ขบวน “คาร์ม็อบ” – เดือนสิงหาคมกำลังจะพัฒนากลายเป็นเดือนแห่งการเคลื่อนไหว ชุมนุม

ไม่เพียงแต่เบิกโรงด้วยกระบวนการ “คาร์ม็อบ” ที่มี นายสมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นหัวขบวน ประสานเข้ากับเครือข่ายไล่ประยุทธ์ของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

หากสถานการณ์ยังต่อเนื่องไปยังวันที่ 1 และวันที่ 2 สิงหาคม

เพราะมีการจับกุมและยึดรถเครื่องเสียงในตอนสายของวันที่ 1 สิงหาคมทำให้ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” กับ “กลุ่มทะลุฟ้า” ต้องเคลื่อนไหว

ตามมาด้วยการชุมนุม แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ในวันที่ 3 สิงหาคม

ยังไม่ทันที่สถานการณ์ 1 สิงหาคมจะอ่อนแรงก็แซงมาโดยสถานการณ์ 7 สิงหาคม

ความน่าสนใจของการเคลื่อนไหวในวันที่ 7 สิงหาคม เพราะว่านัดหมายโดย “เยาวชนปลดแอก” และมีเป้าหมายจะเคลื่อนไปยัง “สนามหลวง”

ทั้ง นายอานนท์ นำภา ยังอุ่นเครื่องตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม

ผลก็คือ การเคลื่อนไหวในวันที่ 7 สิงหาคม กลับมากด้วยความร้อนแรงเพราะมีการบุกเข้าสลายตั้งแต่ “เยาวชนปลดแอก” ยังไม่ได้เริ่มการชุมนุม

จึงต้องย้ายจาก “ราชดำเนิน” ไปยัง “กรมทหารราบที่ 1”

สัญญาณเดียวกันของค่ำวันที่ 1 สิงหาคมสัมผัสได้ในตอนบ่ายวันที่ 7 สิงหาคม

พลันที่ “ส่วนหน้า” ของ “เยาวชนปลดแอก” เหยียบไปถึงบริเวณหน้าคอนเทนเนอร์รอบกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภ

การยิง “แก๊สน้ำตา” ตามด้วย “กระสุนยาง” ก็เกิดขึ้น

ทุกการเคลื่อนไหวของ “หน่วยควบคุมฝูงชน” เท่ากับเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าไปยังการเคลื่อนไหวของ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ในวันที่ 10 สิงหาคม

เป็นสัญญาณเตือนจาก “แก๊สน้ำตา” และ “กระสุนยาง”

เท่ากับเดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งการเคลื่อนไหวในทางการเมืองอันดุเดือดเข้มข้น

มิได้เป็น “แฟล็ชม็อบ” อย่างที่นิยมกันในปี 2563 ตรงกันข้าม กลับเป็นการผสมผสานระหว่าง “แฟล็ช ม็อบ” กับ “คาร์ม็อบ” เข้าด้วยกันอย่าง กลมกลืน

พุ่งเป้าเข้าสู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นจุดเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน