การแข่งขันฟุตบอลแต่ละแมตช์ ไม่บ่อยครั้งนักที่นักเตะเกมรับจะได้เครดิตว่าเป็นกุญแจสำคัญนำทีมไปสู่ชัยชนะ
แมตช์รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 ที่อังกฤษเป็นฝ่ายชนะเยอรมนี 2-0 ก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้น เมื่อกองหน้าอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง และ แฮร์รี เคน แบ่งกันซัลโวคนละตุง หากมอง ผิวเผินก็น่าจะต้องกล่าวชมแนวรุกที่เฉียบขาด
ทว่าเมื่อจบเกม รางวัลสตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ กลับตกเป็นของแฮร์รี แม็กไกวร์ ปราการหลังร่างยักษ์
เกมนี้ต้องบอกว่าดำเนินไปอย่างค่อนข้างอึดอัด จังหวะยิงประตูไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก ซึ่งในระหว่างนั้น แม็กไกวร์ก็รับมือผู้เล่นแนวรุกของเยอรมนีได้อย่างดี ทำให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถวางใจหลังบ้านได้
ไม่เพียงเท่านั้น แม็กไกวร์ยังพยายามช่วยเกมรุกจากแดนหลัง ซึ่งถือว่ามีประโยชน์พอสมควร อย่างน้อยก็เรียกฟาวล์จากคู่แข่งได้
ฝ่ายเทคนิคของยูฟ่าได้นิยามแม็กไกวร์ในเกมนี้ว่า “เขาช่วยรักษาสมดุลในเกมรับของทีม และแสดงถึงความเป็นผู้นำในสนาม”
สำหรับแม็กไกวร์วัย 28 ปี ปัจจุบันเล่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะเพิ่งย้ายมาร่วมทัพเมื่อปี 2019 แต่ก็ได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่กัปตันทีมของสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้แล้ว
การเล่นเกมรับของแม็กไกวร์มีส่วนสำคัญพาแมนฯ ยูไนเต็ดได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก และรองแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาลล่าสุด
ส่วนผลงานทีมชาติอังกฤษ ตอนนี้แม็กไกวร์ติดธงไปแล้ว 34 นัด ซึ่งในยูโรหนนี้เจ้าตัวต้องพลาด 2 นัดแรกเนื่องจากยังไม่หายเจ็บ ก่อนจะได้ลงในเกมเจอสาธารณรัฐเช็ก แล้วต่อด้วยเกมเจอเยอรมนีหนนี้
สถานการณ์ของอังกฤษกำลังไปได้สวย โอกาสลุ้นแชมป์ค่อนข้างสูง แถมยังมีสิทธิ์ทำสถิติไม่เสียประตูตลอดทัวร์นาเมนต์ด้วย
หากอังกฤษมุ่งมั่นบรรลุทั้ง 2 เป้าหมาย แน่นอนเลยว่าแม็กไกวร์จะต้องเป็นหัวใจสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้