ชัยชนะ และพ่ายแพ้ ต้นปี 1928(23) – เหมาเขียนต่อไปว่า องค์กรชี้นำชั้นสูงของพรรคในเวลานั้น คือ คณะกรรมการสู้ศึกแนวหน้ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการมณฑลหูหนาน เมื่อครั้งลุกขึ้นสู้ในหน้าเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อต้นเดือนมีนาคม 1928 คณะกรรมการสู้สึกแนวหน้าได้ยุบเลิกไป

ตามคำขอร้องของคณะกรรมการพิเศษภาคใต้หูหนาน ปรับปรุงจัดตั้งเป็นคณะกรรมการกองพล กลายเป็นองค์การที่คุมงานเฉพาะแต่พรรคในกองทัพเท่านั้น

จะเกี่ยวข้องงานของพรรคในท้องถิ่นไม่ได้

ในขณะเดียวกัน โดยคำขอร้องของคณะกรรมการพิเศษภาคใต้หูหนาน กองทหารก็โยกย้ายไปยังภาคใต้หูหนานเสีย

ดังนั้น จึงทำให้เขตแดนต่อแดนถูกข้าศึกยึดครองอยู่เป็นเวลาเดือนกว่า

ปลายเดือนมีนาคม ภาคใต้หูหนานต้องประสบความพ่ายแพ้ เดือนเมษายน กองทหารภายใต้บังคับบัญชาของจูเต๋อและกองทหารภายใต้ลังคับบัญชาของเหมากับกองทัพชาวนาภาคใต้หูหนาน

ได้ถอยไปหนิงกังและเริ่มแข็งอำนาจขึ้นในเขตแดนต่อแดนอีก

หลังจากเดือนเมษายน(1928) การแข็งอำนาจในเขตแดนต่อแดนหูหนาน เจียงซี ประจวบกับเวลาที่อิทธิพลปกครองทางภาคใต้มีเสถียรภาพชั่วคราว กองทหารปฏิกิริยาที่ทางมณฑลหูหนานเจียงซีส่งมาปราบ

อย่างน้อยมี 8-9 กรม ที่มากันมากๆเคยมีถึง 18 กรม

แต่เราใช้กำลังทหารไม่ถึง 4 กรมต่อสู้กับข้าศึกนานถึง 4 เดือน ทำให้เขตแข็งอำนาจขยายกว้างออกไปทุกวันๆ การปฏิวัติที่ดินซึมลึกลงไปทุกวันๆ อำนาจรัฐของมวลชนแผ่กว้างออกไปทุกวันๆ

กองทัพแดงและกองรักษาการณ์แดงขยายออกไปทุกวันๆ

ทั้งนี้ก็เพราะนโยบายของพรรคในเขตแดนต่อแดน(ทั้งพรรคในท้องถิ่นและพรรคในกองทัพ)เป็นนโยบายที่ถูกต้อง นโยบายของคณะกรรมการพิเศษเขตแดนต่อแดน(เหมาเป็นเลขาธิการ)

และคณะกรรมการกองทัพ(เฉินอี้เป็นเลขาธิการ) ในเวลานั้น

คือ ต่อสู้กับข้าศึกอย่างเด็ดเดี่ยว สร่างอำนาจรัฐขึ้นในตอนกลางเทือกเขาหลอเซียวซาน คัดค้านลัทธิวิ่งหนี ให้การปฏิวัติที่ดินในเขตแข็งอำนาจซึมลึกลงไป พรรคในกองทัพช่วยพรรคท้องถิ่นขยายตัว

กองกำลังอาวุธของกองทัพช่วยกองกำลังอาวุธท้องถิ่นขยายตัว

ใช้การรับต่ออิทธิพลปกครองที่ค่อนข้างอ่อนแอในเจียงซี ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ขยายงานในหย่งซิน สร้างการแข็งอำนาจของมวลชนขึ้น วางแผนสำหรับต่อสู้ระยะยาว

รวมศูนย์กองทัพแดงรับมือกับข้าศึกเฉพาะหน้าเมื่อได้โอกาส

คัดค้านการแยกกำลังทหารเพื่อหลีกเลี่ยงจากการถูกข้าศึกตีแกตทีละส่วน ใช้นโยบายรุดหน้าแบบระลอกคลื่นในการขยายเขตแข็งอำนาจ คัดค้านนโยบายรุดไปอย่างเสี่ยง

เนื่องจากความเหมาะสมของยุทธวิธีเหล่านี้

ประกอบกับชัยภูมิในเขตแดนต่อแดนเป็นประโยชน์แก่การต่อสู้ และกองทหารที่รุกมาจากมณฑลหูหนานและเจียงซีก็ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนัก ดังนั้น จึงได้มีชัยชนะทางการทหารครั้งต่างๆ

และการขยายตัวของการแข็งอำนาจของมวลชนในช่วงเวลา 4 เดือนตั้งแต่เมษายนถึงกรกฎาคม

แม้ข้าศึกจะมีกำลังมากกว่าเราหลายเท่า แต่ก็ไม่สามารถทำลายการแข็งอำนาจนี้ได้ ซ้ำยังไม่สามารถ ขัดขวางการขยายตัวของการแข็งอำนาจด้วย

ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของการต่อต้าน”การล้อมปราบ”

ส่วนผลสะเทือนที่มีต่อมณฑลหูหนานและเจียงซีของการแข็งอำนาจนี้ก็มีท่าว่าจะขยายกว้างออกไปทุกวันๆ ความพ่ายแพ้เดือนสิงหาคมล้วนเนื่องมาจากสหายส่วนหนึ่งไม่เข้าใจว่า

เวลานั้นพอดีเป็นเวลาที่ชนชั้นปกครองมีเสถียรภาพชั่วคราว

กลับไปใช้นโยบายที่ใช้ในเวลาที่ชนชั้นปกครองแตกกัน โดยแยกกำลังทหารทุกอย่างเสี่ยงไปทางภาคใต้หูหนาน จนทำให้เขตแดนต่อแดนและภาคใต้หูหนานต้องประสบความพ่ายแพ้ไปด้วยกัน

ตู้ซิวจิง ผู้แทนคณะกรรมการมณฑลหูหนาน และหยางไคหมิง

ซึ่งคณะกรรมการมณฑลได้ส่งไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเขตแดนต่อแดน ได้ฉวยโอกาสมในขณะที่เหมา หว่านซีเซียนและคนอื่นๆซึ่งถือความเห็นที่ต่างกันอย่างแข็งขันอยู่ไกลถึงหย่งซิน

ไม่เข้าใจชัดถึงสภาพแวดล้อมในขณะนั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน