แอฟริกาใต้จลาจลดับทะลุ70ศพ – เมื่อวันที่ 14 ก.ค. เอพีรายงานความคืบหน้าเหตุจลาจลที่นครโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ว่ามียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 72 รายแล้ว จากเหตุประท้วงกรณีอดีตประธานาธิบดีเจค็อบ ซูมา ถูกสั่งจำคุก 15 เดือนในข้อหาขัดคำสั่งศาล ลุกลามไปสู่การจลาจลและปล้นข้าวของในห้างร้านจนถึงขั้นยื้อแย่งเหยียบกันเสียชีวิต แต่กระทรวงกลาโหมแจ้งว่ายังไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังอดีตประธานาธิบดีซูมาปฏิเสธที่จะเข้ารับการไต่สวนตามคำสั่งของศาลภายใต้ข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นเมื่อสมัยดำรงตำแหน่งผู้นำแอฟริกาใต้ระหว่างปี 2552 ถึง 2561 ทำให้ศาลสั่งลงโทษทันที ทำให้ผู้สนับสนุนนายซูมาออกอาการโกรธแค้นเดือดดาล พากันออกมาประท้วงก่อนเหตุบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลเข้าปล้นชิงร้านค้าในจังหวัดเคาเต็ง ที่ตั้งของมหานครเอกอย่างโยฮันเนสเบิร์ก และนครพริทอเรีย โดยพื้นที่เกิดเหตุนั้นส่วนใหญ่เป็นบริเวณที่มีประชากรที่มีรายได้น้อยอาศัยอยู่หนาแน่น

อลหม่าน – ควันไฟยังพวยพุ่งออกจากโกดังเก็บสินค้าเมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ หลังม็อบที่ประท้วงทางการเมืองก่อเหตุปล้นข้าวของตามห้างร้าน ถึงขั้นแย่งชิงเหยียบกันตาย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 72 ราย เมื่อ 14 ก.ค. (เอพี)

รายงานระบุว่าผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งนั้นมาจากการเหยียบกันเสียชีวิตระหว่างรุมยื้อแย่งสิ่งของตามห้างสรรพสินค้า ท่ามกลางการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 2,500 นายที่ระดมยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าสลายฝูงชนแต่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่

เหตุจลาจลที่กำลังเกิดขึ้นนั้นมีผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 1,200 คน ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของสื่อวิทยุแห่งหนึ่งต้องยุติการออกอากาศ และสถานีฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 หลายจุดต้องระงับให้บริการ ทั้งนี้ ประเทศแอฟริกาใต้มีประชากรรายได้น้อยอยู่กว่า 60 ล้านคน ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งสูงถึงร้อยละ 32 ทั้งยังเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อเกิน 2.2 ล้านคน เสียชีวิตเกิน 65,000 ราย สร้างผล กระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง กลายเป็นแรงหนุนของการจลาจล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน