‘เจมส์ มาร์’มาสายฮาเรียนรู้สิ่งใหม่‘ดวงตาที่3’ – มาชิมลางลงละครผีเต็มตัวแนวคอมเมดี้เรื่อง “ดวงตาที่ 3” ทางช่อง 3 พระเอกตี๋ ‘เจมส์ มาร์’ ได้ประสบการณ์ใหม่
ประทับใจได้ร่วมงานกับนางเอก ‘มิว’ นิษฐา จิรยั่งยืน เป็นครั้งแรก
คาแร็กเตอร์ในละคร “ดวงตาที่ 3” ที่ได้รับเป็นอย่างไรบ้าง?
เจมส์ – “ในเรื่องรับบท ตรีกาล เด็กเห็นผีและกลัวผีมาก เป็นคนซื่อๆจิตใจดี โตที่ต่างจังหวัด จนอายุ 20 ปีกว่า เข้ามาในเมืองตามหาความรัก ซึ่งก็คือปุ้ม (มิว นิษฐา) เรื่องนี้เป็นละครผีเต็มตัวครั้งแรกและเป็นคอมเมดี้เรื่องแรกคาแร็กเตอร์เรื่องนี้จะต่างจากทุกเรื่องที่เคยเล่นมา ฉะนั้นสไตล์ละคร หรือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ใหม่ในฉากหรือวิธีการแสดงก็มีบ้าง เช่นเรื่องจังหวะที่พี่ๆ เขาเล่นกัน จะทำยังไงให้เราอยู่ในฉากแล้วไม่หัวเราะซึ่งเรื่องนี้มีมุมที่นักแสดงสามารถปล่อยอารมณ์ให้ครีเอต มีอิสระในการแสดง จริงๆ เป็นเรื่องง่ายนะ แต่ต้องปรับตัวเท่านั้นเอง”
พอได้ลองเล่นละคร คอมเมดี้ มันใช่ทางเราไหม?
เจมส์ – “สำหรับผมมันสนุก เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ลอง และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าฉากกับนักแสดงที่เขาเล่นแนวนี้มาตลอดจริงๆ ครั้งนี้ ได้เจอกับผู้กำกับฯ พี่เหมี่ยว (ปวันรัตน์) บางทีซีนจบแล้ว เขาก็ไม่คัต ปล่อยให้ทุกคนเล่นต่อ นี่ก็เป็นสิ่งใหม่ที่เจอ ถ้ามีโอกาสได้เล่นอีกก็จะเล่นครับ”
ร่วมงานกับนางเอก ‘มิว นิษฐา’ เคมีลงตัว?
เจมส์ – “รู้จักสนิทกันประมาณหนึ่งอยู่แล้ว พอได้มาร่วมงานกับเขา ค่อนข้างประทับใจมากๆ เพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรก็ดูน่ารัก สดใส ชอบความเป็นตัวของตัวเองที่ชัดเจนมากๆ ครับ เลยทำให้เวลาเข้าฉากสามารถเข้าถึงกันและกัน เราไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กันครับ ด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวละครสนิทกัน เราก็อินไปกับตัวละครด้วย ผมว่าจะเป็นเคมีที่หลายคนนึกไม่ถึงว่าพอมาร่วมงานด้วยกันแล้วดูเข้ากันได้”
ส่วนตัวมีความเชื่อเรื่องผีไหม?
เจมส์ – “เชื่อครับ คอยระวังตลอดเวลา แต่เราเป็นคนไม่ได้มีเซนส์เห็นจะจะ ส่วนเรื่องเบญจเพสก็เชื่อครับ แต่ยังไม่เจออะไรที่ร้ายแรงหรือเจออะไรที่เป็นสิ่งไม่ดีในวัยเบญจเพส แต่เคยได้ ยินคนเล่าว่าอาจมีบางสิ่งบางอย่างที่ ไม่เป็นไปตามที่เราคาดคิดไว้ บางคนสูญเสียของรัก บางคนสูญเสียสัตว์เลี้ยง บางคนป่วย ไม่สบาย เตือนใจตัวเองตลอดเวลาไม่ว่าจะเบญจเพสหรือไม่ ก็ต้องดูแลตัวเอง”
เหตุการณ์ที่เราเข้า เมืองกรุง อยู่กับเดอะแก๊งมีฉากหลุดขำบ้างไหม?
เจมส์ – “มีอยู่แล้วแหละ พอผม มิว ทุกคนในแก๊งสนิทกันก็มีถ่ายติ๊กต็อก มีฉากที่หลุดหัวเราะ หลายคนอาจไม่เคยเห็นผมในมุมนี้ ซึ่งผมว่าเรื่องนี้ได้อยู่นะ พอเราได้เริ่มเข้าใจจังหวะเขาแล้ว เวลาเล่นมุขกลายเป็นเล่นตามได้เลย และเอ็นจอยกับทุกอย่าง”
แฟนคลับว่ายังไงบ้าง ที่เราเต้นติ๊กต็อก?
เจมส์ – “ชอบนะครับ ช่วงที่ถ่ายละครอยู่ เขาบอกว่ารอดูผลงานนะ ผมก็บอกว่ายังถ่ายไม่เสร็จเลย เขาบอกเปล่า รอดูติ๊กต็อก เพราะมันได้เห็นเราอีกมุมหนึ่งที่แปลกใหม่ ซึ่งที่เราทำ ไม่ได้ทำเพื่ออยากจะให้คนดูเห็นเราในมุมใหม่นะ เราทำไปเพราะรีแล็กซ์ก่อนเข้าฉาก”
คาดหวังกับละครเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?
เจมส์ – “อยากให้คนดูได้เห็นคาแร็กเตอร์ของเราที่แปลกไป ไม่เหมือนเรื่องอื่น เพราะทำงานมาก็เรื่องที่ 10 แล้ว หวังว่าคนดูจะชอบกับสิ่งที่เราพยายามนำเสนอ และให้คนได้เห็นไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มหนึ่งว่ามันเป็นยังไง และเอ็นจอยกับสถานการณ์ ขอให้ติดตามผลงานของเราก็พอครับ”
รีวิวชีวิตช่วงโควิดหน่อย?
เจมส์ – “ก็คล้ายๆ ชีวิตปกตินะครับ ตัดเรื่องการออกไปข้างนอก ไปเที่ยว ทำงาน ก็ยังอยู่บ้านตีกอล์ฟที่บ้าน ออกกำลังกายในบ้าน เล่นเกม และมีหมา แมวครับ จริงๆ พยายามทำชีวิตให้ปกติเหมือนทุกวัน พยายามตื่นมาทำกับข้าว ออกกำลังกาย ให้มีชีวิตที่พร้อมจะกลับมาทำงานได้ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่มีงานก็ขอให้สภาพร่างกายทุกอย่างพร้อม แล้วเราก็พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ดูซีรีส์ ดูเรื่องของภาษา หาความคิดใหม่ๆ ตลอดเวลา”
ช่วงนี้ถือโอกาสเปลี่ยนลุกส์ ช่วงร้านตัดผมไม่เปิด?
เจมส์ – “ผมค่อนข้างยาว เพราะละครเรื่องใหม่ต้องไว้ทรงผมยาวหน่อยด้วย บวกกับร้านตัดผมปิด ส่วนตัวไม่เคยมัดผม หรือแสกกลาง ก็ลองเปลี่ยนสไตล์ดู เพราะไม่เคยไว้ผมยาวแบบนี้มาก่อนในชีวิต พอรู้ว่าคนชอบลุกส์ใหม่ก็ดีใจ ส่วนตัวแล้วก็ชอบลุกส์นี้ รู้สึกมีอะไรให้เล่นมากขึ้น เราถือโอกาสเปลี่ยนลุกส์ เปลี่ยนคาแร็กเตอร์ เพราะไม่งั้นตัวละครจะไม่มีอะไรช่วยให้เราเปลี่ยนแปลง จะคล้ายๆ เดิมครับ”
เรื่องหัวใจยังว่างอยู่ไหม?
เจมส์ – “ยังว่างยังโสดอยู่เหมือนเดิม ผมว่าเรื่องถูกใจ หรือเข้าตา มันเป็นเรื่องของเวลามากกว่า ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเราไม่มองใคร แต่ปีที่ผ่านมาเราทำงาน และไม่ได้ให้ความสำคัญว่าจะต้องรีบหา ที่ผ่านมาเจอแต่นางเอกที่มีคู่อยู่แล้ว ก็เลยมีฟีลเป็นเพื่อนมากกว่า ก็ปล่อยให้เป็นไปตามจังหวะชีวิต ยิ่งช่วงโควิดมันยากมากเลยที่จะไปเจอใครสักคน เลยทำให้มันดีเลย์ไปเรื่อยๆ ตอนนี้โสดไปก่อน ยังไม่ซีเรียสรีบมีแฟนครับ”
สเป๊กสาวเป็นแบบไหน?
เจมส์ – “ผมไม่มีสเป๊ก ผมว่าทุกคนมีเสน่ห์มีความสวยของตัวเองหมด ผมจะชอบคนที่เก่งในหน้าที่การงาน ชอบคนที่มีความมุ่งมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นอาชีพ ตรงนั้นมันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนสนใจ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความสนใจเหมือนกับเราก็ได้”
ความรักยังคงเป็นเรื่องไกลตัว?
เจมส์ – “จริงๆ ผมไม่อยากมีความรู้สึกที่อยู่กับใครแล้วไปต่อไม่ได้กับคนนั้น เหมือนเราเองก็ยังทำใจไม่ได้ที่มีความรู้สึกแบบนี้ ไม่รีบดีกว่าค่อยเป็นค่อยไป ความสม่ำเสมอน่าจะเป็นอะไรที่ดีครับ”
สุชาวดี อภิสัมภินวงค์
