อลป.ที่เปิดกว้างทุกเพศ – โตเกียวเกมส์ 2020 ช่างแตกต่างอย่างมากจากโอลิมปิกเกมส์เมื่อครั้งอดีต รวมถึงความเปิดกว้างอย่างที่สุด

หนนี้มีนักกีฬาหลากหลายทางเพศที่เปิดเผยตัวไม่น้อยกว่า 180 ราย เข้าร่วมแข่งขัน

ตัวเลขดังกล่าวมากเกินกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับคราวโอลิมปิกเกมส์ 2016 แถมยังมากกว่าโอลิมปิกเกมส์ทุกครั้งรวมกัน นับรวมทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาวด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น โตเกียวเกมส์ยังถูกจารึกในประวัติศาสตร์กับการให้นักกีฬาแปลงเพศลงแข่งขันครั้งแรก หลังจากที่ ลอเรล ฮับบาร์ด นักยกน้ำหนักนิวซีแลนด์ซึ่งเคยมีเพศสภาพเป็นชาย ได้แข่งยกน้ำหนักหญิงรุ่นมากกว่า 87 กิโลกรัม

ฮับบาร์ดที่ยกไม่ผ่านทั้ง 3 ครั้งในรอบชิงเหรียญกล่าวว่า “ฉันอยากขอบคุณคณะกรรมการโอลิมปิกสากล สำหรับจุดยืนที่มีต่อหลักการของโอลิมปิก”

ขณะที่ เอลิสซา อลารี นักรักบี้หญิงแคนาดาที่เปิดเผยแล้วว่าตนเป็นกลุ่มรักร่วมเพศกล่าวว่า “ฉันที่เติบโตมาในเมืองเล็กๆ ไม่เคยได้รู้จักนักกีฬาหลากหลายทางเพศเลย จนกระทั่งได้แข่งขันในระดับที่สูงขึ้น ฉันหวังว่าการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นให้สังคมเปิดกว้างขึ้น”

อันที่จริงแล้วญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ยังไม่ได้เปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศนัก แม้จะมีมาตรการปกป้องบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอยู่บ้าง แต่เรื่องเพศสัมพันธ์ในเพศเดียวกันยังไม่เป็นที่ยอมรับ

มีการเปิดเผยว่า คู่รักเพศเดียวกันในญี่ปุ่นต้องประสบปัญหาในการเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ด้วยกัน และถูกห้ามเยี่ยมคนรักที่เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล ส่วนคนที่แปลงเพศก็ต้องเผชิญกฎเกณฑ์เคร่งครัด รวมถึงต้องทำหมัน

ทว่าในปัจจุบันมีการเรียกร้องสิทธิความหลากหลายทางเพศในญี่ปุ่นมากขึ้น ประจวบเหมาะกับที่โอลิมปิกเกมส์หนนี้แข่งขันพอดี กลุ่มผู้เคลื่อนไหวจึงหวังว่านี่อาจเป็นการกระตุ้นให้เกิดร่างกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติได้

เรียกได้ว่าโตเกียวเกมส์อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทั้งสังคมญี่ปุ่นและสังคมโลกกีฬาที่ความหลากหลายทางเพศไม่ควรเป็นเรื่องผิดบาปอีก เพราะอย่างไรเสียทุกคนคือคนเท่ากัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน