คดีดังปี64 ‘ผกก.โจ้ ถุงดำ’
คำสารภาพสะเทือนวงการสีกากี

ในห้วงปี 2564 ที่ผ่านมา หากพูดถึงคดีที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการสีกากีมากที่สุดคงหนีไม่พ้น คดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ นายตำรวจหนุ่มไฮโซ ที่ลงมือซ้อมทรมานประชาชนที่อ้างว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดเสียชีวิตคาโรงพักเมืองนครสวรรค์ ก่อนจัดฉากให้ลูกน้องนำส่งโรงพยาบาล ให้แพทย์เขียนสาเหตุการตายว่าเกิดจากการเสพยาเกินขนาด

ยิ่งเมื่อเจ้าตัวเข้ามอบตัวพร้อมคำสารภาพจากปากที่ว่า ไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่เป็นการทำหน้าที่ติดตามจับยาเสพติด ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัย ของตำรวจซึ่งถือเป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม ว่า ยังมีตำรวจบางนายใช้วิธีซ้อมทรมานในการแสวงหา ความจริง

อีกทั้งคดีนี้ผู้ต้องหาถูกกล่าวขวัญว่าแบ๊กดี และนายตำรวจ ดาวรุ่ง ฐานะร่ำรวยมหาศาล เป็นเจ้าของรถหรูกว่า 30 คัน มีคฤหาสน์หรูมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ขณะที่รับเงินเดือนจากราชการเพียงเดือนละ 4 หมื่นบาทเท่านั้น จนถูกจับตาว่าจะมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันหรือไม่

แต่ในที่สุด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีการช่วยเหลือคนผิดอย่างแน่นอน

จุดเริ่มต้นของคดีฉาว

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฏเป็นที่รับรู้ของสังคม เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เมื่อนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์ โพสต์ข้อความถึงผบ.ตร.และผบช.ภาค 6 ระบุว่ามีเรื่องร้องเรียนจากตำรวจชั้นผู้น้อย

ระบุว่าเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2564 ชุดจับกุมยาเสพติดของสภ.เมือง จ.นครสวรรค์ จับผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 1 แสนเม็ด ก่อนคุมตัวมาที่สภ.เมืองนครสวรรค์ แล้วเรียกเงินจากผู้ต้องหา 1 ล้านบาท จนผู้ต้องหายอม แต่ตำรวจยศพ.ต.อ.บอกไม่ยอม จะเอา 2 ล้านบาท

ก่อนที่จะใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนขาดอากาศหายใจ เมื่อตายแล้วให้ลูกน้องนำศพไปส่งโรงพยาบาล แล้วบอกกับหมอว่าเสพยาเกินขนาด

ขณะเดียวกัน ตำรวจทีมนี้ปล่อยผู้ต้องหาหญิงไป ขู่ว่าห้ามพูดอะไรไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีข้อหาค้ายาเสพติด

พร้อมสั่งลูกน้องให้ไปเรียกพ่อผู้ตายมาเคลียร์คดี อ้างว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง และที่ต้องมาร้องเรียนเพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม และหากปล่อยให้ลอยนวล ตำรวจชั้น ผู้น้อยที่ให้เบาะแสอาจเป็นอันตรายได้

ตร.สั่งสอบสวนทันที

พล.ต.อ.สุวัฒน์สั่งการ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ รุดคลี่คลายว่าข้อร้องเรียนจริงหรือไม่ ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภาค 6 ก็มีคำสั่งให้พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไปปฏิบัติราชการที่ศปก.ภาค 6

ด้านพ.ต.อ.ธิติสรรค์ให้สัมภาษณ์เมื่อโดนย้ายว่า ยืนยันไม่ได้ซ้อม หรือทำร้ายใดๆ การเสียชีวิตครอบครัวน้องที่ตายก็ทราบว่ามีโรคประจำตัว ส่วนเรื่องเรียกร้องเงินทอง ยืนยันว่าในฐานะตำรวจไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ ทีมงานของตนก็ไม่เคยทำ

ขณะที่พ่อของผู้เสียชีวิต ก็ระบุว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการจับตัวรีดค่าไถ่ยาเสพติด วันเกิดเหตุลูกชายพาลูกสะใภ้เข้าเมืองเพื่อทำหน้า แต่ระหว่างทางเกิดน็อก เนื่องจากพักผ่อนน้อย สูบบุหรี่จัด อ้วนและเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ตำรวจช่วยพาส่งร.พ.ปริ๊น ปากน้ำโพ เอกซเรย์ปอดพบฝ้า จึงนำส่งต่อที่ร.พ.สวรรค์ประชารักษ์ ก่อนจะเสียชีวิต ในเวลาต่อมา

“ผู้กำกับเป็นคนดีมาก พยายามช่วยลูกผมเต็มที่ หลังลูกตาย ผู้กำกับยังคุกเข่ากอดผมร้องไห้ด้วยความเสียใจ บอกยินดีจะช่วยเหลือเต็มที่หากมีอะไรขัดข้อง”

แต่เมื่อคลิปลับโผล่ ทุกอย่างก็พลิกผัน

เจอคลิปมัด

บ่ายของวันที่ 24 ส.ค. โลกออนไลน์ก็ร้อนระอุ เมื่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายชื่อดังโพสต์คลิปวิดีโอความยาว 1.21 นาที ระบุว่าเป็นพฤติกรรมของ ผกก.โจ้ ขณะใช้ถุงครอบศีรษะผู้ต้องหา พร้อมทำร้ายทุบไปที่กลางหลัง มีเสียงข่มขู่มาเป็นระยะ

จากนั้นก็มีคลิปอีกอันเป็นเหตุการณ์หลังจากที่ผู้ต้องหาล้มแน่นิ่งไปแล้ว เป็นภาพพยายามปั๊มหัวใจ และสาดน้ำใส่ หวังให้คืนสติ ตามมาด้วยคลิปยาวเกือบ 10 นาที บันทึกพฤติกรรมของผกก.โจ้ และลูกน้องอีก 6 คน ถึงพฤติกรรมรุมทำร้าย ใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ จนแน่นิ่ง ก่อนมีตำรวจปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่เป็นผล

ต่อมาศาลจังหวัดนครสวรรค์ ก็อนุมัติหมายจับ 7 ตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนคร สวรรค์ พ.ต.ต.รวิโรจน์ ดิษทอง สว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค รอง สวป.สภ.เมืองนครสวรรค์ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา รอง สว.(ป) สภ.เมืองนครสวรรค์ ด.ต.ศุภกร นิ่มชื่น ผบ.หมู่(ป) สภ.เมืองนครสวรรค์ ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว รอง ผบ.หมู่(ป) สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ผบ.หมู่(ป) สภ.ตาคลี

ทั้งหมดถูกข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ก่อนที่ทั้งหมดจะทยอยมอบตัว

ค้นคฤหาสน์ขยายผลที่มาเงิน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 เข้าตรวจสอบคฤหาสน์หรูของผกก.โจ้ ในหมู่บ้านหรู แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. พบเป็นบ้านเนื้อที่กว่า 5 ไร่ มีโรงรถหรูซูเปอร์คาร์หลายคัน

คนดูแลบ้านยอมรับเป็นบ้านของผกก.โจ้ โดยจะเดินทางมาทุกเสาร์-อาทิตย์ แต่ช่วงนี้ไม่ได้มา

ทรัพย์สินที่มีมากมายสวนทางกับเงินเดือนราชการจึงมี การสอบสวนแหล่งที่มาของเงินกระทั่งพบว่าสมัยเป็นสารวัตรปราบปรามยาเสพติด เจ้าตัวนำจับรถหรูที่ถูกขโมยมาจำนวน 400 กว่าคัน ส่งประมูลที่กรมศุลกากรมีเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากรางวัลนำจับรถหรูกับการประมูลรถหรูมากถึงเกือบ 600 ล้านบาท ชัดเจนว่าน่าจะมีความไม่ชอบมาพากล พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.จึงนำทีมสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิด จนพบว่ามี ทั้งข้าราชการตำรวจและศุลกากรที่อาจจะรู้เห็นเป็นใจด้วย ซึ่งจะแยกเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก

คำสารภาพหลังมอบตัว

ในช่วงเย็นวันที่ 26 ส.ค. ผกก.โจ้นัดมอบตัวที่จ.ชลบุรี พื้นที่ สภ.แสนสุข จากนั้นนำตัวกลับมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดยพ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีลักษณะซูบผอมหนักอย่างเห็นได้ชัดและต้องใส่เสื้อเกราะอยู่ตลอด ขณะที่พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เดินทางมาสอบสวนด้วยตัวเอง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ให้ผกก.โจ้ โฟนอินเข้ามาชี้แจง โดยเจ้าตัวระบุว่า ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเขา แต่ต้องการทำลายยาเสพติด ขอรับผิดแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับลูกน้องเพราะตนเป็นผู้สั่งการ ซึ่งลูกน้องก็มีการห้ามปรามแล้ว เราต้องการทำงานเรื่องเรียกรับเงินไม่มี สาบานได้ชีวิตราชการไม่มีทุจริตเรื่องเงิน ขอยืนยันไม่มีใครเรียก 20 ล้าน และไม่มีการจ่ายเงินเพื่อปิดคดี เพียงแต่ช่วยทำบุญงานศพไป 3 หมื่นบาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องการถามหายาเสพติดเท่านั้น ส่วนการใช้ถุงดำคลุมก็เพียงต้องการให้ผู้เสียชีวิตไม่เห็นหน้าตน จากสิ่งที่เกิดขึ้นก็รู้สึกช็อกและทำอะไรไม่ถูก จึงสั่งให้ไปถอดวงจรปิด

ส่วนเรื่องซ้อมทรมานทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เพราะต้องการปราบยาเสพติด ปกป้องคนนครสวรรค์และประชาชน ส่วนที่หายไปไม่ได้หลบหนีและไม่มีใครพาหนี แต่ตนไปตั้งหลักเท่านั้น ขอโทษที่ทำให้ภาพลักษณ์ตำรวจเสียหาย

ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา

ผกก.โจ้และลูกน้องถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ได้แก่ เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157, ในความผิด ม.172 ตาม พ.ร.ป., ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นฯ ซึ่ง 3 ข้อหาแรก ผกก.โจ้รับสารภาพทั้งหมด แต่ข้อหาสำคัญคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยแถลงต่อศาลว่า ตนเองและลูกน้องไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย แต่ต้องการต้องการขยายผลการ จับกุมยาเสพติด ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา สังคม ยืนยันมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่มีเจตนากระทำการทุจริตใดๆ ต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลเงินจากผู้ตาย จึงขอความเมตตาต่อศาล

ขณะที่การเอาผิดทางวินัย ตร.ก็มีมติให้ไล่ออกตำรวจทั้ง 7 นาย ส่วนคดีอาญาเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องจับตาดูว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร

คุมส่งฝากขัง

1.ผกก.โจ้เปิดใจหลังมอบตัว 2.รถหรูบ้านผกก.โจ้ 3.คลิปมัดตัว 4.คฤหาสน์สุดหรู

พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน