โฉมหน้าโอลิมปิกยุคไวรัส – มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียวเกมส์” ที่ญี่ปุ่น เริ่มต้นอย่างเป็นทางการด้วยพิธีเปิดในวันที่ 23 กรกฎาคม
โอลิมปิกเกมส์หนนี้จะต่างไปจากครั้งอื่นที่เคยเป็นมาอย่างมาก เพราะต้องดำเนินการท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยังระบาดหนัก ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น
ข้อจำกัดด้านพิธีการ
ที่ผ่านมาพิธีเปิดและปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์จะโดดเด่นเรื่องความน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยเอฟเฟ็กต์และแสงสีสุดตระการตา รวมถึงการแสดงอันน่าบันเทิง เต็มไปด้วยผู้คนในสนาม
แต่หนนี้ พิธีการจะมีข้อจำกัดมากขึ้น และต้องทำให้เรียบง่ายที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ
อย่างเช่นในพิธีเปิด จะมีนักกีฬาแค่ 6,000-11,000 คน ที่เข้าร่วม ขณะที่ โธมัส บาก ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ปฏิเสธร่วมในการวิ่งคบเพลิงแล้ว
การรับเหรียญที่ไม่เหมือนเดิม
นักกีฬาที่ได้รับเหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ย่อมรู้สึกปลื้มปีติในความสำเร็จที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ การจุมพิตเหรียญรางวัลจึงเป็นเรื่องปกติ
ทว่าในโตเกียวเกมส์ พิธีรับเหรียญต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้วย นักกีฬาจะเป็นผู้หยิบเหรียญมาคล้องคอด้วยตัวเอง และไม่สามารถจูบเหรียญฉลองความสำเร็จบนโพเดียมได้ เพราะพวกเขาต้องสวมหน้ากากอนามัยไว้ด้วย
การถ่ายรูปต่างๆ ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในอดีตที่มีนักกีฬาตัวเล็กสุด ถ่ายรูปคู่นักกีฬาที่มีความสูงมากที่สุด ภาพแบบนี้คงยากจะเกิดขึ้นที่โตเกียวเกมส์ เพราะแต่ละคนต้องรักษาระยะห่างจากกัน
แทบไร้ผู้ชม
ญี่ปุ่นลงทุนกับโอลิมปิกเกมส์หนนี้ไปมหาศาล โดยหวังว่าจะเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจครั้งใหญ่กลับมา
ทว่าจากวิกฤตหนนี้ ทำให้ต้องมีคำสั่งห้ามคอกีฬาต่างชาติเดินทางมาชมการแข่งขัน ขณะที่กีฬาเกือบทั้งหมดจะต้องแข่งขัน ในสภาพปิดสนาม ไม่ให้มีผู้ชมเข้ามาดู
แม้แต่นักกีฬาและทีมงานเองก็มาเพื่อ แข่งเท่านั้น เพราะนอกเหนือจากเวลาแข่งกับซ้อม แต่ละคนต้องใช้ชีวิตแบบกักตัวในห้องพัก ไม่ให้มีการเที่ยวชมสถานที่ในญี่ปุ่น และต้องเดินทางออกจากหมู่บ้านนักกีฬาภายใน 48 ชั่วโมง หลังสิ้นสุดเส้นทางแข่งขัน
* กฎอันเข้มงวด
มีกฎหลายข้อที่ถูกกำหนดมาเพื่อช่วงเวลานี้ และต้องทำตามอย่างเคร่งครัด เช่น นักกีฬาต้องตรวจหาเชื้อทุกวัน, ต้องรักษาระยะห่างทางกายภาพจากกัน, ห้ามกอด จับมือ และตีมือกัน รวมถึงกฎอีกหลายข้อ ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน
หรือแม้แต่โดนเนรเทศออกนอกดินแดน