ปลูกรักที่แม่ทา ทุ่งแสงตะวัน 30+ – เริ่มต้นออกอากาศแล้วตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป สำหรับซีรีส์ ทุ่งแสงตะวัน 30+ รายการเด็กที่มีเนื้อหาสาระข้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ตลอด 3 เดือนในวาระเฉลิมฉลอง 30 ปีรายการทุ่งแสงตะวัน

ลองย้อนมองไปเมื่อก่อนคนไทยเราเท่มากทำเกษตรอินทรีย์กันทั้งประเทศ ปลูกพืชผักอาหารแบบเกษตรธรรมชาติ ปลูกเองกินเอง ขายเอง ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ จนกระทั่งเริ่มมีการ ส่งเสริมการปลูกเพื่อขายทีละมากๆ พากันทำการเกษตรเชิงเดี่ยว มีการนำเข้ายาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีปีละหลายล้านตัน ส่งผลต่อน้ำ ดิน และสุขภาพคนปลูกและคนกิน

จนเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน ทุ่งแสงตะวันได้ข่าวว่ามีเกษตรกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาปฏิเสธการใช้ปุ๋ยใช้ยาตามกระแสสมัยนั้น จึงนำเสนอเรื่องราวของชาวบ้านที่มีแนวคิดก้าวหน้าแห่งตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเด็กหญิงฝาแฝด สาวิตรี และ สารินี นามจันทร์ หรือ จุ๋ม และ จิ๋ม เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวและชุมชน

จากเด็กหญิงฝาแฝดชั้นประถมศึกษาในรายการทุ่งแสงตะวันเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน จุ๋มและจิ๋ม สาวิตรี สารินี นามจันทร์ เติบโตขึ้นพร้อมกับพัฒนาการของชุมชนแม่ทามาเป็นระยะ

ในยุคเริ่มแรกรวมตัวกันเป็น กลุ่มเกษตรกรรมยั่งยืนตำบล แม่ทา หลังจากนั้นก็รวมกัน จัดตั้งสหกรณ์การเกษตรแม่ทา ผ่านมาถึงรุ่นใหม่วัย 30+ ใน วันนี้ ทั้งจุ๋ม จิ๋มและเพื่อนพี่น้อง ที่เติบโตมาด้วยกัน กลับมาบ้าน ใช้ศักยภาพความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์และความถนัดที่ ต่างคนต่างมี รวมตัวกันบริหารจัดการสินค้าเกษตรอินทรีย์ของตำบลแม่ทา ทั้งผัก ไข่ นม และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปอื่นๆ ในชื่อ แม่ทาออร์แกนิค เป็นแบรนด์ สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ขยายตลาดกว้างขึ้นมาก ตอบรับรูปแบบการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน

จุ๋ม สาวิตรี แฝดพี่ ทำหน้าที่รวบรวมผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของตำบล เธอเล่าว่า “เราทำในรูปแบบอินทรีย์ มันไม่ง่าย แต่เราก็อยากให้พ่อๆ แม่ๆ คนปลูกได้ขายผลผลิตทุกหน้าตาทั้งที่สวยและไม่สวย เพราะพวกเราเชื่อว่าเนื้อในมันคือเกรด A ทั้งหมดโฟกัสที่คุณภาพ ไม่มีสารเคมีดีต่อร่างกาย ไม่โฟกัสที่สวยอย่างเดียว จึงต้องมีระบบการจัดการตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้เขาได้กินของดีๆ อร่อยๆ จากพวกเราอย่างทั่วถึง”

แบรนด์ แม่ทาออร์แกนิค เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากตลาดทั้งในห้างสรรพสินค้าใหญ่ในเชียงใหม่และ ภาคเหนือ ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคในกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันก็ยังคงมีผลผลิตสดจากแปลงนำมาขายยังตลาดเกษตรอินทรีย์ในเชียงใหม่ อย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มีการขายส่งยกตะกร้า ร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งออนไลน์เทรดก็ได้รับการตอบรับในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดขณะนี้

คนทำการตลาดอย่าง สราวุธ วงค์กาวิน สามีของจุ๋ม บอกว่า “เราลงมือทำแล้วก็ อยากจะไปให้สุด ทุลักทุเลบ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้เรารู้ว่ามันไปได้”

จากเพื่อน พี่ น้อง ที่เคยวิ่งเล่นด้วยกันมา ไม่เพียงจุ๋มและจิ๋ม หลายๆ คนกลับบ้านมาในวัยที่เต็มไปด้วยกำลังแรงใจ รักชุมชน ช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนแม่ทา จนมองเห็นอนาคตที่ยั่งยืนยาวไกล

จิ๋ม สารินี แฝดน้อง มองอนาคตว่า “มีภาพฝันว่าสถาบันครอบครัวจะให้ความรู้และสร้างการเรียนรู้ให้ลูกหลานได้ดี เพราะเรามีคนมีคุณภาพ แม่ทาเราทำเรื่องเกษตรยั่งยืน เรื่องการอยู่กับความเปลี่ยนแปลงที่มันเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่วันนี้แม่ทายังอยู่ได้ คนแม่ทายังมีรายได้จากกการทำเกษตรอินทรีย์ เลี้ยงตัวเองและครอบครัวบนพื้นฐานของความสุขมากกว่าตัวเงิน”

พี่นก นิรมล เมธีสุวกุล พิธีกรรายการทุ่งแสงตะวัน ตั้งข้อสังเกตว่า “จากประสบการณ์ที่ทำทุ่งแสงตะวันมา ครอบครัวไหนที่เป็นครอบครัวเข้มแข็งและรู้จักถ่ายทอดเรื่องราวเชิงบวกให้ลูก ปลูกฝังไว้ และยิ่งถ้ามีหลายครอบครัวเป็นเครือข่ายอยู่ในหมู่บ้าน ก็จะ แข็งแรงทั้งในครอบครัวและในชุมชนตัวเอง แม่ทาก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดในเรื่อง นี้มาก”

ไม่เพียงที่แม่ทา ยังมีตัวอย่างผู้คนชุมชนอีกหลายแห่งที่ยั่งยืนด้วยระบบเกษตรอินทรีย์พบกับอดีตที่คนรุ่นก่อนฝ่าฟัน ปัจจุบันที่มั่นคง และอนาคตที่ยั่งยืนของชุมชนแม่ทา เชียงใหม่ ในทุ่งแสงตะวัน ตอน ปลูก..ปลูก..ปลูกรัก ทางช่อง 33 เวลา 05.05 น. และทางเพจเฟซบุ๊กทุ่งแสงตะวัน 07.30 น. วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2564

วสวัณณ์ รองเดช

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน