คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…มันฯ มือเสือ
จังหวะยุบสภา ของพล.อ.ประยุทธ์
หลังรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มีผลบังคับใช้ เปลี่ยนมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
หลายคนเริ่มคาดการณ์ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่จะเร่งเร้าให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจยุบสภาก่อนครบวาระต้นปี 66
ปัจจัยแรกคือกระบวนการจัดทำ 2 กฎหมายลูก พ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. กับพ.ร.ป.พรรคการเมือง
หากยึดไทม์ไลน์ตามที่นายวิษณุ เครืองาม ระบุ กระบวนการทุกอย่างจะจบในราวเดือนก.ค. 65
ถึงตอนนั้นกระแสกดดันยุบสภาพุ่งเข้าใส่นายกฯ เต็มแรง
หนำซ้ำถัดมาเดือนส.ค.65 ยังต้องเจอประเด็นปัญหาตีความเกี่ยวกับวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กระแสกดดันก็จะหนักหน่วงขึ้นหลายเท่าตัว
ซึ่งแรงกดดันนี้จะสวนทางความมุ่งหมายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่อยากให้ผ่านพ้นช่วงประชุมเอเปกปลายปี 65 ไปก่อน
ส่วนหนึ่งเนื่องจากมั่นใจว่า ถึงตอนนั้นปัญหาโควิดน่าจะหมดไป เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น
การรับบทผู้นำประชุมเอเปกจะมีส่วนช่วยให้กลับมาได้รับคะแนนนิยมทางการเมืองสูงสุดอีกครั้ง เหมือนช่วงแรกของการเข้ารับตำแหน่งนายกฯ เมื่อ 8 ปีก่อน
หลังประชุมเอเปก รัฐบาลก็เหลืออายุ อีกแค่ 4-5 เดือน ความเป็นไปได้ที่จะยุบสภาจึงมีสูงในตอนนั้น
แต่ในทางการเมืองความหวังกับความจริงอาจเป็นหนังคนละม้วน
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ไปไม่ถึงฝั่งฝัน คือความแตกแยกภายใน พลังประชารัฐ ที่ร้อนระอุต่อเนื่องมาตั้งแต่หลังศึกซักฟอกเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
ตอนนี้ไม่เพียงเคลียร์กันไม่จบ รอยแตกยังขยายกว้างกว่าเดิม
สะท้อนจากทันทีที่พล.อ.ประวิตร ยืนยันภายใต้ความผูกพันนานกว่า 40 ปี มีแต่ความตายที่จะทำให้แยกจากพล.อ. ประยุทธ์ได้
ก็ปรากฏข่าวบางกลุ่มในพลังประชารัฐเตรียมไหลกลับไปอยู่เพื่อไทย บางคน ก็มีข่าวเตรียมย้ายซบภูมิใจไทย
ล่าสุดยังมีกลุ่ม 4 กุมารที่ระเห็จออกจากพลังประชารัฐในสภาพบอบช้ำ กำลังต่อสายเจรจานักการเมืองและ อดีตนักการเมืองมาร่วมก่อตั้งพรรคใหม่
ก็ต้องดูว่าจะมีคนในพลังประชารัฐโดนดึงไปอยู่ด้วยหรือไม่
เมื่อหมาเจ็บ เห็บจึงโดดหนี
ในสภาพการณ์แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะลากสังขารไปถึงปลายปี 65 ได้หรือไม่
น่าลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง
มันฯ มือเสือ