จี้รัฐคุมโควิดให้อยู่-กู้วิกฤตท่องเที่ยว – วันที่ 8 ส.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยสำรวจความคิดเห็นหัวข้อ “กู้วิกฤติท่องเที่ยวไทย” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,195 คน ระหว่าง 2-5 ส.ค. พบว่า ประชาชนร้อยละ 88.55 มองว่าปัญหาใหญ่ของการ ท่องเที่ยววันนี้คือโควิด-19 ทำให้สูญเสียรายได้มหาศาล ร้อยละ 94.20 เห็นว่าภาครัฐควรมีแผนป้องกันและควบคุมโควิด-19 ให้ได้เร็วที่สุด

ร้อยละ 37.99 เห็นว่าหากช่วงสิ้นปีสถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนพร้อมเดินทางท่องเที่ยว แต่ร้อยละ 35.65 ไม่พร้อม ทั้งนี้ ร้อยละ 82.48 คิดว่าหากจะกระตุ้นให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว ภาครัฐต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในพื้นที่ท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 52.16 คิดว่าการตั้งเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยว 8.5 แสนล้านบาทนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงการเกิดคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในพื้นที่เที่ยว ก็อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว ส่วนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ครบรอบ 1 เดือน มีนักท่องเที่ยวหลักหมื่นคน รายได้สะพัดราว 1 พันล้านบาท ก็ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้

นายชนินทร์ ต่วนชะเอม ที่ปรึกษาคณบดีคณะวิทยาการจัดการ ม.สวนดุสิต ระบุ ประเทศไทยมีพร้อมด้านบริการทุกด้าน ธรรมชาติ อาหาร วัฒนธรรมและเสน่ห์ไทยเรายืนหนึ่งในภูมิภาค ประชาชนจึงอยากให้ ภาครัฐมีแบบแผนป้องกันโควิด-19 ที่ชัดเจนและด่วนที่สุด ล็อกดาวน์แบบเจ็บแล้วจบ ไม่ยืดเยื้อ ให้วัคซีนเข้าถึงทุกคน ในช่วงไตรมาส 4 ของปี ประชาชนพร้อมจะท่องเที่ยวในประเทศไทย ร้อยละ 37.99 เพราะการอยู่กับบ้านเจอกับโควิด-19 มา 2 ปี จึงอยากไปผ่อนคลาย

ภาครัฐจึงควรมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในพื้นที่ท่องเที่ยว มีวัคซีนที่มีคุณภาพ ให้ความรู้และให้ประชาชนตระหนักถึงโรคที่จะเกิดขึ้นจากการพัฒนาสายพันธุ์ตลอดเวลา ถ้าภาครัฐและประชาชนร่วมด้วยช่วยกัน ทุกภาคส่วนมีความเข้มแข็งเราจะ “กู้วิกฤตท่องเที่ยวไทย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน