นพ่อคนค่อนข้างช้า แต่ผมก็รู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตหมุนรอบลูกของผม ดังนั้นการที่จะลบมันออกไปนั้นเป็นเรื่อง น่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้”

“คุณสงสัยว่าคุณจะกลับมาเป็นปกติหลังการสูญเสียลูกได้อย่างไรเพราะดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือบทสนทนาที่ผมมีกับกายเกี่ยวกับตัวละครของผม”

สายสัมพันธ์ ที่กายและเจสัน ได้สร้างขึ้นในช่วงแรกๆ ของการทำงานร่วมกันได้รับการปรับ ใช้เป็นอย่างดี เนื่องจาก พวกเขาแบ่งปันมุมมองเดียวกันทั้งตัวละครของเอชและตัวภาพยนตร์

แม้จะไม่ได้ทำงานร่วมกันมานานกว่าทศวรรษ แต่พวกเขาก็กลับเข้าสู่จังหวะจะโคนแห่งการสร้างสรรค์ที่มีประสิทธิภาพร่วมกันได้อย่างง่ายดาย

“เราทั้งคู่มาไกลกันมากตั้งแต่เริ่มทำงานร่วมกันเมื่อ 20 กว่าปีก่อน” เจสันกล่าว “สิ่งที่คุณอยากทำจริงๆ ในสถานการณ์เช่นนี้คือดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ แต่ความจริงก็คือมันไม่มีเลย ผมตกหลุมรักอาชีพนี้ด้วยลอตเตอรี่ที่กายเป็นคนมอบให้ในภาพยนตร์เรื่อง Lock, Stock and Two Smoking Barrels”

“เขาดูไม่แก่ขึ้นเลยสักนิดซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก” กาย ริตชี่ กล่าวเสริม “ผมไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรยังไง เขายังคงมีร่างกายที่กำยำเหมือนเดิม เจสันกับผมมีความสัมพันธ์เช่นเดิมตลอด 22 ปีที่เรารู้จักกัน อย่าคิดว่าผมกับเจสันโกรธกัน ผมไม่คิดว่าเราเคยพูดขัดกัน เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผม”

“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เจสันสามารถจัดการกับชีวิตของเขาได้อย่างชำนาญและเขามีสติปัญญาที่ยอดเยี่ยม ผมเคารพเขาในฐานะนักแสดงและในฐานะมนุษย์คนหนึ่งอย่างแท้จริง”

ด้านพระเอกนักบู๊ เจสัน สเตแธม กล่าวเสริมถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขากับผู้กำกับฯ ดังว่า “ถ้าทั้งหมดที่ผมทำมาตลอดอาชีพของผมคือการทำงานให้กับกาย ริตชี่ ผมกล่าวได้ว่าผมเป็นคนที่มีความสุขมากเลย”

สำหรับนักแสดงในเรื่อง นอกจาก เจสัน สเตแธม, ฮอลต์ แม็กคัลลานีย์ ยังมี เจฟฟรีย์ โดโนแวน, จอร์ช ฮาร์เน็ท, นีห์ม อัลการ์, ลาซ อลอนโซ, สก๊อต อีสต์วูด และ เอ็ดดี้ มาร์ซาน

รวมทั้งอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ หนุ่มนักร้องมาดกวน โพสต์ มาโลน ที่ขอมาโชว์ฝีมือทางด้านการแสดงในเรื่องนี้ โดยเขาปรากฏตัวในฉากเผชิญหน้ากับเอชอย่างโดดเด่นซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ และได้รับคำชมจากผู้กำกับฯ ดังไปว่า

“โพสต์ มาโลน เป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา เขามีมารยาทที่ยอดเยี่ยม เขาสุภาพอย่างไม่น่าเชื่อและเป็นมืออาชีพมากที่พร้อมจะทำงานล่วงเวลาโดยไม่บ่น จริงๆ แล้วนั่นคืออากาศที่บริสุทธิ์ให้กับทุกคนในกองถ่าย ทุกคนต่างตกตะลึงกับความใจดีและยืดหยุ่น ของเขา เขามีความคิดสร้างสรรค์และทำงานร่วมกับทุกคนได้ดี เขาคิดสร้างสรรค์ได้เองและแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ”

ภาพยนตร์ WRATH OF MAN (คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก) เข้าฉายให้ชมไปแล้วที่สหรัฐอเมริกา และได้กระแสตอบรับที่ดี ส่วนบ้านเราเมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น ได้ชมกันแน่นอนในโรงภาพยนตร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน