ศรีสะเกษ – นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ เผยว่าเดินทางมาสำรวจความพร้อมของการเตรียมที่จะเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชม พบว่ามีการปรับปรุงบริเวณรอบผามออีแดงอย่างสวยงาม สถานที่สะอาด ระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารคอยให้บริการนักท่องเที่ยว อย่างเต็มที่ ส่วนการรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ ตชด.และเจ้าหน้าที่ทหาร มาคอยดูแล
ผามออีแดง เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปอย่างเป็นมุมกว้างได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีธรรมชาติที่สวยงามมาก นักท่องเที่ยวจะมองเห็นสายหมอกที่ลอยอย่างอ้อยอิ่งจากเขตกัมพูชาเข้ามาในเขตแดนไทย พร้อมได้รับอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นมาก ขณะมองเห็นความสวยงามของปราสาทพระวิหารได้ด้วยตาเปล่าค่อนข้างชัดเจน
นายวัฒนากล่าวว่า การมาเยือนวันนี้มาด้วย 2 สถานะ คือหนึ่งดูภารกิจภาพรวมของ จ.ศรีสะเกษ และอีกส่วนหนึ่งในฐานะประธาน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งในแนวทางแรกก็คือตามที่นโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการเปิดการท่องเที่ยว หลังจากมีการเปิดจังหวัดนำร่องต่างๆ ที่มีความพร้อมในกิจกรรม
สำหรับจังหวัดศรีสะเกษเตรียมความพร้อมต่างๆ และคิดว่าสถานการณ์โควิดต่างๆ เราก็ผ่อนคลายไปมากแล้วก็ควรที่จะได้มีการเปิดพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวนี้ศรีสะเกษก็เป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะฉะนั้น เป้าหมายแรกของเราก็คือเราก็มองมาที่ผามออีแดง ซึ่งนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวหมอกจะสวยงามมาก
ทั้งนี้ การวางมาตรการจะทำให้สอดคล้องกับมาตรการของ ศบค. และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ไม่ให้คนมารวมตัวกันมากๆ ช่วงคาบของการท่องเที่ยว 2-3 ชั่วโมงในแต่ละรอบ กำหนดให้อนุญาตคนขึ้นมาท่องเที่ยวที่ผามออีแดงประมาณ 600 คน เฉลี่ยเป็นผลัด มีการจองล่วงหน้าผ่านระบบต่างๆ ของทางอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้จองมาก่อนและตอนนี้ก็ยังงดให้เข้าพักในเขตอุทยานแต่ว่าจะอนุญาตให้จองเพื่อให้เข้าพักในลักษณะของเต็นท์ของอุทยานเพียงคืนละ 30 คนเท่านั้น