ข้ออ้างของยันตระ หนีเจาะเลือด-ดีเอ็นเอ – สภาพของอดีตพระยันตระที่เดินทางกลับมาไทยในช่วงระยะนี้ เห็นแล้วออกแนวเฮฮามากกว่า ผมยาว หนวดเคราเฟิ้ม แต่งเขียว นุ่งกางเกงเขียว แต่แน่นอนก็ยังมีลีลาการพูดการจาเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน นั่นคือ ไม่ยอมรับความจริง อ้างอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยเปื่อย

อย่างที่หลบหนีคดีออกไปจากประเทศไทยตั้งแต่ปี 2538 นั้น ก็อ้างเหตุผลทำนองว่า เพราะกระบวนการยุติธรรม ขณะนั้นไม่น่าเชื่อถือ

อ้างตาชั่งเอียง อะไรไปโน่นเลย!?

ความที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด เป็นสื่อที่เปิดข่าวเปิดโปงอดีตพระยันตระ และติดตามหาความจริง มีพยานบุคคลและพยานหลักฐานต่างๆ มากมาย มารองรับการนำเสนอข่าว

เปิดข่าวตั้งแต่ 16 มกราคม 2537 นำเสนอต่อเนื่องยาวนานข้ามปี

จนกระทั่ง 31 มีนาคม 2538 ซึ่งเป็นวันอวสาน ยอมถอดผ้าเหลือง หันไปนุ่งห่มเขียว เนื่องจากมีมติมหาเถรสมาคมขีดเส้นตายเอาไว้แล้ว!

ทั้งหมดนี้เพราะข่าวสดสามารถติดตามพยานบุคคลมายืนยันความจริงได้หนาแน่น

มีหลักฐานสำคัญคือสลิปรูดบัตรเครดิตที่มีลายเซ็นชัดเจน ใช้ในการเที่ยวแหล่งโลกีย์ในต่างแดน

หลักฐานหนักแน่นเหล่านี้ ยืนยันพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อสีกาจนมีลูก และพฤติกรรมนอกลู่นอกทางอย่างโจ่งแจ้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีมีลูกกับสีกานั้น ได้มีมติของมหาเถรสมาคมชัดเจนว่า ให้ยันตระพิสูจน์ความจริงด้วยการยอมเจาะเลือดเพื่อตรวจดีเอ็นเอ

เป็นกระบวนการวิทยาศาสตร์ ที่หลักยุติธรรมทั่วโลกเข้าใช้กันทั้งนั้น

แต่ยันตระไม่ยอมเจาะเลือดพิสูจน์ อ้างโน่นนี่ไปเรื่อย ซึ่งน่าจะสรุปได้ว่านี่คือคำรับสารภาพอย่างชัดเจนใน ตัวเอง!!

ดังนั้นที่กลับมาไทยงวดนี้ แล้วอ้างถึงเหตุการณ์ เมื่อ 26-27 ปีก่อน เพราะกระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ เลยต้องหนี

จึงต้องเอาความจริงมาเน้นย้ำกันอีกรอบ

ทั้งที่สีกาที่ถูกล่วงละเมิดและเด็กที่เป็นลูก ยอมเจาะเลือดพร้อมพิสูจน์แล้ว

ทั้งที่มหาเถรสมาคมมีมติแล้วว่า ควรเจาะเลือดตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ แต่ไม่ปฏิบัติตาม!

อีกทั้งยังมีหลักฐานสลิปที่ปรากฏลายเซ็นชัด ไปใช้บริการในสถานที่ไม่เหมาะสม

ทั้งหมดเป็นหลักเป็นฐานไม่มีอะไรเลื่อนลอย

ใช้ความจริงสร้างความถูกต้อง ปกปักรักษาพระพุทธศาสนาให้ผุดผ่อง

จากปี 2537 ที่ข่าวสดเจาะข่าวประวัติศาสตร์ ทั้งยันตระและคดี 2 แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์

จนบัดนี้ ข่าวสดยังคงมีมาตรฐานดังเดิมทั้งใน สื่อหนังสือพิมพ์และสื่อดิจิตอล!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน