ต่อเวลาผ่อนบัตรรูดปรื๊ดแบงก์ชาติปรับเกณฑ์เพิ่มวงเงินสินเชื่อฟื้นฟูช่วยลูกหนี้ เอสเอ็มอี-รายย่อย พร้อมต่อเวลาผ่อนปรนเกณฑ์ผ่อนชำระบัตรเครดิตที่ 5% จนถึงสิ้นปี 2565

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564 มีมติอนุมัติมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ได้แก่ การรักษาสภาพคล่องและเติมเงินใหม่ให้กับ ลูกหนี้เอสเอ็มอีและรายย่อย โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟูสำหรับลูกหนี้เอสเอ็มอี ขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับลูกหนี้ที่วงเงินเดิมน้อย หรือไม่เคยมีวงเงิน สำหรับลูกหนี้รายใหม่ เดิมไม่เกิน 20 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนลูกหนี้รายเก่า ให้ขยายวงเงินสินเชื่อเป็น 30% ของวงเงินแต่ละสถาบัน หรือไม่เกิน 150 ล้านบาท เป็นต้น

นอกจากนี้ ธปท.ยังผ่อนปรนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสินเชื่อลูกหนี้ รายย่อย ในส่วนของบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อบรรเทาภาระการจ่ายชำระหนี้ ตลอดจน เพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ที่มีความสามารถในการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค.2564

โดยขยายเพดานวงเงินสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท, คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตที่ 5% ต่อไป และขยายเพดานวงเงินและระยะเวลาชำระหนี้ โดยกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ต่ำกว่า 30,000 บาท ให้ขยาย เพดานวงเงินไม่เกิน 2 เท่าของรายได้ และไม่จำกัดจำนวนผู้ให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ

ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ให้ขยายเพดานวงเงินเป็นรายละไม่เกิน 40,000 บาท พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการชำระคืน ไม่เกิน 12 เดือน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อในระบบและลดความจำเป็นของลูกหนี้ที่อาจถูกผลักไปใช้สินเชื่อนอกระบบในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ธปท. ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เช่น ให้สถาบันการเงินสามารถคงการจัดชั้นสำหรับลูกหนี้รายย่อยและเอสเอ็มอี ได้จนถึง 31 มี.ค 2565 ใช้หลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองอย่างยืดหยุ่นไปจนถึงสิ้นปี 2566 และขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุน FIDF ถึงสิ้นปี 2565

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน