ลุ้นค่าชาร์จรถอีวีเอกชนกกพ.เร่งศึกษาอัตราราคาค่าไฟฟ้าชาร์จอีวี สำหรับผู้ติดตั้งและผู้ใช้รถอีวีที่ปัจจุบันกำหนดราคาชาร์จชั่วคราวขายส่งที่ 2.63 บาทต่อหน่วย ระบุเอกชนลงทุนติดตั้งในพื้นที่กทม.อาจจะไม่คุ้มทุน

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อกำหนดราคาค่าไฟฟ้าของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รองรับความต้องการใช้รถอีวีในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงพลังงานที่ขับเคลื่อนแผนด้านพลังงานภายใต้มิติ “Collaboration for Change : C4C ก้าวสู่ยุคพลังงานสะอาด ซึ่งเน้นพัฒนาด้านพลังงาน 3 ด้าน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เสริมสร้างเศรษฐกิจ เป็นไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลกเพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อน

“จากการศึกษากลไกของไทยเบื้องต้น กกพ.ได้กำหนดค่าไฟฟ้ากรณีชาร์จที่บ้านไว้อยู่แล้ว ส่วนกรณีผู้ติดตั้งสถานีชาร์จอีวีจะมีราคาขายส่งที่เท่าเทียมกัน อยู่ที่ว่าเอกชนที่ติดตั้งจะไปบวกราคาค่าบริการเท่าไหร่ ส่วนมากจะคิดเพิ่มตามโลเกชั่นหรือย่านเศรษฐกิจ อาจมีค่าบริการที่สูง เหมือนกับการเช่าที่ขายสินค้า แต่ที่เห็นคือการติดตั้งสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ จะไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้บริการ ซึ่งคนที่ต้องการใช้สถานีชาร์จอีวีในกรุงเทพฯ ส่วนมากจะใช้บริการเพื่อการจอดรถมากกว่า และกลับไปชาร์จไฟที่บ้าน เพราะมีราคาที่ถูกกว่า”

นายคมกฤชกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลต้องดูภาพรวมการใช้รถอีวี ซึ่งถ้าใช้จริงดีกว่าอยู่แล้ว เพราะอะไหล่รถอีวีจะมีชิ้นส่วนน้อยชิ้น เมื่อเทียบกับรถสันดาป แต่ถ้ายอดการใช้รถอีวีมาเร็วอีกประเด็นคือ หลายโรงงานจะต้องปิดตัวลง เช่น โรงงานผลิตท่อไอเสีย และหัวเทียน บางโรงงานที่ผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป หรือ ICE กระทบแน่นอน เพราะถ้าจะให้เปลี่ยนมาเป็นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ EV จะต้องลงทุน โรงงานเดิมก็ขาดทุน ดังนั้นจึงต้องมีขั้นตอนให้มีการปรับตัว

ในส่วนของ กกพ.ได้ออกประกาศกำกับอัตราค่าไฟฟ้าและ การจัดการระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับสถานีอัดประจุ ไฟฟ้าของรถอีวี เมื่อช่วงเดือนธ.ค.2563 โดยการกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับปั๊มชาร์จ (ขายส่ง) อยู่ที่ 2.63 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นอัตราที่หักค่าพลังงานไฟฟ้าหรือค่าลงทุนโรงไฟฟ้า ระบบส่ง ออกจากสูตรค่าไฟฟ้าฐานที่คิดสำหรับอีวี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนประเภทหัวจ่ายเร่งด่วนหรือควิกชาร์จกระจายในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นอัตราชั่วคราทดลองใช้ 2 ปี (2563-2564)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน