เพื่อไทยซัดการศึกษาไทยบิดเบี้ยว – เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) แถลงว่า ขณะนี้ระบบการศึกษาไทยกำลังผุพังล้มเหลว จากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบหลายด้าน แต่ที่สร้างผลกระทบระยะยาวคือ โครงสร้างการศึกษาที่บิดเบี้ยว สะท้อนได้จากเด็กและเยาวชนยังคงหลุดออกจากระบบการศึกษา และครูที่ตัดสินใจลาออก เพราะเน้นคุณค่าการทำประเมินผลงานเลื่อนวิทยฐานะ สำคัญกว่าการสอนเด็กนักเรียน อีกทั้ง ยังเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการเลื่อนระดับวิทยฐานะด้วย

“หากรัฐกล้าทุ่มงบประมาณไปกับความมั่นคง ทั้งการจ้างนายพล ไปจนถึงพลทหาร กล้าจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ กล้าลงทุนซื้อเรือดำน้ำได้ ก็ต้องกล้าที่จะลงทุนกับการศึกษา โดยรัฐบาลต้องจ้างครูในอัตราเงินเดือนที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่กันดาร รองรับเด็กด้อยโอกาสเพื่อไม่ให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา เร่งปฏิรูประบบงบ จัดสรรตามความจำเป็นและพื้นที่” รองเลขาธิการ พท. กล่าว

น.ส.อรุณีกล่าวอีกว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่มีถึง 110 มาตรา ล้วนเต็มไปด้วยการจัดตั้งหน่วยงาน องค์กร และคณะกรรมการ แต่ไม่มีการกล่าวถึงสิ่งที่เด็กและครูผู้สอนจะได้ประโยชน์ภายใต้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จึงอยากให้ทุกหน่วยงานเปลี่ยนแนวคิดใหม่ การศึกษาคือการลงทุน เปิดพื้นที่ให้บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมกับการกำหนดยุทธศาสตร์การเรียนการสอน เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ ที่ใช้แนวคิดนี้เปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาให้เป็นต้นแบบในหลายประเทศ

“ฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมว่า ไม่มีชาติใดในโลกที่พัฒนาได้ หากไม่พัฒนาการศึกษา ที่สำคัญปัญหาการศึกษาไม่สามารถแก้ได้ด้วยกฎหมายและอำนาจ เมื่อเรามีผู้นำที่ยังไม่เข้าใจบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลง ไม่น่าแปลกใจที่การศึกษาไทยจะตกต่ำลงทุกปี” น.ส.อรุณีกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน